บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“เฮ้อ” เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างหนักๆ ไบรอัน มองไปยังบ้านหลังใหญ่ด้วยแววตาเจ็บปวด บ้านหลังนี้เมื่อก่อนมีลูกน้องคอยดูแลความปลอดภัยตามจุดต่างๆ นับสิบคน แต่ทว่าตอนนี้กลับเหลือเพียงจักรคนเดียว นอกนั้นก็เป็นแม่บ้านผู้หญิง

สาเหตุที่เป็นแบบนั้น เพราะตอนนี้บรรดาลูกน้องที่เคยอยู่รับใช้เขาต่างแปรพักตร์ไปเข้าพวกกับกลุ่มใหม่ คนที่มีฝีมือมากหน่อยก็อาจไปเพราะถูกซื้อตัว นอกจากลูกน้องแล้ว ไบรอันยังต้องสูญเสียงานที่สร้างเม็ดเงินให้หลายตัว ทั้งบ่อน ทั้งค่าคุ้มครองและอื่นๆ นั่นทำให้คำว่าเงิน อำนาจและบารมีที่ไบรอันครอบครองมาหลายสิบปี กำลังจะเป็นเพียงแค่อดีต

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูห้องทำงานของไบรอันดังขึ้น นั่นทำให้เจ้าของห้องที่เมื่อครู่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดต้องดึงสติกลับมา พร้อมกับปรับอารมณ์อีกนิดเพื่อรับคนที่กำลังจะเข้ามา ซึ่งไบรอันรู้ว่าคือใคร

“เตยเองค่ะคุณพ่อ” หลังสิ้นเสียงเคาะประตูห้อง เสียงสดใสของหญิงสาววัยยี่สิบสองปีที่ชื่อว่าลลิตาเอ่ยขึ้น เธอคือลูกสาวคนเดียวของไบรอัน

ลลิตาเติบโตมาอย่างสวยงาม รอบข้างๆ มีแต่คนให้ความเคารพ เพราะแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเด็ก พ่อจึงรับหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้เธอในเวลาเดียวกัน แต่ลลิตาก็ไม่ได้มองว่าเธอขาดความรักอะไร

“เข้ามาสิลูก”

“คุณพ่องานยุ่งอยู่ไหมคะ” น้ำเสียงสดใสของลลิตาเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ผู้เป็นพ่อ

“ไม่จ้ะ” ไบรอันส่ายหน้าให้ เพราะต่อให้งานจะยุ่งสักแค่ไหน แต่เมื่อไหร่ที่ลูกสาวคนนี้ต้องการ เขาก็พร้อมละทิ้งงานพวกนั้นไปก่อนชั่วคราว

“งั้นดีเลยค่ะ เพราะเตยพึ่งอบขนมเสร็จ เลยจะมาชวนคุณพ่อไปนั่งจิบชายามบ่ายด้วยกัน”

“ไปสิลูก” เสียงทุ้มที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นเอ่ยรับ จากนั้นก็เดินตามลูกสาวไปยังสวน ที่เวลานี้บนโต๊ะมีชุดน้ำชาและขนมวางอยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือครัวซองต์ซึ่งเป็นขนมโปรดของเขา

“คุณพ่อนั่งตรงนี้นะคะ” ลลิตาจัดแจงให้ผู้เป็นพ่อนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้า จากนั้นเธอก็เดินอ้อมไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

“จ้ะ”

“นี่ค่ะ ครัวซองต์ของโปรดของคุณพ่อ” ขณะเอ่ยบอกก็ใช้ที่คีบสีชมพูพาสเทลคีบครัวซองต์ใส่จานให้พ่อไปหนึ่งชิ้น ตามด้วยรินชาร้อนๆ ใส่แก้วให้

ไบรอันจิบชาในแก้วก่อน กลิ่นหอมๆ ของชาอบอวลอยู่ในปากและจมูก ก่อนจะชิมรสชาติของครัวซองต์ฝีมือ ลลิตาอย่างตั้งใจ

“อื้ม...ครัวซองต์อร่อยเข้ากับชาหอมๆ แก้วนี้ดีจัง”

“ดีใจจังที่คุณพ่อชอบ” ใบหน้าของลลิตาเต็มไปด้วยความสุข

“พ่อชอบหมด ขอแค่ลูกทำให้” นั่นเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลลิตาทำขนมให้ไบรอันได้กิน เพราะเพียงแค่เขาเปรยว่าอยากกินอะไร ลูกสาวคนนี้ก็มักจะทำให้เสมอๆ ต่อให้ตอนนั้นยังทำไม่ได้ก็ไปซุ่มเรียนจนทำได้สำเร็จ และกลับมาโชว์ฝีมือให้เขาชิมอยู่ตลอด

อย่างครัวซองต์วันนี้ เขาจะมีร้านโปรดที่แวะเวียนไปกินที่ร้านหรือไม่ก็สั่งให้คนไปซื้อ แต่จู่ๆ ร้านนั้นก็ปิดตัวลงไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ลลิตารู้เข้าจึงอาสาจะลองทำครัวซองต์ให้เขาชิม แม้รสชาติของมันจะไม่เหมือนร้านนั้น แต่ไบรอันกลับกินแล้วมีความสุขกว่าหลายเท่า

“รักคุณพ่อที่สุดเลยค่ะ”

“พ่อก็รักลูก”

“งั้นก็กินอีกชิ้นนะคะ” ลลิตายิ้มออกมาแล้วคีบ ครัวซองต์ใส่จานให้พ่ออีกชิ้น จากนั้นทั้งคู่ก็นั่งจิบชากินครัวซองต์ยามบ่ายด้วยกัน ยิ่งวันนี้อากาศกำลังดีด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีความสุข

“เตย”

“คะ”

“ถ้าวันหนึ่งไม่มีพ่ออยู่ ลูกต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้รู้ไหม”

“ทำไมคุณพ่อถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ” น้ำเสียงของ ลลิตาสั่นเล็กๆ เธอยังไม่พร้อมที่จะให้วันนั้นมาถึง พ่อต้องอยู่กับเธอไปนานๆ สิ ไม่ใช่พูดเป็นลางแบบนี้

ลลิตารับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับพ่อ กับทุกอย่างในบ้านเสมอ แม้จะไม่พูดแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เห็น เธอจึงค่อยๆ ปรับตัวตามไปด้วยเช่นกัน

จากความเฟื่องฟู ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย อยากได้ อยากกิน อยากไปไหน แค่เอ่ยปากพ่อก็รีบจัดการให้ แต่สองสามปีมานี้ความเฟื่องฟูที่เคยมีกลับค่อยๆ ลดน้อยลงไป แต่ถึงอย่างนั้นพ่อก็ยังมอบความสุขสบายให้ลลิตาไม่เปลี่ยน

“พ่ออยากเลี้ยงดูลูกให้ดีกว่านี้ แต่...”

“คุณพ่อเลี้ยงดูเตยได้เป็นอย่างดีค่ะ ดีที่สุด ดีกว่าใครๆ” ลลิตาเอ่ยแทรกขึ้น เพราะอยากให้กำลังใจผู้เป็นพ่อ ต่อให้พ่อจะร้ายกาจหรือใจร้ายในสายตาใคร แต่พ่อคนนนี้คือพ่อที่แสนดีสำหรับเธอเสมอ

ตอนที่ยังเล็ก ลลิตาไม่รู้ว่าพ่อนั้นทำงานอะไร กระทั่งโตขึ้นมาจึงค่อยๆ รู้ การปฏิบัติต่อเธอในฐานะลูกสาวของไบรอันราวกับเจ้าหญิง แต่เธอก็ไม่เคยหยิ่งผยองในสิ่งที่ได้มา กลับนิ่งถ่อมตนให้มาก เพราะวงการสีดำมันไม่มีอะไรจีรัง แม้กระทั่งความรัก

ลลิตารับรู้ได้ถึงความทุกข์ใจที่เกิดขึ้นกับพ่อได้ เมื่อก่อนความเปลี่ยนแปลงมันค่อยๆ มีขึ้นจนเธอแทบไม่รู้สึก แต่หกเดือนมานี้กลับชัดเจน โดยเฉพาะบรรดาลูกน้องของพ่อที่หายหน้าหายตาไป เหลือเพียงจักรคนเดียวเท่านั้น นั่นทำให้ลลิตาเลือกจะช่วยเหลืองานบ้านมากขึ้น เข้าครัวทำกับข้าว ทำขนม แม้จะไม่มีความรู้เลย ก็ค่อยๆ เรียนจากแม่บ้านหรือไม่ก็เปิดดูจากยูทูป

อีกสองอาทิตย์เธอก็จะไปทำงาน เป็นการทำงานครั้งแรกก็ว่าได้ ซึ่งบริษัทที่รับเธอนั้นเป็นบริษัทต่างชาติรายใหญ่ ที่ธุรกิจมีความมั่นคง และหากอนาคตพ่อจะวางมือจากงานที่ทำอยู่ เธอก็คงทำงานหาเลี้ยงได้ไม่ยาก

“เตยคิดว่าบ้านหลังนี้มันออกจะใหญ่เกินไปสำหรับเราสองคนนะคะพ่อ” ลลิตาเปรยขึ้น เพราะเมื่อหลายวันก่อนเธอบังเอิญได้ยินพ่อคุยเรื่องจะขายบ้านกับจักร และเธอก็พอจะเดาถึงเหตุผลที่พ่อเอ่ยแบบนั้นได้ เพราะยิ่งบ้านหลังใหญ่เท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งมากตามไปด้วย ค่าอยู่ค่ากินค่าเงินเดือนคนที่ยังอยู่ ถ้าพ่อไม่อับจนหนทางจริงๆ ก็คงไม่พูดแบบนั้น

“เตย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel