บทที่ 5 ยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ
เช้าวันต่อมา มหาลัยJ
"บุ้ง! ยัยบุ้ง!!"เสียงน้ำหนึ่งเอ่ยเรียกเพื่อนสาวเสียงดัง
"ว่าไง”
"เป็นอะไรเหม่อลอยแต่เช้าเลย แล้วนี่เเต่งตัวอะไรยะ อากาศร้อนจะตาย ใส่เสื้อคลุมมิดชิด ยังผ้าปิดปากนี่อีก”
"คือบุ้งหนาว เหมือนจะไม่ค่อยสบาย เหมือนจะเป็นหวัดกันเอาไว้ก่อนน่ะ"
ผักบุ้งแก้ตัวไปส่งๆ ไม่อยากให้น้ำหนึ่งต้องเป็นห่วง วันนี้เธอแต่งกายด้วยชุดนักศึกษาปกติแต่ใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวทับมาด้วยและมีผ้าพันคอผืนเล็กๆพันไว้รอบคอ ยังสวมแมสปิดใบหน้าที่บวมเจอเอาไว้
"อืม...ตัวก็อุ่นๆนะ แกก็อย่าหักโหมงานมากเกินไปสิ พักผ่อนบ้างนะ ดูสิขอบตาดำเหมือนหมีแพนด้าหมดแล้ว"
น้ำหนึ่งยกมือขึ้นแตะไปที่หน้าผากของผักบุ้งเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเตือนอย่างสงสาร เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเธอไม่เคยเห็นผักบุ้งหยุดพักเลยสักวัน
"บุ้งไม่ค่อยเป็นไรแล้ว เดี๋ยวกินยาก็คงหาย ขอบใจนะ"
เสียงหวานเอ่ยออกมา ในใจพาลคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
เธอตัดสินใจไม่รับข้อเสนอของมาเฟียคนนั้น จึงได้ปฏิเสธไป เรื่องที่เธอถูกเขาเห็นร่างกาย ทั้งยังถูกจูบถูกตี เธอก็เธอว่าทำทานให้หมามันแดกก็แล้วกัน
มาเฟียไม่ว่าอะไร คนของเขาถามผักบุ้งว่าต้องการเท่าไหร่ เธอไม่รู้ว่าเท่าไหร่จึงจะสมควร
“เรียกมาเถอะ อยากได้เท่าไหร่ค่าทำขวัญบอกเขาไป”
เจ้นกอยู่คอยเป็นเพื่อนให้กำลังใจ
สามสิบนาทีที่เธอตกใจหวาดผวา จะเรียกเท่าไหร่ดีนะ สุดท้ายแล้วผักบุ้งจึงเรียกเงินไปสองแสนบาท เผื่อเขาจะต่อรองลงมาอีก
ทว่ามาเฟียชั่วนั่นกลับโอนเงินเข้าบัญชีให้เธอทันที ผักบุ้งถึงกับตกตะลึง เพราะเธอพูดไปส่ง ๆ คิดว่าเขาคงให้ไม่กี่หมื่น ไม่คิดว่าเขาจะให้สองแสนจริง ๆ
มะ มากเหลือเกิน ชีวิตนี้ของอีผักบุ้งทำงานงก ๆ ทั้งเดือนได้เงินมาหมื่นกว่าบาท ใช้กินใช้จ่ายแต่ละเดือนแทบไม่พอเหลือ เธอจึงดีใจมากอภัยให้มาเฟียทันใด
ทว่าเจ้นกกลับพูดว่า
“ยัยบุ้ง ทำไมไม่ขอสักล้าน มักน้อยจริงเลย”
ผักบุ้งไม่รู้จะตกใจอะไรก่อน เงินในบัญชีสองแสนที่เธอชาตินี้เธอไม่เคยเห็น หรือว่าคำพูดของเจ้นกที่บอกว่าขอสักล้านนั่น และเจ้นกยังมั่นใจว่ามาเฟียจะให้แน่นอน
ให้ตายเถอะ ทำไมเจ้นกไม่บอกแต่แรกนะ เสียดายจัง แต่เมื่อรับเงินสองแสนมาแล้ว เธอก็ไม่ต่อรองอีกได้แต่ยิ้มแก้มแตก ให้อภัยมาเฟียชั่วไปร้อยเปอร์เซ็นต์ทันใด
'หวังว่าชาตินี้เราคงไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก!'
หนึ่งเดือนต่อมา
ติ๊ดดดด!..... ติ๊ดดด!...
เสียงของโทรศัพท์เครื่องบางราคาถูกกรีดร้องไม่หยุดปลุกร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงแคบเล็กๆให้ตื่นขึ้น
มือเล็กเอื้อมไปหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะพบว่าคนที่โทรเข้ามาคือเจ้นก
[:ค่ะ เจ้:]
เสียงหวานกรอกไปตามไปสายอย่างเนือยๆ
[:หนูบุ้ง ช่วยเจ้หน่อยได้ไหมลูก:]
เสียงปลายสายรีบพูดขึ้นอย่างรีบร้อน
[:มีอะไรหรือเปล่าคะเจ้ :]
[:ก็แนนมันดันมาท้องเสียนะสิ เจ้ไม่รู้จะหาใครมาแทนแล้ว เด็กที่เข้าใหม่ก็ไม่ได้เรื่องเลย:]
[:แต่เจ้ บุ้งบอกไปแล้วว่าบุ้งขอลาออกแล้วค่ะ...:]
[:บุ้ง ถือว่าเจ้ขอเถอะหนู ลูกค้าคนนี้เจ้รู้จักเป็นอย่างดีลูก รับประกันว่าเป็นคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์:]
[:เจ้...:]
[:ถ้าบุ้งมาทำวันนี้อีกวันหนึ่ง เจ้ให้สามเท่าเลย:]
เจ้นกเริ่มเอาเงินมาล่อเพราะรู้นิสัยของผักบุ้งดีเนื่องจากทำงานด้วยกันมานาน ถึงแม้ว่าจะรู้เหตุผลที่ผักบุ้งลาออกเป็นอย่างดีแต่ตอนนี้เธอหาคนไม่ทันจริง ๆ
ผักบุ้งคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่ได้รับเงินพร้อมข้อเสนอของผู้ชายคนนั้น เพราะเธอกลัวเขาจริง ๆ และตอนนี้ยังต้องเสียงานอีก แต่เมื่อเจ้นกจะให้เพิ่มสามเท่าในวันเดียว ผักบุ้งจึงตัดสินใจ
[:อืม...ก็ได้ค่ะ บุ้งจะไปทำแทนให้ แต่ครั้งสุดท้ายแล้วนะคะเจ้:]
[:ขอบใจมากนะคนสวยของเจ้:] เจ้นกพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี
[:แต่..เจ้คะ ลูกค้าคนนี้ใช่คนเดียวกับพวกก่อนหน้าที่บุ้งไปดูเเลไหม:]
ถามปลายสายเพื่อความแน่ใจ
[:ไม่ใช่นะ ก็บอกแล้วไงคนเนี้ยเจ้รู้จัก ขอแอบกระซิบว่าไม่ใช่มาเฟีย ยังหล่อและนิสัยรวย:]
เจ้บุ้งยืนยันเสียงหนักแน่น ผักบุ้งจึงวางใจ ถ้าเจ้นกบอกว่านิสัยรวยก็ต้องเป็นประเภทที่ชอบแจกทิปและเปย์หนักแน่ ๆ ดังนั้นเธอคิดว่าตัวเองยิ่งไม่ควรพลาดแขกแบบนี้
[;ได้ค่ะ เดี๋ยวบุ้งแต่งตัวก่อนแล้วจะออกไป:]
ผักบุ้งวางสาย เธอไม่เชื่อว่าผู้ชายที่มาเที่ยวสถานที่แบบนี้จะเป็นคนดีเลิศแบบที่เจ้นกว่า
แต่เธอจะทำเพื่อเงินก้อนสุดท้ายที่จะได้เพราะมันจะต่อชีวิตเธอไปได้อีกเป็นเดือน
เรื่องเลวร้ายที่เธอเจอในเดือนก่อนนั้นเธอจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้มันหายไปตามกาลเวลา
"คงไม่ซวยแบบวันนั้นหรอกนะ"
ผักบุ้งพึมพำออกมา หวังว่าการไปทำงานที่ไนต์คลับครั้งสุดท้ายของเธอจะไม่มีเรื่องร้ายๆอะไรเกิดขึ้น
@ไนต์คลับ
"ผักบุ้งมาแล้วเหระ เป็นคนตรงเวลาจริง ๆ เลย มีแต่ผักบุ้งนี่แหละที่ความรับผิดชอบสูงไม่ทำให้เจ้ต้องห่วงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่างานอะไรก็ทำได้ดีทั้งหมดจริง ๆ"
ผักบุ้งยิ้มแก้มแทบแตก หลังจากวันนั้นเจ้นกก็ไม่ได้ทิ้งเธอ ยังมอบเงินทำขวัญให้เธอก้อนหนึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่ก้อนใหญ่เหมือนที่มาเฟียคนนั้นให้ก็ตาม แต่ก็ทำให้ผักบุ้งรู้สึกว่าเจ้นกไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว
“ไม่ต้องอวยขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังไงก็มาช่วยอยู่แล้วค่ะ ว่าแต่ว่าแขกคนนี้ไว้ใจได้แน่นะคะ อย่าปล่อยให้หนูเข้าไปอยู่ในดงมาเฟียอีกเลยค่ะ วันนั้นทั้งเจอเลือดทั้งเจ็บตัวเข็ดจริง ๆ ค่ะ”
"เชื่อใจเจ้หน่อยสิ คนเนี้ยแหละเทพบุตรของจริง รับรองหลังทำงานเสร็จ หนูจะรีบมาขอบคุณเจ้นกคนนี้แทบไม่ทัน"
เจ้นกพูดขึ้นพลางทำหน้าฟิน ผักบุ้งยิ้มพร้อมกับพูดว่า
“เชื่อค่ะเชื่อ เดี๋ยวหนูไปแต่งตัวก่อนนะคะ แขกเข้าห้องไหนคะ”
“VVIP1จ้า แต่งตัวเสร็จแล้วไปที่ห้องนั้นรอแขกได้เลย”
“ค่ะ”
@VVIP1
แขกมากันแล้วผักบุ้งยืนคอยต้อนรับแขกวีไอพีกับพนักงานผู้หญิงสาวสวยอีกห้าคน
ทุกคนไหว้อย่างพร้อมเพรียงและถูกฝึกมาอย่างดี ห้องนี้ไม่ใช่ว่าเจ้นกจะไว้ใจให้ใครมาดูแลแขกได้ง่าย ๆ นอกจากมารยาท การพูดจาฉะฉานแล้ว ยังต้องเป็นคนที่สวยสมบูรณ์แบบเท่านั้นที่จะเข้ามาดูแลแขกระดับนี้ได้
ถึงจะอยู่ในชุดเครื่องแบบของพนักงานในร้าน ไม่ได้นุ่งน้อยห่มน้อยเหมือนเด็กเอ็นระดับวีไอพีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เสี่ยหนุ่มพวกนั้นทว่าความสวยและรูปร่างเซ็กซี่ของผักบุ้งก็โดดเด่นสะดุดตา
"ไม่น่าเชื่อนะ ว่าร้านมึงจะมีของดีแบบนี้อยู่ด้วย”
เสียงหนึ่งในสามเอ่ยขึ้นก่อนจะมองมาที่ผักบุ้งดวงตาเป็นประกาย
"กูคัดมาอย่างดี พวกมึงอย่าได้ทำน่าเกลียด น้องเขายังเรียนหนังสืออยู่ เป็นเด็กดีคนหนึ่งเขาแค่มาทำงานหาค่าเทอม"
เสียงชายหนุ่มอีกคนตอบกลับเพื่อน ก่อนจะบอกให้ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆลุกออกไป
"เฮ้ยๆ มีหวงด้วยว่ะ"
เสียงทุกคนพูดขึ้นกันอย่างสนุกสนาน ผักบุ้งที่ได้เห็นถึงกับหลุดยิ้มน้อยๆออกมาเพราะคนพวกนี้ดูไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
"ชื่อผักบุ้งใช่ไหม"
"ค่ะ"
ผักบุ้งพยักหน้าหงึกหงักไม่รู้ว่าคนตรงหน้ารู้จักเธอได้ยังไง แต่เมื่อมองเขาตรง ๆ ก็เหมือนว่าเธอจะเคยเห็นเขามาก่อน
เพื่อนของเธอที่กำลังชงเหล้าอยู่ข้าง ๆ จึงพูดเบา ๆ
“คุณธี เขาเป็นหุ้นส่วนกับเจ้นกไง จำไม่ได้เหรอ”
ผักบุ้งถึงบางอ้อ เธอจำเขาได้แล้วเธอเคยเจอเขาเมื่อตอนมาสมัครงานใหม่ ๆ และเขาเป็นคนสัมภาษณ์และรับเธอเข้ามาเอง
คุณธีเรียกผักบุ้งเข้าไปใกล้ ๆ
"นี่ไอ้ริว นั่นไอ้กัน เพื่อนฉันเอง พวกมันปากหมาหน่อยๆไม่ต้องไปใส่ใจหรอก"
"เอ่อ..ค่ะ"
คุณธีตบมือลงบนที่นั่งข้าง ๆ แล้วสั่งให้เธอมานั่งตรงนี้
"ไม่ต้องกลัวแค่นั่งคุยกันเฉย ๆ เห็นเจ้นกบอกว่าเธอลาออกแล้ว วันนี้เพื่อรับรองแขกของฉันเลยมาทำให้เป็นพิเศษ”
"ได้ค่ะ"
ผักบุ้งเดินเข้าไปนั่งข้างชายหนุ่มอย่างว่าง่าย ความรู้สึกกลัวที่เคยมีเริ่มลดหายไปเมื่อสัมผัสได้ถึงความจริงใจของอีกฝ่าย
ผักบุ้งทำงานที่ได้รับมอบหมายมาเป็นครั้งสุดท้ายอย่างเต็มที่ หญิงสาวยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างมีความสุขเมื่อคุณธีสุภาพใจดีและให้เกียรติเธอเป็นอย่างยิ่ง
กระทั่งทำงานเสร็จผักบุ้งก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อกลับบ้าน ตอนนี้เลยเที่ยงคืนมาแล้วแม้จะง่วงแต่ผักบุ้งก็มีความสุข
วันนี้เธอได้ทิปมาไม่น้อย ลูกค้าของเธอทั้งหมดในห้องมือเติบจ่ายทิปไม่อั้น แต่ว่าต้องแลกกับการที่ผักบุ้งดื่มไปหลายช็อต
ให้ตายเถอะ เธอเมาจนเดินเซแล้ว
ระหว่างที่เธอเดินออกมาเข้าห้องน้ำหลายครั้งผักบุ้งไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนเฝ้ามองเธออยู่ด้วยสายตาหื่นกระหาย
เขาแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ อาหารจานโอชะวางอยู่ตรงหน้าแล้ว เขาย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปเป็นอันขาด
เพราะคนอย่างเคย์
อยากได้ก็ต้องได้!
