19 อนาคตที่มีน้า
จนเวลาผ่านไปอีกชั่วโมงก็มีรถคันหนึ่งขับมาจอดที่หน้าหอพักและญารินดาก็ลงมาจากรถคันนั้น
“กอหญ้า” เสียกเรียกทำให้เธอชะงักแล้วหันกลับมาตามเสียง
“น้าภพ”
“ทำไมกลับดึกแบบนี้”
“กอหญ้าไปงานวันเกิดของรุ่นพี่ในบริษัทที่ไปฝึกงานมาค่ะ”
“แล้วปกติกลับกี่โมง”
“5 โมงเย็นค่ะ”
“น้ามารับกลับบ้าน”
“พรุ่งนี้ไม่ใช่วันหยุดสักหน่อย”
“น้ารู้ แต่กอหญ้าไม่ได้กลับบ้านานแล้ว เพราะอะไร”
“ก็บอกน้าภพไปแล้วนี่คะ ว่าทั้งเรียนทั้งฝึกงานกอหญ้าเหนื่อย”
“นั่งรถแค่นี้คงไม่เหนื่อยเท่าไหร่ น้าว่ากอหญ้าไม่อยากกลับเองมากกว่า”
“ไม่เหนื่อยแต่มันเสียเวลาค่ะ นั่งรถไปกลับก็ 4 ชั่วโมงกอหญ้าเอาเวลาตรงนั้นมาทำอะไรได้อีกเยอะ”
“ทำไมแต่ก่อนถึงกลับได้ทุกอาทิตย์ล่ะ”
“ก็นั่นมันแต่ก่อน”
“แล้วมันต่างจากตอนนี้ยังไง กอหญ้าหญ้าเปลี่ยนไปมากรู้ตัวหรือเปล่า”
“กอหญ้าก็ยังเป็นคนเดิม เป็นหลานของน้าภพเหมือนเดิม”
“กอหญ้าเป็นแค่หลานเหรอ”
“ก็ใช่สิคะ จะให้กอหญ้าเป็นอะไร น้าภพกับน้าพรมีบุญคุณกับกอหญ้ามากขนาดนี้ จะให้กอหญ้าคิดเป็นอื่นได้ยังไง”
“กอหญ้ามีอะไรในใจหรือเปล่า ทำไมพูดแบบนี้”
“ไม่มีอะไรค่ะ กอหญ้าแค่เหนื่อย ปีนี้ก็จะจบแล้วกอหญ้าขอแค่ปีเดียวค่ะ ถ้าเรียนจบเราสองคนแม่ลูกก็จะไม่รบกวนน้าภพอีกแล้ว”
“น้าเคยบอกเหรอว่ากอหญ้ารบกวน”
“เรื่องแบบนี้ไม่ต้องมีใครบอกค่ะ คนเราโตขึ้นก็ต้องมองไปข้างหน้า มองอนาคต”
“อนาคตของกอหญ้าไม่มีน้าอยู่ในนั้นเลยเหรอ”
“น้าภพอยากให้อนาคตของกอหญ้ามีน้าภพเหรอคะ ถามหน่อยได้ไหม ว่าในฐานะอะไร”
“น้าไม่รู้”
“แต่กอหญ้ารู้ ตอนนี้กอหญ้าอยู่ในฐานะหลานสาว แต่พอเรียนจบกอหญ้าก็ต้องไปมีชีวิตของตัวเอง”
“น้าไม่อยากพูดเรื่องนี้กับกอหญ้า เอาไว้เรียนจบค่อยมาคุยเรื่องนี้กัน”
“ค่ะ น้าภพขับรถกลับดีๆ นะคะ กอหญ้าขอตัวก่อน เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว สวัสดีค่ะ” ญารินดายกมือไหว้แล้วเดินขึ้นหอพัก
ภีมภพมองตาม ไม่รู้ว่าทำไมหญิงสาวถึงเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ แค่ไม่เจอกันหนึ่งเดือนแต่ญารินดาทำเหมือนเขาเป็นคนอื่น เธอไม่ชวนขึ้นไปนั่งพักบนห้องเลยด้วยซ้ำ เขาจะให้เวลาเธอจนถึงเรียนจบอย่างที่คุยกัน หวังว่าถึงเวลานั้น เธอจะรับฟังความรู้สึกที่เขาพยายามเก็บไว้มานานนั้นคงจะทำให้เธอเปลี่ยนใจไม่ออกไปจากชีวิตเขาอย่างที่พูดเมื่อครู่
ตลอดเวลาสองเดือนที่ญารินดากับภีมภพห่างเหินกันไป เพราะหญิงสาวทั้งเรียนทั้งฝึกงาน เธอกับภีมภพคุยกันแทบจะนับครั้งได้ ญารินดาพยายามเลี่ยงที่จะเจอกับชายหนุ่ม เวลาเดินทางไปกลับก็มักจะไปกับพี่ชายของต้นหลิว
ความสนิทสนมระหว่างเธอกับต้นโมกก็มีมากขึ้น ชายหนุ่มหมั่นแวะมาหา ซื้อขนมมาให้และมารอรับกลับบ้าน โดยอ้างว่ามารับน้องสาว
วันสุดท้ายของการสอบต้นโมกอาสามารับอย่างเคย แต่ญารินดาปฏิเสธเพราะเธอยังไม่อยากกลับบ้าน ช่วงเวลาปิดเทอมแค่ไม่ถึงเดือน ญารินดากำลังคิดว่าจะอยู่ที่หอต่อ เพราะถ้ากลับไปก็ต้องไปช่วยงานเพียงพรและชายหนุ่ม
ไม่ใช่เพราะขี้เกียจทำงาน แต่เพราะรู้สึกอึดอัด และกลัวว่าถ้ากลับไปแล้วเจอกับแฟนของน้าชาย เธอจะทำใจได้อีกไหม ให้อยู่ห่างกันอย่างนี้ถึงแม่เธอจะเจ็บแต่ก็ไม่ต้องคอยปั้นหน้าว่ามีความสุข
“กอหญ้า ไม่กลับบ้านเหรอลูก”วาสนาโทรศัพท์มาถามลูกสาว หลังจากที่ต้นหลิวกับพี่ชายแวะไปหา เธอเป็นห่วงเพราะน้อยครั้งมากที่ญารินดาจะอยู่ที่หอในขณะที่เพื่อนรักกลับบ้าน
“หนูขออยู่ต่ออีกนิดนะคะแม่”
“มีอะไรหรือเปล่าลูก หนูไปไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน” วาสนาจับได้ถึงความผิดปกติของลูกสาว
“ไม่มีอะไรค่ะแม่ หนูแค่คิดว่าจะลองหางานทำดูค่ะ”
“หมายถึงอะไรลูก หนูจะกลับมาทำงานกับน้าพรเหรอกอหญ้า จะต้องหางานทำอีกทำไมกัน”
“แม่จะโกรธไหมคะ ถ้าหนูไม่กลับไปช่วยงานน้าพรอย่างที่คุยกันไว้”
“แม่ไม่โกรธ เพราะหนูสีสิทธิ์ในการตัดสินใจอนาคตของตัวเอง แต่อยากให้หนูทบทวนดูอีกทีว่ามันเหมาะสมแล้วเหรอที่ทำแบบนี้ น้าพร น้าภพ มีบุญคุณกับเรามากนะ กอหญ้ายังไม่เห็นใช่ไหมไหม ว่าตอนบ้านของเราปรับปรุงไปได้เยอะแล้ว”
“ไหนแม่ว่าจะรอหนูเรียนจบก่อนไงคะ”
“คุณภพเธอเป็นคนจัดการ เธอไม่ได้คิดค่าปรับปรุง”
“น้าภพคงอยากให้เราย้ายออกใช่ไหมคะ ถึงได้รีบปรับปรุงบ้าน” ความรู้สึกน้อยใจถาโถม
“ไม่ใช่หรอกกอหน้า คุณภพบอกแม่ว่าถ้าไม่รีบปรับปรุงช่วงนี้ ปีหน้าพวกวัสดุจะขึ้นราคาอีกมาก อีกอย่างมันเป็นช่วงที่เพื่อนของน้าภพกำลังเปิดบริษัท เลยขอปรับปรุงบ้านเรา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัวด้วย เพราะบ้านเราก็ติดถนน ใครผ่านไปมาก็เห็น ทีนี้งานก็จะเยอะขึ้น”
“เหรอคะแม่” ญารินดาไม่เชื่อที่แม่บอกเลยสักนิด เธอคิดได้แค่ว่าเพราะภีมภพคงอยากให้เธอกับแม่ย้ายออก
“กอหญ้ากลับมาดูไหมลูก”
“ขอเวลาอีกนิดนะคะแม่” ไม่ใช่ขอเวลาหางานแต่เธอกำลังขอเวลาทำใจต่างหาก
“เรื่องงาน แม่อยากให้หนูคิดทบทวนนะลูก ไม่ว่าหนูจะเลือกทางไหน แม่ก็พร้อมที่จะไปกับหนู”
“ค่ะแม่”
