12 คิดถึงคนไกล
สัปดาห์แรกที่มาเรียนญารินดารู้สึกว่าการเรียนระดับมหาวิทยาลัยนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด มันต่างจากเดิมมาก เธอต้องรับผิดชอบทั้งการเรียนและการใช้ชีวิต และต้องบาลานซ์ทุกอย่างให้ลงตัว จากที่คิดจะกลับบ้านช่วงสุดสัปดาห์ก็ทำไม่ได้
“น้าวาสครับ กอหญ้าบอกหรือเปล่าว่าจะให้ไปรีบกี่โมง” ภีมภพรอสายจากญารินดาตั้งแต่เย็นวันศุกร์จนถึงเช้าวันเสาร์ หญิงสาวก็ยังไม่โทรมาสักที
“กอหญ้าโทรมาบอกน้าเมื่อวานแล้วค่ะคุณภพ ที่มหาลัยมีกิจกรรมรับน้องเลยไม่ได้กลับบ้าน”
“อ๋อ ครับ” ภีมภพพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ยังรู้สึกห่วงคนที่เคยอยู่ข้างกายมาตลอดสามเดือน
ผ่านมาสองสัปดาห์แล้วที่ญารินดาไม่กลับบ้านเพราะทั้งเรียนทั้งกิจกรรม วาสนาพยายามเข้าใจลูกสาวเพราะทุกวันลูกสาวจะโทรศัพท์มารายงานตลอดว่าในแต่ละวันทำอะไรบ้าง คนเป็นแม่ก็เลยไม่ห่วงมากเท่าไหร่
แต่คนที่เดือดร้อนที่สุดก็คงจะเป็นภีมภพ เพราะเมื่อไม่มีเธออยู่ชีวิตของเขาก็ไม่สดใสอย่างเคย ชายหนุ่มกลายเป็นคนเก็บตัวและพูดน้อย ไม่ค่อยมีลูกน้องคนไหนอยากเข้าใกล้เพาะอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของเจ้านาย พอทำงานเสร็จทุกคนก็พากันหายหัวไปไหม
วันอาทิตย์เป็นวันหยุดของร้าน ถ้าเป็นแต่ก่อนเขากับลูกน้องก็พากันมานั่งเล่น คุยเล่น และมาดูหนังที่บ้านของชายหนุ่ม แต่วันนี้มีเพียงเขาคนเดียวที่นั่งเหงา พี่สาวกับน้าวาสก็พากันไปทำบุญที่วัดใกล้หมู่บ้านตั้งแต่เช้า
“กอหญ้านะ กอหญ้า ไหนว่าจะกลับบ้านทุกอาทิตย์” ภีมภพดูรูปถ่ายของหญิงสาวที่แอบถ่ายไว้แล้วก็ยิ่งหงุดหงิด
“กรุงเทพ สุพรรณ ใกล้นิดเดียว” เมื่อคิดได้ชายหนุ่มก็รีบขับรถออกจากบ้านหลังเล็กไปโดยเร็ว
ภีมภพนั่งอยู่บนรถที่จอดอยู่หน้าหอพัก กำลังพยายามคิดหาคำคำพูดว่าจะบอกกับเธอยังไงที่อยู่ ๆ ก็มาหาเธอถึงนี้
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
เสียงเคาะกระจกทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัว
“น้าภพ” เสียงที่คุ้นเคยส่งผลให้คนตัวโตยิ้มกว้าง
“กอหญ้า”
“น้าภพมาทำอะไรที่นี่คะ มาหาหนูหรือเปล่าคะ แล้วแม่กับน้าพรมาไหม”
“น้ามาคนเดียวพอดีมาทำธุระเลยแวะมาหา แม่กับน้าพรไปทำบุญที่วัด”
“หนูขอโทษนะคะ ไม่ได้กลับบ้านอย่างที่บอกไว้แต่แรก” หญิงสาวรู้สึกผิดที่ทำตามคำพูดไม่ได้
“ไม่เป็นไร แล้วตอนนี้ปรับตัวได้หรือยัง”
“ก็พยายามอยู่ค่ะ ช่วงนี้กิจกรรมเยอะเลยไม่มีเวลากลับบ้านเลย”
“น้าพอเข้าใจ” เขาเองก็เคยผ่านช่วงเวลานี้มาก่อนเลยเข้าใจเธอมากกว่าใคร
“น้าภพขึ้นไปบนห้องก่อนไหมคะ กินข้าวมาหรือยังคะ”
“ยังเลย ว่าจะให้กอหญ้าพาไปกิน”
“ได้เลยค่ะ ขอเอาหนังสือไปเก็บก่อนนะคะ น้าภพขับรถมาเหนื่อยๆ ไปล้างหน้าก่อนไหม”
“น้าขึ้นไปได้เหรอครับ”
“ได้สิคะ น้าภพเป็นผู้ปกครองของหนู เจ้าของหอไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”
ชายหนุ่มฟังแล้วแทบสะอึกกับคำว่าผู้ปกครอง เพราะคำนั้นทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถรู้สึกกับเธอเป็นอื่นไปได้เลย
ภีมภพพาญารินดามาทานอาหารญี่ปุ่นตามที่เคยได้สัญญาไว้ตั้งแต่ยังไม่เปิดเทอม
“น้าภพจำได้ด้วยเหรอคะ ว่าหนูอยากกินอาหารญี่ปุ่น”
“จำได้สิ น้ายังไม่แก่นะกอหญ้า”
“ก็ไม่ได้ว่าแก่ แต่มันนานแล้วคิดว่าน้าภพลืมนี่ค่ะ”
“ไม่ลืมหรอกครับ”
“น้าภพคะ หนูฝากความคิดถึงให้แม่กับน้าพรด้วยนะคะ”
“แล้วไม่คิดถึงน้าบ้างเหรอ”
“จะคิดถึงทำไมคะ”
“อ้าว” ภีมภพทำหน้าเสีย
“ก็น้าภพอยู่ตรงหน้าแล้วนี่คะ”
“อ๋อ แล้วกอหญ้าเรียนเป็นยังไงบ้าง”
“ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แต่โชคดีที่มีพี่รหัสคอยช่วย”
“แล้วพี่รหัสเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“ผู้หญิงค่ะ สวยด้วยนะคะ”
“วันหลังต้องแนะนำให้น้ารู้จักบ้างนะครับ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ หนูกลัวน้าภพจะไปจีบพี่รหัสหนู”
“คิดไปนู่น น้าแค่อยากรู้จักไว้เท่านั้นเอง ไม่ได้คิดจะจีบเลย”
“จริงสิคะ ตั้งแต่อกหักครั้งนั้นน้าภพได้คบกับคนอื่นไหมคะ”
“มันก็ต้องมีบ้าง น้าเป็นผู้ชาย แต่ก็คบๆ เลิก ๆ”
“ไม่คิดจะแต่งงานเหรอคะ” ญารินดาถามไปก็ใจเต้นแรง
“ยังไม่เจอคนที่ใช่”
“คนที่ใช่ของน้าภพเป็นแบบไหนคะ”
“ไม่รู้สิครับ ถ้าเจอแล้วใช่ก็คงรู้เอง แล้วเราล่ะกอหญ้ามาอยู่ที่นี่มีหนุ่มมาจีบบ้างไหม”
“ไม่มีเลยค่ะ แค่เรียนหนูก็ปวดหัวแล้ว”
“หนูเคยมีแฟนไหมกอหญ้า”
“ไม่เคยค่ะ มีแต่แอบชอบรุ่นพี่ที่โรงเรียน แต่ก็แค่ชอบ ไม่กล้าเข้าไปคุย”
“ดีแล้ววัยอย่างกอหญ้ามีหน้าที่เรียนหนังสือ”
“ค่ะหนูรู้” ญารินดาได้แต่หวังว่าระหว่างที่เธอกำลังตั้งใจเรียนอยู่นั้น เขาคงยังไม่เจอคนที่ใช่
“เอาล่ะ รีบกินเถอะ เดี๋ยวจะได้ไปซื้อของกัน อยากได้อะไรคิดไว้เลยวันนี้น้าอารมณ์ดีจ่ายไม่อั้น”
“น้าภพใจดีที่สุดเลยค่ะ”
