บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ความไม่ไว้ใจ

ชายฉกรรจ์ 3 คน สวมชุดคอมแบทผ้ายืด ปกตั้ง ซิบรูดถึงคอหอย กับกางเกงเข้าชุด มีอาวุธสงครามสะพายติดบ่าด้านหลัง เดินเข้ามาในบ้าน

“นี่ใคร!?” คนหนึ่งเอ่ยถาม เสียงดังมากพอที่จะทำให้หญิงสาวสะดุ้ง

“……” ฟ้ารินไม่กล้าตอบ แต่รีบวิ่งเข้าห้องที่ผู้ชายนามสกุลอาทิตย์พาณิชเพิ่งเข้าไป

“โอ๊ะ! ขอโทษค่ะ” เธอรีบเบรกตัวเอง หันหลังให้เขาที่กำลังถอดเสื้อ

เสียงผ้ากองลงกับพื้น แต่หัวใจฟ้ารินทะเล่อทะล่าพอ ๆ กับอากัปกิริยาเมื่อครู่ เห็นแป๊บเดียวยังรู้เลยว่า

โคตรกล้าม โคตรล่ำ

ตื่นตาตื่นใจ ตื่นตัวไปหมดแล้วแม่จ๊ะแม่จ๋า

ร่างสูงเดินมา ฝีเท้าเงียบผิดกับน้ำหนักตัว เมื่อเขาเข้าใกล้เธอหนึ่งก้าว ฟ้ารินก็เดินหน้าไปหาประตูหนึ่งก้าว และยังคงหันหลังให้เขาอยู่

เขาเดินเข้าไปอีกก้าว เธอก็เดินไปหาประตูอีกก้าว คนโตหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ

ปัง!

กล้ามอกหนา เอวสอบ กางเกงยีนกองที่สะโพก ปกคลุมลำกายไว้มิดชิด แต่เพราะยืนเบียดร่างเล็กที่หน้าประตู แย่งกันจับที่เปิด ชายหนุ่มวางมือทับและประชิดเนื้อตัวอีกฝ่ายจงใจ

ตึก ๆ ๆ ๆ ๆ

ร่างบางรู้สึกหัวใจแทบทะลุออกมา ความรู้สึกวูบวาบ เสียว แม้ไม่เคยแตะต้องอะไรให้ต้องรู้สึกแบบนั้น แต่สมองจินตนาการไปล้านแปดแล้ว โดยเฉพาะสายตาที่มองเห็นข้อมือแข็งแรง มองก้านนิ้วยาวใหญ่

ฮือ…แซ่บมากพ่อเอ๊ย…

ยิ่งกว่านักดับเพลิงต่างชาติที่เคยส่องตามโซเชียล

สองมือทาบทับ จำกัดพื้นที่ใช้งาน ชายหนุ่มใช้อีกมือเท้ากับประตูห้องดันไว้ ใบหน้าเอียงต่ำโน้มลงมากระซิบ

“จู่โจมฉันเหรอ” เขาถาม

“……” ฟ้ารินไม่ตอบอะไร แต่นี่มัน เป็นคำถามชวนให้คิดนะ

“ถ้าเธอพร้อม ฉันก็สะดวกนะ” เขาพูดต่อ

“มะ…ไม่ใช่ ๆ พอดีว่า มีคนมาหาค่ะ ข้างนอก แล้ว…แล้ว…หนูไม่แน่ใจว่าควรอยู่ตรงนั้นมั้ย”

“กลัวคนข้างนอก เลยเข้ามาข้างในสินะ” เขาพูดใกล้ชิดจนลมหายใจเป่ารด แม้ริมฝีปากจะสามารถแตะต้องใบหูคนอ่อนกว่า จะโลมเลียมแทะเล็มหรือทำมากกว่านั้น ก็คงไม่มีใครมาห้ามมารั้งเขาไว้…เขาต้องยั้งใจเอง

กริ๊ก!

ปุ่มล็อกถูกกดเข้าที่

เขาเดินแยกออกมา ใช้เท้าคีบเสื้อตัวเองแล้วปาไปลงตะกร้ารอซักที่ตั้งอยู่อีกฟากฝั่งที่มีตู้เสื้อผ้าและบานกระจก

“เธอไปอาบน้ำก่อนเลย เสื้อผ้าที่ใช้แล้วถอดมาใส่ตรงนี้ ชุดใหม่ก็หาเอาในตู้ แปรงสีฟันใหม่มีอยู่ตรงอ่างล้างหน้า ส่วนชุดชั้นใน…”

พอเขาพูดมาถึงตรงนี้ น้ำเสียงคนอยู่ไกล ทำฟ้ารินหันมาหา ประจวบกับสายตาผู้ชายคนนั้นกำลังมอง…หน้าอกเธอ

“…….” คนอกผายไหล่ผึ่ง ไม่เคยอายกับทรวดทรง แต่ถูกมองตรง ๆ ตอนแรกว่าจะเขิน แต่เห็นเขาเหมือนไม่รู้สึกอะไร เลยเสียเซลฟ์แทน จึงเอามือขึ้นมาปิด ๆ หน้าอกด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไร

“ใส่ของเก่าไปก่อน” เขาพูดแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง วางพิงอยู่ข้างหน้าต่าง ชายหนุ่มเปิดมือถือทำอะไรของเขาไป อยู่คนละฝั่งห้องกัน

ความว้าวุ่นใจทำฟ้ารินชักช้า ใครจะกล้าอาบน้ำตอนนี้…เธอยืนวนที่หน้าตู้เสื้อผ้า

ร่างบางตัดสินใจเดินมาหาเขา แม้ไม่กล้ามองตรง ๆ ในทีแรกเพราะอีกฝ่ายไม่ใส่เสื้อ แต่เธอก็พยายามทำตัวให้นิ่ง ไม่สนใจอะไรที่มันชวนให้ตื่นเต้นแบบนั้น

“พี่คะ คือว่า…”

“.........”

หนูแค่เกริ่นเอง…ฟ้ารินตกใจ เมื่อสายตาของเขาที่ละจากมือถือมองด้วยความเรียบนิ่งจนเธอกลัว

“เธอชื่ออะไร”

“ฟ้ารินค่ะ”

“มีอะไร” เขาถาม พลางวางมือถือลงแบบคว่ำหน้าจอ

“คือ…หนูใช้เสื้อผ้าพี่ได้จริง ๆ เหรอ คือมันจะดูไม่…”

“เธอ แอบขึ้นรถบรรทุกมา เธอติดรถฉันมายังที่ป่าเขาอันไกลโพ้น จากการตัดสินใจทำอะไรแบบนี้ น่าจะเลยจากความเหมาะสมมานานแล้วนะ” เขาพูด

“หนูติดหนี้พี่แล้ว ไว้มีโอกาสจะหาทางชดใช้ให้นะคะ แต่ว่าขอถามหน่อยได้มั้ย ที่นี่คือจังหวัดอะไรเหรอคะ”

“ชายแดน”

“ภาคไหนเหรอ”

“ตะวันตก”

“อ่อ…” แย่จัง…เรียนก็สูงแหละ แต่ความรู้บางเบาสมองเธอไม่ค่อยมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับแผนที่หรือทิศทางเท่าไร ตะวันตกนี่รวมจังหวัดอะไรไว้บ้างวะ ในสมองรู้จักแค่กาญจนบุรี

“มีอะไรอยากถามใช่มั้ย แต่ฉันขอเป็นคนถามดีกว่านะ นั่งลงก่อนสิ ทีแรกฉันนึกว่าเธออยากอาบน้ำ แต่ถ้าอยากคุยก่อน ก็ได้” เขาพูดพลางผายมือเชิญให้หญิงสาวนั่งเก้าอี้แบบเดียวกัน แต่เป็นอีกมุมโต๊ะ

โต๊ะบาร์ขนาดเมตรนิด ๆ เก้าอี้ทรงสูงสองตัวที่วางสอดไว้ ถูกดึงออกมาใช้งาน ชายหนุ่มเห็นเธอเข้าที่เรียบร้อย

“ฟ้าริน อายุเท่าไร” เขาถาม

“23 ค่ะ”

“เธอหนีออกจากบ้านเหรอ”

“พี่!!!!” ทำเป็นตกใจไปก่อน

“ใช่มั้ย” แต่อีกฝ่ายไม่หลงกลเปลี่ยนเรื่องคุย เขาถามซ้ำอีก

“ท่านอ่านเกมขาดแล้วค่ะ” คนตัวเล็กก้มหน้ายอมรับทันที

“ออกทำไม ทำไมไม่ขอดี ๆ อายุไม่น้อยแล้ว ที่บ้านไม่อนุญาตเหรอ” เขายิงคำถามเป็นชุด

“ขอไม่ตอบนะคะ บ้านเราจะอาจแตกต่างกัน แต่ว่าหนูขอบคุณพี่จริง ๆ นะคะที่ช่วยรับแล้วก็พาติดรถมาด้วย”

เธอพยายามพูดให้สุภาพที่สุด กลบเกลื่อนในใจที่ไม่ชอบคำตำหนิที่เหมือนรู้ดีว่าครอบครัวคนอื่นเป็นอย่างไร

แม้เรื่องที่เขาพูดจะเป็นความจริงที่เถียงไม่ออกส่วนหนึ่ง มันใช่ว่าเธอหนีออกจากบ้าน แต่ก็ไม่คิดว่าความไร้แผน จะพาเธอมาไกลถึงขนาดอยู่ในป่าในเขา เหตุการณ์นี้ค่อนข้างอยู่นอกความคิด เพราะเธอแค่อยากออกมาให้ไกลจากกรุงเทพฯ เพียงเท่านั้น

“แต่ว่า พี่จะอยู่ที่นี่นานมั้ยคะ จะเข้าไปในที่ที่มีรถประจำทางบ้างมั้ยคะ แบบไปในเมืองอะไรแบบนั้น” ฟ้ารินพูด

“ถ้าพาไปส่งให้ได้ แล้วเธอจะไปไหนต่อ” เขาถาม

ชายหนุ่มนั่งไขว่ห้าง เบี่ยงตัวหันหน้ามาหาคนที่สนทนาด้วย ช่วงแขนวางไล่เรียบไปตามกรอบหน้าต่าง และแอร์หนาวเย็นมีระบบตัดเป็นระยะ แต่ไม่ได้ทำให้ภายในอุณหภูมิร้อนจนเหงื่อออก หากแต่ว่าความกังวลกับบทสนทนาและท่าทีของชายคนนี้ ทำให้หญิงสาวรู้สึกกำลังถูกสอบสวน

“ไม่มีแผน?” ชายหนุ่มถาม

“…….”

“อันตรายมากนะ ถึงที่นี่จะเป็นประเทศบ้านเกิดเมืองนอน แต่การทำแบบนี้เหมือนไม่รักตัวเอง” เขาพูดเสียงเข้มจนเธอกังวลหนัก เริ่มเกาง่ามนิ้ว เปลือกตาหลุบต่ำ มองแต่พื้น

“แค่มาเที่ยว แล้วถึงเวลาก็กลับบ้านดีมั้ย” เขาถาม

“……” ปลายจมูกแดงเรื่อ ริมฝีปากเริ่มสั่นระริก เสียงสูดน้ำมูกดังซื้ด บ่งบอกว่าเธอเริ่มจะร้องไห้ ชีพจรที่แนวลำคอเต้นตุบ ๆ แต่ไม่รอดพ้นสายตาดุจเหยี่ยวของอดีตทหารเก่า

“ถ้าที่บ้านมันแย่นัก จะอยู่ที่นี่ไปก่อนก็ได้”

“จริงเหรอคะ” หยาดน้ำตาคลอเอ่อ เพียงเธอกะพริบ ขนตางอนก็ช่วยกดให้ของเหลวสีใสหยดลงมา แต่ไม่สะอึกสะอื้นเพราะพยายามอดทนอดกลั้นไว้ จนพวงแก้มแดงเรื่อตามการสูบฉีด หญิงสาวยกยิ้มด้วยความยินดี

“คือหนูเล่าเรื่องที่บ้านไม่ได้ แต่ว่าหนูทำงานได้นะคะ ให้หนูอยู่ที่นี่แค่ชั่วคราว…”

“ก็อยู่ไปก่อน จนกว่าเธอจะสงบใจได้กว่านี้ แต่ฉันอยากบอกว่า ถึงที่นี่จะสวยงามเพราะอยู่กลางธรรมชาติก็จริง แต่หากเธอสุ่มสี่สุ่มห้าเดินไปไหนมาไหนมั่วซั่ว วูบเดียว เธออาจโดนจับขายซ่องที่ชายแดนได้เลยนะ” น้ำเสียงจริงจังไม่ขู่ เพราะเขาอยากให้เธอรู้ว่า แถวนี้ไม่ใช่ใจกลางเมืองแบบที่เธอจากมา

“ค่ะ ๆ หนูจะระวังตัว” คนตัวเล็กกว่าตอบอย่างกระตือรือร้น แต่ชายหนุ่มส่ายหน้า…เกือบ 12 ชั่วโมงมานี้ ยังไม่เห็นตรงไหนที่บอกว่าเธอเป็นคนรู้จักระมัดระวัง

เธอปีนขึ้นรถบรรทุก แอบในตู้คอนเทนเนอร์ ถ้าเจ้ากล่องเหล็กถูกยกไปไว้ที่คลังสินค้าไม่เปิดอีกเลยตลอดเดือน เธอคงแห้งตายอยู่ในนั้น

ตามขึ้นรถสปอร์ต รับอาหารไปกิน แถมดื่มน้ำที่ได้รับจากคนแปลกหน้า ไม่พกเงินสด ไม่มีพกอาวุธ ไม่มีแผนเดินทาง

“ทำตัวติดกับฉันไว้ แล้วเธอจะปลอดภัย” เขาย้ำ

“ติดแบบ…ติดเลยเหรอคะ” เธอถามแบบรักษามารยาท คือถ้าคุยกับเพื่อนก็คงอย่างหนึ่ง แต่นี่เขาคือผู้ที่ยื่นมือมาช่วย แถมยังตักเตือนเธอด้วยความหวังดี

“ติดแบบติดเลย หวังว่าเธอจะเข้าใจ” เขาพูด

แล้วเส้นเลือดฝอยก็วิ่งวุ่นจนแก้มฟ้ารินแดงเรื่อไปหมด

“แต่คือ หนูยังไม่เคยหรอกนะคะ แต่คือ…ถ้า…อาจจะไม่ค่อย…” อร่อยเด็ดเผ็ดมันนะคะ หนูมันด้อยประสบการณ์ เธอคิดอยากพูดให้มันชัดเจน แต่ก็กระดากปากที่จะบรรยายสิ่งที่ตัวเองอยากสื่อสาร

“ไม่ต้องห่วง ไม่มีเรื่องนั้น ฉันไม่ชอบมีเซ็กซ์กับเด็กหรอกนะ ดูท่าเธอจะโตแต่อายุเสียด้วย”

“ไม่เห็นต้องพูดขนาดนั้น” คนมีอารมณ์ขัน แกล้งทำแก้มป่องขึ้นมา เพราะรู้สึกเหมือนโดนคนโตกว่าด่าว่าเธอไม่น่าสนใจ แต่มันก็ทำให้เธอสบายใจมากขึ้นแหละ

“เราอายุห่างกันนิดเดียว แต่เธอทำตัวเด็กมาก” เขาพูด

“จริงเหรอ พี่อายุเท่าไร เรียกนายได้มั้ย นายอายุเท่าไร เท่าฉันเหรอ” ตากลมโตเหมือนตั้งใจล่อลวงอีกฝ่ายให้หลงรักด้วยท่าทีกวน ๆ ทำเป็นห้าวใส่ แต่ใบหน้าหวานขนาดนี้ มีแต่จะชวนให้รู้สึกอย่างอื่น

“ฉันชื่อใต้หล้า อายุ 26 แล้ว ฉันไม่ได้ตกงาน แต่อยู่ช่วงรองาน” เขาพูด

“ช่วงรองานเหรอคะ แสดงว่าบัตรเมื่อกี้ อาทิตย์พาณิชนั่น คือบัตรเจ้านายมั้ยคะ”

“ประมาณนั้น”

“แสดงว่า...เรื่องรถน่ะค่ะ…เอ่อ ช่างมันเถอะ หนูไม่ยุ่งดีกว่า”

เธออยากถามแหละ

เขาคือโจรมั้ย

ขโมยรถแบบนั้น มาไว้บนเขานี่เหรอ

“โอ๊ย...ไม่ได้อะ ไหน ๆ ก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว พี่เป็นโจรขโมยรถมั้ยคะ เอาบัตรเจ้านายมาใช้ หรือเป็นเจ้าของบัตรนั้นเองคะ” เธอตัดสินใจถามออกไป

“ทำไม ถ้าเธอรู้ว่าฉันเป็นใคร แล้วจะทำไม” ใต้หล้าอยากรู้ความคิดอีกฝ่าย เขาเฝ้ามองดูปฏิกิริยาจากร่างกายเธอทุกทาง

“ก็...เผื่อถ้าพี่เป็นโจร เราโดนจับได้ หนูจะไม่ซัดทอดพี่เลยค่ะ แต่ถ้าพี่เป็นคนใหญ่คนโต คนสำคัญจริง ๆ ก็ดีค่ะ” เธอพูดชัดเจน จนกระทั่งปลายประโยคที่เสียงอ่อยลงอย่างคนขาดความมั่นใจ ทำใต้หล้าจับสังเกตได้

“เอาไว้เรารู้จักกันมากกว่านี้ ฉันจะบอก เรื่องที่นอน พอดีอีกห้องไม่สะดวกให้ใช้ นอนห้องเดียวกันได้มั้ย” เขาถามเธอ อันที่จริงแล้วห้องข้าง ๆ มันก็ว่างแหละ แต่อยากให้มันว่างแบบนั้นต่อไป

“ได้สิคะ ได้เลย เดี๋ยวนอนพื้นเอง”

“หึ!” เขาคงจะให้ผู้หญิงนอนพื้นหรอก ใต้หล้าพ่นลมออกจากจมูก

“ว่าแต่มีงานอะไรให้หนูช่วยมั้ยคะ หรืออยากให้ไปไหนมั้ย ใช้ได้เลยนะ”

“ตอนนี้เธอช่วยไปอาบน้ำ แล้วเราจะกินข้าวกัน ส่วนเรื่องเสื้อผ้าก็ตามนั้น ฉันสั่งให้คนจัดหาอะไรที่เหมาะกับเธอมาให้แล้ว แต่ต้องรอหน่อย”

“รอได้ค่ะ ๆ” เธอลุกมายืน ท่าทีผ่อนคลาย ยิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้น

“…….” เขามองเธอ

“…….” และเธอมองตอบ

“ไม่ไปอาบน้ำล่ะ” เขาถาม

“คือ…หนูอาจจะแปลก ๆ อยู่บ้าง เพื่อนชอบพูดกัน แต่ว่าหนูไม่ใช่คนที่จะขโมยของคนอื่นหรือทำร้ายคนอื่นหรอกนะคะ เห็นพี่พูดว่า ไม่ค่อยไว้ใจหนู เลยให้มานอนห้องเดียวกัน หนูสัญญาว่าจะไม่แตะของมีค่าอะไร และถ้าจะทำอะไรหนูจะขออนุญาตพี่ก่อน”

“อืม ดี”

กลีบปากบางคลี่ยิ้มออกยามได้รับคำชม อย่างน้อยเธอก็ทำถูกใจเขาสักอย่าง

“ยังไม่ไปอีก” เขาเลิกคิ้วชวนสงสัย ว่ามีปัญหาอะไรนักหนา

“พี่ใต้หล้า…ขอบคุณนะคะ” ร่างบางหมุนฟูลเทิร์น เดินล่องลอย ยกยิ้มตลอดทางไปหาเสื้อผ้า หาผ้าขนหนู ค้นของอย่างพยายามหยิบให้เรียบร้อยที่สุด แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

ชายหนุ่มเอนตัวปล่อยศีรษะทุยสวยพิงลงกับกระจกบานหน้าต่าง

“จะวุ่นวายมั้ย…เฮ้อ!”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel