บท
ตั้งค่า

Chapter 5 ความอิจฉา

Chapter

5

ความอิจฉา

มิรินทร์เดินตามหลังผู้จัดการ มูมู่ มัณฑนา (ผู้จัดการสาวสองที่ทำงานกับธีรติณณ์มาตั้งแต่เปิดคลับและเขาคือญาติคนเดียวของเขาที่ยังเหลืออยู่)

“พี่ชื่อมูมู่นะ พี่เป็นผู้จัดการร้านฝ่ายคลับแห่งนี้ ส่วนคาสิโน่จะเป็นน้องชายของคุณติณณ์ หนูชื่ออะไรนะ” มัณฑนาเอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของมิรินทร์และรู้สึกเอ็นดูและถูกชะตากับเธอมาก ๆ

“ชื่อมินค่ะ ยินดีที่รู้จักนะคะพี่มูมู่” มิรินทร์เอ่ยขึ้นมายิ้ม ๆ แม้ในใจของเธอจะยังอาย เพราะผู้จัดการเห็นเธอนั่งท่าทางที่ล่อแหลมกับธีรติณณ์

“พี่รู้นะว่าหนูกำลังกังวลแต่ไม่ต้องกลัวนะคะ พี่จะคอยอยู่ใกล้ ๆ หนูไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ทำหน้าที่ตามที่ได้รับเท่านั้น มีอะไรบอกพี่ได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่พี่อยากเตือนก็คือ อย่าทำให้คุณติณณ์ไม่พอใจเพราะนั่นคือหายนะ” มัณฑนาไม่เคยเตือนใครอย่างนี้ มิรินทร์คือคนแรกที่เธอเตือน

“ค่ะพี่มูมู่ มินเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำงานไปอีกนานแค่ไหนกว่าจะหมดหนี้สินที่ต้องชดใช้” มิรินทร์เอ่ยขึ้นมาอย่างหนักใจเพราะนอกจากเธอต้องมาทำงานใช้หนี้แล้วเธอยังต้องหาวิธีหาเงินเพื่อส่งให้พ่อกับแม่ใช้จ่ายอีก แม้ว่าน้องสาวของเธอจะทำงานพาร์ไทม์ระหว่างเรียนไปด้วยมันก็ไม่สามารถมาจุนเจือครอบครัวได้เพราะพ่อของเธอยังต้องไปหาหมอตามนัดซึ่งเงินเก็บของเธอก็มีไม่มากในระหว่างนี้เธอก็จะยังไม่มีรายได้ที่มากพอแน่นอน

“หนูดูเหนื่อยใจมากเลยนะ ถึงยังไงพี่ก็เชื่อว่าคุณติณณ์ไม่ใจร้ายอย่างที่คิดหรอกแค่เป็นเด็กดีของคุณติณณ์แค่นี้หนูก็สบายแล้ว” มัณฑนาพูดจบทั้งสองก็เดินมาถึงแผนกที่สาว ๆ เชียร์ดื่มกำลังนั่งที่โต๊ะประจำตำแหน่งของตนเอง

“ใจดียังไง ให้เราเสียตัวใช้หนี้เนี่ยนะ พี่มูมู่ก็อวยเกินไป” มิรินทร์คิดขึ้นมาคนเดียวในใจ แต่สายตาของเธอกำลังมองสาว ๆ สวย ๆ เป็นยี่สิบคนที่กำลังนั่งรอบริการลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการที่คลับแห่งนี้

พิชญ์อรที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้แยกออกจากคนอื่นเพื่อแสดงถึงความเหนือกว่าพนักงานคนอื่น ๆ เพราะเธอคือหัวหน้าพนักงานของแผนกนี้ฃ

“พายต่อจากนี้ที่นั่งของเธอไม่ใช่ตรงนี้เพราะคนที่จะนั่งตรงนี้คือมินเพราะเธอจะมาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการแผนกนี้ ส่วนเธอก็ยังเป็นหัวหน้าเหมือนเดิมแต่คนที่จะจัดการทุกอย่างแทนเธอคือมิน ส่วนเธอก็ทำหน้าที่เหมือนเดิมคือเป็นสาวเชียร์ดื่ม ส่วนเรื่องบัญชีการทำงาน การแต่งกายมินจะเป็นคนทำสัปดาห์ละสามวันส่วนวันที่เหลือพี่จะเป็นคนทำ” มัณฑนาเอ่ยขึ้นมายาวเหยียดเพื่อให้พิชญ์อรรับทราบแต่ดูเหมือนว่าเธอจะรับทราบแต่ไม่อยากปฏิบัติตาม

“อย่างนี้ก็หมายความว่าพายถูกลดตำแหน่งลงใช่มั้ยคะ” พิชญ์อรเอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองไปที่ใบหน้าของมิรินทร์อย่างไม่พอใจ

“อย่าคิดอย่างนั้นเลยนะพาย ยังไงเงินเดือนของเธอก็ยังเท่าเดิมแต่หน้าที่น้อยลงอย่างนี้ไม่ดีหรือไง” มัณฑนาเอ่ยขึ้นมาแล้วก็เดินไปยังที่พิชญ์อรนั่งพร้อมกับมิรินทร์ที่เดินตามหลัง ทำให้เธอต้องลุกจากเก้าอี้ประจำตำแหน่งแล้วก็ให้มิรินทร์นั่งแทน แม้จะไม่พอใจก็ต้องทำเพราะเธอเองก็กลัวมัณฑนาอยู่เหมือนกัน ถ้ามัณฑนาสั่งให้เธอออกจากงานก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

“มินนั่งตรงนี้นะ ส่วนนี่คือรายชื่อพนักงานและตารางการมาทำงานและตารางลงบัญชีการเรียกไปบริการแขกเพื่อที่จะได้ค่าคอมให้กับพนักงาน หน้าที่ของมินก็คือลงรายละเอียดและดูพฤติกรรมการทำงานของพนักงานและลงรายละเอียดตามความจริงที่เกิดขึ้น โดยไม่เห็นแก่พนักงาน ทำดีก็ว่าดี ทำไม่ดีก็ลงรายละเอียดไว้ สิ้นเดือนจะได้สรุปอีกที แต่ตอนนี้มินอาจจะยังไม่รู้จักพนักงานทั้งหมด ค่อย ๆ จำไปสักสองสามวันก็หน้าจะจำได้” มัณฑนาเอ่ยขึ้นมายาวเหยียดซึ่งมิรินทร์ก็คิดว่าคงไม่มีอะไรยาก แต่ที่ยากก็คือพนักงานบางคนที่เหมือนจะไม่ชอบเธอ

“ค่ะ พี่มูมู่ มินจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดค่ะ”

“แต่ที่มินต้องระวังก็คือยัยพายเพราะดูท่าแล้วต้องคอยหาเรื่องมินแน่ ๆ แต่ไม่ต้องกลัวนะบอกพี่ได้ทุกเรื่อง”

“ค่ะ มินขอบคุณพี่มูมู่นะคะที่ทำให้มินกังวลน้อยลงเยอะเลยค่ะ”

“ถ้าอย่างเริ่มจากดูรายชื่อพนักงานไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่เดินไปดูแผนกเครื่องดื่มแป็บ เดี๋ยวพี่กลับมานะคะ” มัณฑนาพูดจบมิรินทร์พยักหน้าก่อนที่มัณฑนาจะเดินออกไปจากตรงนั้น

มิรินทร์นั่งดูรายชื่อพนักงานแล้วก็คอยมองว่าพนักงานคนนั้นนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงไหน แล้วมิรินทร์ก็จดลงสมุดส่วนตัวของเธอ มิรินทร์ดูตั้งใจเรียนรู้มาก ๆ

พิชญ์อรก็คอยจ้องมองมิรินทร์ไม่หยุดจนดารินเพื่อนสนิทของเธอสังเกตได้ “นี่พายแกคงไม่ทำเรื่องอะไรในวันนี้หรอกนะ วันนี้วันแรกเลยนะที่คุณมินเพิ่งมาทำงาน”

“นี่แกอย่ามาเรียกคุณกับนางผู้หญิงคนนั้นได้มั้ย ฉันไม่ชอบ” พิชญ์อรเอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของเพื่อนอย่างไม่พอใจ

“ก็นางเป็นหัวหน้าของเราอ่ะ แต่ถ้าแกไม่ชอบก็ไม่เรียกก็ได้” ดารินเอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของพิชญ์อรแล้วในจังหวะนั้นก็มีลูกค้าอยากให้เธอไปบริการที่โต๊ะ ทำให้ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันต่อ

พนักงานมาเรียกตัวดารินไปบริการที่โต๊ะแล้วก็เดินไปแจ้งมิรินทร์ให้ลงชื่อของดารินเพื่อจะได้ค่าคอมตอนสิ้นเดือน ซึ่งมิรินทร์ก็ทำได้สบายมาก

“ใช้ท่าไหนเข้ามาล่ะ ถึงได้มานั่งเก้าอี้ตัวนี้” พิชญ์อรเดินเข้ามาหามิรินทร์เมื่อเห็นว่าไม่มีมัณฑนาอยู่ตรงนี้

“ก็ไม่ได้ใช้ท่าไหน แค่มาใช้หนี้เท่านั้น” มิรินทร์เอ่ยขึ้นมาอย่างตรงไปตรงมาและเป็นความจริง

“ที่มาใช้หนี้ก็หมายถึงว่ามาขัดดอกสินะ อย่ามาทำเหมือนฉันไม่รู้หน่อยเลย แต่ท่าทางอย่างเธอคงไม่อยากเป็นแค่สาวขัดดอกหรอกมั้ง สงสัยอยากเป็นเมียของคุณติณณ์ด้วยสินะ” พิชญ์อรเอ่ยขึ้นมาแล้วก็แสยะยิ้มและมองเธอเหยียด ๆ อย่างดูถูก

“ไม่ว่าฉันจะเป็นอะไรและทำอะไรแล้วคุณเดือดร้อนอะไรด้วยค่ะ หรือที่พูดมาทั้งหมดคือสิ่งที่เธอต้องการแล้วก็กลัวมีคนมาแย่งสินะ อย่างนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ แมวหวงก้างหรือเปล่านะ” มิรินทร์หลีกเลี่ยงคำว่าหมาหวงก้างเป็นแมวหวงก้างซึ่งดูเหมือนว่าพิชญ์อรจะโมโหไม่น้อยไปกว่าคำว่าหมาหวงก้างเลยสักนิด

“นี่จะมากไปหรือเปล่า แค่ถามดี ๆ ไม่เห็นต้องปากดีอย่างนี้เลย” พิชญ์อรเอ่ยจบก็ทำทีเป็นสะดุดอะไรสักอย่างแล้วน้ำก็หกใส่ตัวของมิรินทร์

มิรินทร์ที่ดูก็รู้ว่าพิชญ์อรตั้งใจทำอย่างนั้น “อุ้ย!!! ขอโทษด้วยนะ สะดุดอะไรไม่รู้ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ”

“ต่อให้ไม่บอกว่าตั้งใจ แต่ก็รู้ว่าตั้งใจทำให้น้ำหกโดนฉัน” มิรินทร์เอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองไปที่ใบหน้าของพิชญ์อรอย่างเอาเรื่อง

“ถ้าพูดอย่างนั้นก็แปลว่าหาเรื่องฉันนะ เธอคิดว่าเธอเป็นใครกันมากล่าวหาฉันอย่างนี้ ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจไม่เข้าใจหรือไง” พิชญ์อรเอ่ยขึ้นมาเสียงดัง ๆ จนคนบริเวณนั้นต้องหันมามองทั้ง ๆ ที่มีเสียงเพลงคลออยู่ก็ยังได้ยินเสียง

“เธอก็ยอมรับสิว่าเธอตั้งใจทำน้ำหกใส่ฉันแต่ถ้าไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร” มิรินทร์เอ่ยขึ้นมาแล้วก็หยิบแก้วน้ำขึ้นมาแล้วก็ลุกขึ้นแล้วทำทีเป็นสะดุดแล้วก็น้ำหกใส่ตัวของพิชญ์อรเช่นเดียวกัน

“กรี๊ด!!!” พิชญ์อรกรีดร้องออกมาเสียงดังแล้วทำให้ธีรติณณ์ที่กำลังตั้งใจจะมาดูการทำงานของมิรินทร์ได้ยินเสียงและเห็นเข้า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel