ตอนที่ 6 ไอ้เพื่อนเวร!
ตอนที่ 6
ไอ้เพื่อนเวร!
เสียงแหบพร่าพร้อมกับแรงกระแทกสุดท้ายทำให้ร่างของขวัญข้าวสั่นสะท้าน เธอหวีดร้องออกมาพร้อมกับร่างที่กระตุกเกร็งขณะที่ราชันย์ยังไม่หยุด เขากดสะโพกแน่นแล้วกระแทกหนัก ๆ อีกสองสามครั้งก่อนที่เขาจะปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเขาไปในตัวเธอ
"อ่า.. เวรแล้วเอาออกไม่ทัน!"
เสียงครางต่ำกระเส่าหลุดออกจากริมฝีปากของเขาขณะที่ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่ว สัมผัสอันเร่าร้อนทำให้ทั้งสองคนแทบหมดแรง ขวัญข้าวซบหน้าลงบนอกเขาหัวใจยังเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ราชันย์ยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังเนียนก่อนจะกดจูบลงบนกลุ่มผมนุ่มอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มบางแต้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ
เขามองรอยเปื้อนสีแดงบนผ้าปูที่นอน ดวงตาคมกริบที่เคยฉายแววเร่าร้อนเมื่อครู่พลันเปลี่ยนเป็นแววครุ่นคิดปนหงุดหงิด เขายกมือขึ้นเกาหัวเบา ๆ ไม่คิดเลยว่าเธอจะยังบริสุทธิ์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเข้าใจผิดมาตลอดว่าขวัญข้าวเป็นผู้หญิงโชกโชน สายตาของเขาเหลือบมองไปที่ร่างบางที่ฟุบหลับอยู่ข้างกาย เธอดูอ่อนแรงริมฝีปากบวมแดงดวงหน้าแดงระเรื่อซบลงบนหมอน ลมหายใจสม่ำเสมอของเธอทำให้เขารู้ว่าเธอคงเหนื่อยจนหมดแรงจริง ๆ ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบผมเธอเบา ๆ ความรู้สึกบางอย่างแทรกเข้ามาในอก เขาไม่ใช่คนอ่อนโยนแต่ตอนนี้กลับรู้สึกแปลก ๆ เมื่อเห็นร่างเธอระโหยโรยแรงเพราะตัวเอง
“ให้ตาย..”
เขาพึมพำเสียงต่ำก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วลุกขึ้นจากเตียง หยิบผ้าขนหนูชุบน้ำแล้วกลับมาเช็ดตัวให้เธออย่างเบามือ แม้จะยังขัดใจกับเรื่องที่เพิ่งรู้ แต่สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือดูแลเธอให้ดีที่สุดเพราะยังไงซะขวัญข้าวก็เป็นของเขาแล้ว
เสียงโทรศัพท์สั่นครืดอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เรียกความหงุดหงิดให้กับราชันย์ที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงมองหน้าขวัญข้าวด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้มอยู่ เขาหันไปเหลือบมองชื่อคนโทรมาก่อนจะกดรับด้วยเสียงขุ่น ๆ
“อะไร”
ได้ยินเสียงจากปลายสายเป็นเสียงหัวเราะขำ ๆ ของเพื่อนหลายคน พร้อมกับเสียงเพลงบรีทหนัก ๆ
“มึงอยู่ไหนวะคืนนี้ออกมาผับกัน”
ราชันย์ถอนหายใจออกมาก่อนจะตอบกลับเสียงเรียบ
“ไม่ว่าง”
“ไม่ว่าง.. มึงเนี่ยนะไม่ว่าง หรือว่าอายที่ฟันขวัญข้าวไม่ได้กันแน่~”
ปลายสายแกล้งยั่วเสียงกวนประสาท ราชันย์เลิกคิ้วขึ้นริมฝีปากกระตุกเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเปิดกล้องแล้วพลิกกล้องไปทางขวา เผยให้เห็นขวัญข้าวที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ใต้ผ้าห่ม ดวงหน้าของเธอซุกอยู่กับหมอนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ปลายสายเงียบไปสองวินาทีก่อนจะมีเสียงหัวเราะลั่น
“เหี้ย! จริงดิ! ไอ้ราชันย์คนเหี้ยมึงทำได้จริงว่ะ!”
“แล้วไง”
เขาถามเสียงเรียบแต่แววตาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
“ไม่คิดว่าจะได้เร็วขนาดนี้ มึงแม่งร้ายว่ะ! แต่เอาจริงนะออกมาดิ ไหน ๆ ก็ได้ฟันขวัญข้าวแล้วออกมาดื่มฉลองหน่อยไหม”
ราชันย์ก้มมองขวัญข้าวที่หลับสนิทอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา
“เออแป๊บ”
ปลายสายส่งเสียงเฮดังลั่น ราชันย์วางสายก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อแจ็กเกตขึ้นมาสวม มองหญิงสาวที่ยังไม่รู้ตัวเลยว่าเขากำลังจะออกไปข้างนอก เขาก้มลงไปลูบแก้มเธอเบา ๆ ก่อนจะยกยิ้มนิด ๆ
“เดี๋ยวกลับมา”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นหยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากห้องไป เขาเดินทางเพียงไม่กี่นาทีก็ขับรถมายังผับที่รวมตัวของเดอะแก๊ง เดินเข้าไปยังโตะประจำ เมื่อไปรวมตัวกลับเพื่อนแล้วก็เอนตัวพิงพนักโซฟาในโซนวีไอพีของผับ ดวงตาคมกริบจ้องเพื่อนสนิทที่นั่งฝั่งตรงข้ามก่อนจะเคาะนิ้วลงกับแก้วเหล้าใสในมือ
"ว่าไง.. ถึงเวลาทวงสัญญาแล้วหรือยัง"
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เพื่อนสนิทของเขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นยอมแพ้
"เออ ๆ กูยอมแล้ว เฮ้ย ไม่ใช่! พวกกูยอมแล้วต่างหาก"
มันรีบแก้คำพูดเมื่อเห็นสายตากดดันของราชันย์
"ดี งั้นก็อย่าลืมสิ่งที่ตกลงกันไว้"
ราชันย์ยกแก้วขึ้นกระดกเหล้าอึกใหญ่ รสชาติร้อนวาบไหลลงคอแต่คืนนี้เขากลับอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
"ว่าแต่มึงดูอารมณ์ดีผิดปกตินะ"
เพื่อนอีกคนหรี่ตามองก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
"หรือว่า.. อ๋อ~ เพิ่งได้ฟันขวัญข้าวมาสินะ สบายตัวเลยดิมึง~"
ราชันย์เหลือบตามองก่อนจะแสยะยิ้ม มือข้างหนึ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเปิดอัลบั้มรูปให้เพื่อนดูภาพบนเตียงของเขา ร่างบางของขวัญข้าวที่นอนหลับสนิทอยู่ใต้ผ้าห่ม ผมยาวสยายเต็มหมอน เผยให้เห็นผิวเนียนละเอียดที่โผล่พ้นออกมาเล็กน้อยพร้อมรอยแดงที่เขาจงใจทำไว้นับไม่ถ้วน
"หึ คิดว่ายังไม่ได้เหรอ"
เขาเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความภาคภูมิใจ
"โอ้โห! นี่มันของจริง!"
เพื่อน ๆ พากันส่งเสียงแซวบางคนถึงกับปรบมือให้ ราชันย์หัวเราะในลำคอก่อนจะวางโทรศัพท์ลงแล้วกระดกเหล้าอีกแก้วอย่างอารมณ์ดี คืนนี้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบทุกอย่าง
เสียงดนตรีในผับกระหึ่มไปทั่ว ไฟสลัวส่องสะท้อนเครื่องดื่มสีอำพันในแก้ว มีหญิงสาวร่างอรชรในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดก้าวเข้ามาใกล้โต๊ะของพวกเขา ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีเดียวกับชุดโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ายวน สายตาของเธอส่งสัญญาณเชิญชวนอย่างไม่ปิดบัง ราชันย์เอนตัวพิงโซฟากึ่งกลางระหว่างเพื่อน ๆ เขากระดกเหล้าเข้าปากช้า ๆ ดวงตาคมกริบจับจ้องหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะเหลือบมองเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ซึ่งต่างก็ส่งเสียงผิวปากขับกล่อมเธออย่างพึงพอใจ
"ของดีมาแล้วเว้ย!"
หนึ่งในเพื่อนเขาหัวเราะพรืดสายตาจับจ้องส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างเปิดเผย ราชันย์เลียริมฝีปาก ดวงตาพร่าไปด้วยแอลกอฮอล์และอารมณ์กรุ่นร้อน มุมปากยกยิ้มพอใจขณะมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
"สนใจนั่งตรงนี้มั้ยคะคนสวย"
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นพร้อมกับตบลงบนตักตัวเอง สาวสวยยิ้มหวานยกคิ้วท้าทายเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้ามาหาอย่างมั่นใจ มือเรียวไล้ไปตามไหล่กว้างก่อนจะทรุดกายลงนั่งบนตักเขาอย่างแนบเนื้อ
"แบบนี้ดีมั้ยคะ"
เธอกระซิบข้างหูนิ้วเรียวลากเบา ๆ ไปตามแนวกรามของเขา ราชันย์หัวเราะในลำคอมือหนาสอดโอบรอบเอวคอดกดให้ร่างเธอแนบชิดมากขึ้น ดวงตาของเขาเป็นประกายเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอียงหน้าเข้าใกล้ ทว่าทันทีที่หญิงสาวโน้มตัวลงมาภาพของขวัญข้าวกลับซ้อนเข้ามาในหัวทำให้เขาหยุดชะงัก ใบหน้าหวานที่แดงเรื่อในยามที่เขาจูบ เสียงครางแผ่วหวานที่กระซิบอยู่ข้างหู แขนเรียวที่กอดรัดเขาแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป ราชันย์ชะงักปลายนิ้วที่กำลังเลื่อนขึ้นสัมผัสเอวของสาวสวยกลับหยุดกลางอากาศ
"เป็นอะไรคะ"
เสียงหวานกระซิบถามเมื่อเห็นว่าเขาไม่ขยับ ราชันย์คลายอ้อมแขนลงมือหนาที่เคยโอบรัดกลับเลื่อนออกจากร่างของหญิงสาวตรงหน้า
"ขอโทษนะ"
เขาพูดเสียงเรียบก่อนจะจับเธอขยับออกจากตัก ดวงตาคมกริบทอดมองแก้วเหล้าในมือ เขากระดกมันรวดเดียวจนหมด รสขมปร่าของแอลกอฮอล์ไหลลงคอแต่มันกลับไม่ได้ช่วยให้เขาหยุดคิดถึงขวัญข้าวได้เลยแม้แต่นิดเดียว ราชันย์กะพริบตาถี่ ๆ ไล่ภาพในหัวออกไป ก่อนจะมองใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง คราวนี้เป็นใบหน้าที่เขาไม่คุ้นเคยไม่ใช่ขวัญข้าว
เขายกยิ้มมุมปากโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกแทบจะเฉียดกัน หญิงสาวหลับตาพริ้มราวกับกำลังรอจูบจากเขา แต่แทนที่ริมฝีปากจะสัมผัสกันราชันย์กลับสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบธนบัตรสีเทาออกมาหลายใบยัดมันลงไปในร่องอกของเธออย่างไม่รีบร้อน
“อันนี้พี่เลี้ยงเหล้า.. คืนนี้เต็มที่เลยนะคะคนสวย”
