EP 2 นางอุ่นเตียง
ปึก… ร่างน้อย ๆ ของนางชนเข้ากับร่างหนาของท่านฟู่ ท่านจงใจมายืนขวาง
ความสูงของหลินฮวาอยู่เพียงหัวไหล่ของท่านฟู่เท่านั้นเอง
“ขอประทานโทษเจ้าค่ะท่านพ่อ” นางก้มหน้าหลุบตามองต่ำ สองมือของท่านฟู่จับลงมาที่หัวไหล่ของนาง
หมับ…
ตอนนี้หญิงสาวได้กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ที่พ่นออกมาจากปลายจมูกของเขา ลมหายใจที่รินลดลงมาบนใบหน้าของหลินฮวาร้อนจนรับรู้ได้
หลินฮวาเงยหน้าขึ้นมามองเขา ท่านฟู่กำลังทำให้นางอับอายยิ่งกว่าโดยการกระชับมืออีกข้างจับเอวคอดของนางแล้วรั้งเข้าหาตัวเอง ในเวลานี้ใบหน้าของท่านฟู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จากที่เห็นเมื่อสองวันก่อน ใบหน้าเข้มของเขาสุดแสนจะเย็นชา แถมมีแววตาดุร้ายเล็กน้อย แต่ตอนนี้ท่านฟู่เขากลับส่งยิ้มที่ละลายหัวใจของหลินฮวา
ดวงใจน้อย ๆ เท่ากำปั้นของนางในใต้อกอวบนุ่มเต้นสั่นไหวระรัว ท่านฟู่โน้มใบหน้าลงมาใกล้ เขาได้ส่งมือหนามาจับที่ปลายคางของนางแล้วบีบเบา
หลินฮวาจ้องมองเข้าไปดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย หญิงสาวก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่า… เขารู้สึกเช่นไร แต่ตัวนางนั้นแทบอยากจะร้องไห้แล้ว นางเหมือนหมาที่จนตรอกไร้หนทางไป
ท่านฟู่ชิดใบหน้าลงมา นิ้วมือยังเคล้นคลึงและบีบปลายคางของนาง จากนั้นหลินฮวาก็ต้องทำตาโต เพราะว่าเขาฉกใบหน้าลงมา แล้วพูดกระซิบข้างใบหู
“เจ้ามาเป็นเมียของเทียนหยูได้สองคืนแล้ว เขาทำอะไรเจ้าหรือยัง” คำถามที่พ่อสามีไม่ควรจะถามลูกสะใภ้เช่นนาง
หลินฮวาออกอาการตัวสั่น นางรู้สึกมวนในช่องท้องขึ้นมาเฉย ๆ หญิงสาวกลั้นลมหายใจ เพราะกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ฟุ้งไปทั่วทั้งใบหน้าของตัวเอง ทำให้หลินฮวารู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก
“ข้าดีใจที่นางมาเป็นลูกสาวที่ถูกต้องตามกฎหมายน่ะ และข้ายินดีมาก ๆ ที่จะได้นางมารับใช้ตระกูลของเรา ที่ผ่านมาข้ารู้ว่านางลำบากมาก แต่นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป เจ้าจะได้ทุกสิ่งที่นางต้องการ หลินเอ๋อร์”
หลังจากที่ท่านฟู่เอ่ยจบ เขาก็บดกลีบปากลงมาขยี้กลีบปากของนาง หลินฮวาตัวชาไปหมด นางยืนแข็งทื่อ สองดวงตาที่เบิกตากว้างกะพริบปิดลงมาในทันที
‘อะไรกัน นี่มันอะไรกัน’
คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวสมองของหญิงสาว ปลายลิ้นของเขาที่จ้วงแทงเข้ามาในโพรงปากของนางและเกี่ยวรัดพันตู
‘ข้าเป็นลูกสะใภ้ของท่านพ่อนะ’ นางพลางครางประท้วงอยู่ในลำคอ
“อื้อ” และนี่คือเสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอของหลินฮวา
“อ๊า… ท่านพ่อ” หญิงสาวเอ่ยเรียกเขาออกมาในทันทีอย่างแผ่วเบา หลังจากที่ริมฝีปากของนางเป็นอิสระ
“เทียนหยูให้ความสุขกับเจ้าไม่ได้หรอกหลินเอ๋อร์ และข้าอยากจะบอกเจ้าว่า ข้าจะทำหน้าที่นั้นแทนเทียนห¬ยูเองทั้งหมด”
คำประกาศประกาศิตบอกให้นางได้รู้
หลินฮวา… ในตอนนี้ เหมือนกับว่านางถูกเขาจับโยนลงไปในหลุม ซึ่งเป็นหลุมศพ ที่มีท่านฟู่ยืนอยู่ที่ปากหลุม จากนั้นนางก็เห็นเขากำลังใช้พลั่วขุดดินที่อยู่บนปากหลุมนั่นลงมากลบบนใบหน้าของนาง
“หลินเอ๋อร์ เจ้าต้องรับใช้พ่อด้วย มันจะเป็นหน้าที่ของเจ้านับตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่รับใช้เทียนหยูคนเดียว”
“ท่านพ่อ” เสียงเรียกที่กลืนหายลงไปในลำคอ หลินฮวาเหมือนกับยืนบนที่โล่งราวกับว่าตอนนี้เวลาและทุกสรรพสิ่งรอบตัวของหญิงสาวได้หยุดนิ่ง หลินฮวาเห็นแต่เพียงใบหน้าของท่านฟู่ และริมฝีปากที่ขยับขึ้น ๆ ลง ๆ
แต่ทว่าหลินฮวาไม่ได้ยินในสิ่งที่ท่านฟู่เอ่ยออกมาแม้แต่คำเดียว ความช้าที่นางเห็นเหมือนภาพที่ไม่เคลื่อนไหวดุจขนนกที่ปลิดปลิวมาตามสายลม
หลินฮวามองเห็นแม้กระทั่งควันขาว ๆ ที่โพยพุ่งออกมาจากปากของท่านฟู่ด้วย หลินฮวาได้กลิ่นกายหอม ออกมาจากตัวของเขานอกจากกลิ่นแอลกอฮอล์
ฟู่เทียนเฉินจงใจแตะปลายจมูกลงไปบนแก้มของนาง หัวใจของหลินฮวาแทบหลุดออกมาข้างนอก
นางยกเอามือขึ้นมาผลักที่หน้าอกของท่านเอาไว้ด้วยมือน้อยที่สั่นเทา อ้อมแขนใหญ่รัดร่างบางของหลินฮวาให้เบียดเข้ามาหาตัว ฟู่เทียนเฉินช้อนสายตามองสบตากับนางอย่างหวานเชื่อม ลำคอของหลินฮวาแห้งผาก ตอนนี้แม้แต่กลืนน้ำลายก็ลำบากแล้ว
“ท่านพ่อ” เสียงแผ่วเรียกเขา น้ำตาคลอหน่วย
สายตาที่จ้องมองโลมเลียทำให้หลินฮวาเริ่มร้อนวูบวาบขึ้นมาเฉย ๆ จนทั่วกาย และในห้องที่มีกลิ่นหอมของกำยานอีก ยิ่งสูดดมเข้าไป
หลินฮวาก็ยิ่งไม่เป็นตัวของตัวเอง ความรู้สึกร้อนวูบวาบแล่นพล่านทั่วร่างกาย นางรับรู้ได้เหมือนเส้นเลือดกำลังเต้นระบำ ไม่เว้นแต่หัวใจที่กำลังสูบฉีดเลือดสาว
“ข้าไม่อยากให้เจ้าเปลี่ยวดาย ข้าจะทำหน้าที่แทนเทียนหยู”
“ท่านพ่อ” คำที่เอื้อนเอ่ยเหมือนเสียงกระซิบ ร่างกายสั่นเหมือนกับคนที่ไม่สบายจับไข้
“ข้าอยากให้เจ้ามีความสุข” พูดกระซิบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีก จากนั้นฟู่เทียนเฉินช้อนร่างนางขึ้นสู่วงแขน
“อึก… ท่านพ่อจะทำอะไร” ร่างนางสะดุ้งไหว เพราะตอนนี้ตัวของนางถูกจับโยนลงไปบนที่นั่งที่มีฟูกหนารองรับ เตียงตั่งที่นอนเหมือนกับว่าท่านฟู่ได้ทำไว้เพื่อกิจกรรมบางสิ่งบางอย่าง ที่กำลังจะเกิดขึ้นตั้งแต่วินาทีนี้
มือหนาของท่านฟู่เริ่มบีบเคล้นไปบนเรือนร่างของหลินฮวา จากนั้นเขาก็ส่งใบหน้าร้อน ๆ คลุกเคล้าลงมาบนเนื้อตัวของนาง หลินฮวายกมือขึ้นมาปิดปากกลั้นเสียงดังที่กำลังจะเล็ดลอดออกมาอย่างน่าอาย
“ไม่…” เสียงเอ่ยห้ามช่างแสนแผ่วเบาผสมกับลมหายใจขาดช่วง