บทที่ 2 เชลยแค้น
บทที่ 2 เชลยแค้น
แต่เดิมมาแล้วสตรีที่ถูกจับตัวมาเป็นเชลยนางคือหญิงสาวในยุคปัจจุบัน ชีวิตของนางเหมือนจะดีมาโดยตลอดมีชายหนุ่มเข้ามาพัวพันจนได้แต่งงานแต่การแต่งงานของนางนั้นผู้เป็นพ่อขัดขวางมาตลอดเพราะไม่ชอบฝ่ายชาย แต่นางก็ดื้อรั้นที่จะแต่งกับเขา เขาเป็นรักแรกรักเดียวของนางทำกับนางเปรียบเสมือนนางเป็นนางฟ้า แต่เมื่อแต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านของนางทำให้นางรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วชายที่นางรักคือลูกชายของบริษัทคู่แข่ง ปลอมตัวหลอกลวงเข้ามาอยู่ที่นี่เพราะต้องการทำลายบริษัทของนางจนเป็นอย่างที่เขาตั้งใจหวัง บริษัทที่คุณพ่อตั้งใจสร้างมาด้วยความรักล้มละลาย คุณพ่อยากจะรับไหวตัดสินใจฆ่าตัวตาย นางยังคิดเข้าข้างตัวเองคิดว่าเขายังรักนางอยู่ แต่เมื่อไปหาเขาอีกครั้งกลับพบว่าเขานั้นมีคนรักอยู่ก่อนหน้าแล้ว ที่ผ่านมาเขาเพียงแสดงละครเท่านั้น นางกลับมาบ้านที่เงียบเชียบไร้เสียงผู้คนย้อนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาเป็นเพราะนางทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ล้มละลายหรือแม้แต่พ่อที่ต้องจบชีวิตตัวเองลง ความปวดร้าวถาโถมทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายลง สองเท้าเดินตรงไปที่สะพานแม่น้ำใหญ่ในตัวเมือง นางจ้องมองไปยังท้องฟ้ายามราตรีก่อนจะจ้องมองแม่น้ำที่ไม่มีกระแสน้ำไหลเซียวเท่าไหร่นัก แน่นิ่งเหมือนชีวิตของนางยามนี้
“ หากได้นอนอยู่ใต้แม่น้ำคงสงบนิ่งเหมือนแม่น้ำตอนนี้สินะ ข้างล่างคงเย็นและไร้เสียงผู้คนดีเหมือนกัน คุณพ่อลูกสาวเนรคุณคนนี้กำลังเดินทางไปหานะคะ ขอให้คุณพ่อยกโทษในความโง่เขราครั้งนี้ของลูกด้วย”
ตู้ม!! ... เสียงสิ่งของที่ตกลงสู่แม่น้ำ น้ำกระเด็นเสนซ่านก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบสงบจมดิ่งสู่ใต้น้ำที่ไหลตามกระแส แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เธอคิดว่าเธอได้ตายจากโลกไปแล้วลืมตาขึ้นมาจะได้พบคุณพ่อ แต่เปล่าเลยนางกลับลืมตาขึ้นมาอยู่ในจวนที่เต็มไปด้วยทหารมากมาย เสียงดังเอะอะยิ่งทำให้นางสงสัยและตอนนี้ตัวของนางเองที่ถูกมัดเอาไว้ในคอกไม้ที่แบกนางกลับมา
ครั้นนั้นนางก็รู้แล้วว่าตนเองไม่ได้ตายแต่กลับมาเกิดใหม่ในยุคโบราณชีวิตของนางก็ช่างน่าเวทนาไม่ว่าจะมีชีวิตกี่ครั้งก็มีแต่ความเจ็บปวด และสิ้นหวังมาเกิดใหม่ดันมาเป็นเชลยข้างฝ่ายตรงข้าม แถมเขายังไม่ลงโทษนางแต่กลับเอาตัวนางไว้ใช้งานและทุกข์ทรมานใจจนกว่าเขาจะสาสม แต่นางไม่ย่อท้อต่อความคิดที่จะฆ่าตัวตาย เมื่อทุกคนนอนหลับในยามวิกาลนางได้ออกไปที่บึงบัวเพื่อฆ่าตัวตายอีกครั้ง
ชีวิตของข้าช่างเวทนาจริง ๆ แล้วเช่นนี้ข้าจะทำอย่างไรต่อไป..
“นี่เจ้านอนเสียทีเถอะ จะนั่งมองดวงจันทร์ไปถึงเมื่อไหร่รุ่งสางยังมีงานให้เราต้องทำอีกมาก จนไม่มีเวลาให้เจ้าคิดฆ่าตัวตายเลยละ” เสียงไป๋หนิงซินตะโกนบอกนางอีกครั้งก่อนจะโยนผ้าห่มมาให้ เมื่อสิ้นหนทางนางจึงยอมนอนลงบนพื้นที่แข็ง ๆ ไร้ผ้าปูนอนอย่างเงียบ ๆ
แคว้นหยางอันเป็นศัตรูแค้นกับแคว้นหนานไฮ้มาเนินนาน เมื่อไม่กี่ปีก่อนมารดาของแม่ทัพหลิวไท่หยางถูกจับตัวไป เขาพยายามออกตามหาเพื่อช่วยเหลือแต่ก็ถูกทหารอีกฝ่ายโจมตีจนได้รับบาดเจ็บ มารู้อีกทีก็เมื่อสายไปแล้วท่านแม่ของเขาถูกจับไปเป็นเชลยใช้งานเยี่ยงทาสมิหนำซ้ำยังได้ยินเรื่องความอัปยศว่าท่านแม่ถูกทหารเลวทรามต่ำช้าข่มขืนคนแล้วคนเล่าเป็นคล้ายนางโลมในจวนสภาพสะบักสะบอมใจแตกสลาย จนทำการปลิดชีพตนเองด้วยความอัปยศอดสู่นี้
ความแค้นต่อแคว้นหนานไฮ้จึงมีมากมายจนเขาซ้อมทหารและถึงวันยกทัพโจมตีแก้แค้นให้ท่านแม่จนสำเร็จ ฝ่ายแคว้นหนานไฮ้แพ้ราบคราบ เจ้าแคว้นตายด้วยน้ำมือของเขา ร่างกายของเจ้าแค้วนถูกมามาสังเวยในสิ่งที่เขาทำลงไปกับท่านแม่ของหลิวไท่หยาง แต่เท่านี้ไม่สาแก่ใจของเขานักจึงยังไว้ชีวิตของบุตรสาวเพียงผู้เดียวของจางชิงหลงเจ้าแคว้นหนานไฮ้ นางมีใบหน้างดงามรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวราวกับหยวกแต่นั้นก็มิได้ทำให้เขาพิศวงนางจับตัวนางเพื่อนำนางไปทรยศเหมือนกับท่านแม่ของเขา ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าของนางอย่างใกล้ชิดความเจ็บปวดเริ่มก่อตัวในจิตใจมากกว่าเดิม ทว่าความแค้นอกแค้นใจมีมากกว่าความรู้สึกผิด
รุ่งเช้าวันต่อมาแสงแดดสาดส่องเล็ดลอดเข้ามาตามไม้ไผ่ไป๋หนิงซินเขย่ากายของจางอวิ๋นหลิงให้นางตื่น
“นี่เจ้ารีบตื่นเดี๋ยวนี้ เมื่อครู่ทหารมาแจ้งให้เจ้าไปเข้าพบท่านแม่ทัพหลิว” นางลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่นางคิดจนเผลอหลับไป
“เขาสั่งมาตามตัวข้าอย่างนั้นหรือ? ”
“ใช่แล้วรีบลุกเร็วเข้า อย่าได้ชักช้าเจ้ารู้หรือไม่ว่าแม่ทัพแคว้นของข้านะมีชื่อเสียงเช่นไรอย่าทำให้เขาโมโหเลย ข้าไม่อยากเห็นเจ้าถูกลงโทษและอีกอย่างเจ้าอย่าคิดจะทำร้ายตนเองด้วย แค่ข้านึกถึงแววตาของท่านแม่ทัพเมื่อคืนขนลุกขนพองไปหมดทั้งตัว” จางอวิ๋นหลิงไม่ได้พูดอะไรนางรีบพับผ้าห่มเก็บไว้และเดินตามหลังของไป๋หนิงซินไปที่ห้องโถงของจวน ไม่อยากให้ไป๋หนิงซินต้องมารับโทษหากนางขัดคำสั่งแม้ว่านางต้องการขัดคำสั่งและให้เขาโมโหโกรธเกรี้ยวนางเพียงใด
‘แค่เพียงเขาเห็นใบหน้าของข้าความโกรธเกรี้ยวบนใบหน้าของเขาก็ปรากฏขึ้นมาแล้ว แม้ว่าข้าไม่ได้ขัดใจก็ตามมันเป็นเพราะข้าเป็นบุตรสาวของศัตรูหรือมีอะไรมากกว่านั้นกันแน่ หากเป็นเช่นนั้นฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่องแล้วสิ ’
