บทย่อ
ความตายของเจ้ามีเพียงข้าเท่านั้นที่จะบันดานให้ ต่อให้เจ้าอยากตายก็มิอาจจะตายได้เพราะข้าไม่อนุญาตไม่ว่าจะเป็นวิญญาณหรือร่างกายของเจ้าทุกอย่างล้วนอยู่ที่ข้ากำหนด บทนำ ชีวิตชาติที่แล้วข้าก็เลือกที่จะฆ่าตัวตายเพราะชีวิตที่ล้มเหลวจากคนที่รักหักหลัง คิดว่าตัวเองได้ชดใช้ความผิดพลาดต่อคุณพ่อจนหมดสิ้น ใครจะคิดว่าเมื่อลืมตาอีกครั้งต้องมาอยู่ในอีกยุคหนึ่งแถมชีวิตไม่ได้ดีไปกว่าเดิมเลย ข้าจึงเลือกที่จะตายอีกครั้ง ชีวิตมืดมนหมดหนทางไม่อยากมีวิตอยู่ แต่ไฉนบุรุษที่น่าเกรงขามกลับไม่อยากให้ข้าตาย และข้าก็ไม่สามารถตายได้หากเขาไม่สั่งการ ตอนนี้ข้าเป็นเชลย เชลยที่เขาทุกข์ทรมานจิตใจของข้าจนมอดไหม้ไม่เหลือชิ้นดี ไม่มีหนทางหนีจากเขาได้เลยแม้ตายไปเขายังปลุกให้ฟื้น ชีวิตของข้าดิ่งลงไปเรื่อย ๆ จนด้านชาไร้ชีวิตเสียงหัวเราะเป็นเช่นไรข้าจำมันไม่ได้เสียแล้ว…
บทที่ 1 แม้แต่วิญญาณของเจ้าล้วนเป็นของข้า
บทที่ 1 แม้แต่วิญญาณของเจ้าล้วนเป็นของข้า
แสงโคมกระเพื่อมไหวตามสายลมยามราตรี บางคราวสว่างบางคราวรุบหรู่ราวระลอกคลื่นน้ำ ยิ่งตกดึกทั่วทั้งเมืองสวัดเงียบ มีเพียงเสียงกลองตีบอกเวลาดังแว่วมาจากไกล ๆ
ครานั้นเสียงฝีเท้าวิ่งกรู่มายังห้องเจ้าของเรือนอย่างรีบร้อน เสียงเหนื่อยหอบที่เปล่งออกมาตะโกนเรียกทันทีที่ถึงห้องของนายท่านเพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น
“ท่านแม่ทัพเจ้าคะเกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ” เสียงกระเส่าของสาวใช้ดังอยู่หน้าห้องของบุรุษที่ได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมไม่เกรงกลัวและไม่มีจิตใจเมตตาต่อคู่ต่อสู้ ตอนนี้ร่างใหญ่ยังไม่ได้นอนกำลังอ่านฎีกาจากฝ่าบาทลุกขึ้นค่อย ๆ เดินออกมาจากห้องของตนพร้อมเอ่ยปากถามเรื่องที่สาวใช้เข้ามาแจ้ง
“หากไม่ใหญ่พอแต่เจ้ากล้ามาส่งเสียงดังรบกวนเวลาของข้า ข้าจะบั่นคอเจ้าทิ้งเสีย” น้ำเสียงแข็งกร้าวเอ่ยออกมาดวงหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิดวาบผ่านบนใบหน้า สาวใช้มิกล้าแม้จะเงยหน้ามอง ก้มหน้าต่ำลงพร้อมพูดเรื่องที่นางต้องการแจ้งในตอนนี้
“ยามนี้สตรีที่ท่านนำตัวกลับมากระโดดน้ำที่บึงบัวเจ้าค่ะ” พลันได้ยินว่าเป็นเชลยที่เขาพาตัวมาตอนนี้นางกระทำในสิ่งที่เขาไม่ต้องการรีบแจ้งต่อทหารหน้าเรือนทันที
“ข้าไม่ได้อนุญาตให้นางตายหรือต่อให้นางตายก็ต้องทำให้นางฟื้นขึ้นมาให้ได้ ทหารไปลากตัวของนางมาหาข้าหากนางตายพวกเจ้าจะโดนรับโทษไปด้วย” ดวงตาดำขลับเว้าลึกมีความไม่แยแสต่อโลกเจืออยู่ในนั้น กวาดสายตามองไปด้านนอกกัดฟันดังกรอด
“ขอรับท่านแม่ทัพ” ทหารรีบตามหลังสาวใช้ไปที่บึงบัวทำตามคำสั่งของท่านแม่ทัพ
ร่างบางถูกทหารพาร่างขึ้นมาและทำการช่วยเหลือจนตอนนี้นางสำลักน้ำออกมา
“แค่ก แค่ก!” สาวใช้เห็นว่าตอนนี้นางฟื้นจากความตายรีบเข้าไปประคองนางด้วยความดีใจ
“เจ้าฟื้นแล้วทำไมต้องทำเช่นนี้ด้วยรู้หรือไม่ว่าข้าร้อนใจคิดว่าเจ้าจะตายไปแล้วเสียอีก” สตรีเงยหน้าจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ต่อหน้าน้ำตาใส ๆ ไหลรินออกมาอาบแก้ม เอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาสั่นเครือ
“ข้ามิได้อยากมีชีวิตอยู่ เจ้าน่าจะปล่อยให้ข้าตายไปเสีย” ทันทีที่ได้ยินสาวใช้บังเกิดความเวทนาต่อนางเหลือทนขยับกายเข้าไปโอบกอดนางเอาไว้เพื่อปลอบประโลม
“ชีวิตของเจ้ามีค่ามากกว่านี้อย่าด้วยค่าตนเองอีกเลย”
“ชีวิตของข้าหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว ไม่เหลือแม้แต่ความเป็นคน” ลำคอตีบตันในใจขมขื่นปวดร้าววนเวียน ดวงตาหมองคล่ำบวมเป่งผ่านการร่ำไห้มานักต่อนัก
“เมื่อเจ้าฟื้นแล้วรีบไปหาท่านแม่ทัพบัดเดี๋ยวนี้” ทหารนายหนึ่งพูดขึ้นก่อนจะจับกายของนางกระชากให้เดินตามเขาไปที่ห้องของท่านแม่ทัพ ร่างบางอิดโรยผอมแห้งซูบเซียวประหนึ่งต้นหญ้าขาดน้ำพร้อมจะล้มลงทุกเมื่อ ขาแทบก้าวไม่ออกถูกลากตัวจนมาถึงหน้าห้องของแม่ทัพ
ครานั้นเขายืนอยู่หน้าห้องเฝ้ารอให้พาตัวนางมาที่นี่เมื่อเห็นอีกฝ่ายถูกทหารลากตัวมาร่างเล็กเปียกปอนไปหมด ใบหน้าซีดเผือกไร้เลือดฝาด คล้ายมีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาบีบรัดหัวใจ ความวิตกเล็กน้อยสลายหายไปจนสิ้นเมื่อเห็นว่านางยังมีชีวิตอยู่ ทหารผลักนางลงต่อหน้าท่านแม่ทัพพร้อมรายงาน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยนำตัวเชลยมาแล้วขอรับ” เขาเดินมาหยุดตรงหน้านางก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“เจ้าช่างกล้าที่ทำเช่นนี้ ข้าไม่ได้สั่งให้เจ้าทำเช่นนั้นนี่ข้าใจดีกับเจ้าไม่กักขังหรือมัดเจ้าไว้ทำให้เจ้ากล้าขัดคำสั่งของข้าอย่างนั้นหรือ?”
“ทำไมเจ้าคะ ทำไมไม่ปล่อยให้ข้าตายไปเสียหรือไม่ก็ฆ่าข้าทิ้งไปเสียสิจะรั้งข้าไว้ทำไมกัน” ร่างเล็กเงยหน้ามองชายร่างสูงโพล่งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือไร้ชีวิตชีวาชีวิตคลายหมดสิ้นหนทาง เขาค่อย ๆ นั่งลงยื่นมือข้างขวาไปจับปลายคางของนางบีบจนอีกฝ่ายรู้สึกเจ็บ
“หากข้าทำเช่นนั้นมันไม่สาสมและสะใจของข้านะสิ ข้าจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานเหมือนที่ท่านพ่อของเจ้าทำกับท่านแม่ของข้าเจ้าจะได้รู้ว่าท่านแม่ของข้าเจ็บปวดเพียงใด ที่เจ้าได้รับอยู่นี่ช่างเล็กน้อยนักความแค้นในใจของข้าอย่างไม่สาสมหากเจ้าตายไปง่าย ๆ เช่นนี้ ต่อจากนี้แม้แต่ความตายของเจ้าก็มีเพียงข้าเท่านั้นที่ดลบันดาลให้ไม่ว่าจะเป็นร่างกายชีวิตหรือแม้แต่วิญญาณล้วนเป็นของข้าทั้งหมด หากข้าไม่อนุญาตเจ้าห้ามตาย ไป๋หนิงซินต่อจากนี้ข้าขอสั่งให้เจ้าคอยจับตาดูนางเชลยผู้นี้อย่าให้ทำทำเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกและขอสั่งให้เจ้าตามติดนางทุกฝีก้าว” เสียงดังดึกก้องป่าวประกาศให้รู้ว่าตอนนี้ชีวิตของเชลยอย่างนางไร้สิ้นหนทางแค่เพียงต้องการจะจากโลกนี้ไปแม่ทัพทมิฬอย่างเขายังร้ายกาจไม่ยอมปล่อยให้นางตายไปง่าย ๆ
“เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ”
ดวงตาของสตรีที่เป็นเชลยยามนี้ล้วนมืดมัวโลกทั้งใบแตกสลาย นางถูกพาตัวกลับมาที่ห้องพักของสาวใช้โดยมีไป๋หนิงซินคอยตามติดตลอด
“เจ้าเปลี่ยนอาภรณ์ก่อนเถอะนะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าต้องพบเจออะไรมา ข้าก็สงสารเจ้าจับใจเป็นสตรีที่งดงามแต่ต้องถูกจับมาเป็นเชลยของท่านแม่ทัพ อีกอย่างเขายังดูเหมือนมีความอาฆาตแค้นเต็มอก เอาเถอะระหว่างเจ้าอยู่ที่นี่ข้าจะคอยดูแลเจ้าเอง” ไป๋หนิงซินพูดพร้อมดึงเสื้อผ้าของสตรีร่างบางออก แต่นางปัดมือของนางทันที
“ไม่ต้องข้าทำเองได้ เจ้าไม่ต้องเห็นใจข้าและเวทนาข้าหรอกเพียงเท่านี้ข้าก็เวทนาตนเองมากพอแล้วแค่อยากตายข้ายังทำไม่ได้เลย” ดวงตาฉายแววหมองหม่นกระแสเสียงแผ่วเบาราวกับเทียนจะมอดดับ ไป๋หนิงซินจึงค่อย ๆ วางมือปล่อยให้นางอยู่ผู้เดียว
“เช่นนั้นข้าจะไปหยิบชุดใหม่มาให้ เจ้าอย่าคิดที่จะทำร้ายตัวเองอีก หากเป็นเช่นนั้นข้าเองก็อาจจะถูกกล่าวโทษไปด้วย”
‘ดูท่าแม้แต่สวรรค์ก็ยังเลอะเลือน ให้ข้ามาเกิดใหม่อีกกี่ครั้งทำไมถึงได้มีโชคชะตาเช่นนี้’ นางค่อย ๆ เปลื้องผ้าที่เปียกออกจนหมดไม่นานไป๋หนิงซินกลับเข้าพร้อมอาภรณ์ชุดใหม่ให้นางได้สวมใส่

