บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 โดนจนจับไข้

คนตัวเล็กที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง 6 ฟุต ตอนนี้เธอไม่ไหวติง ปวดร้าวระบมช่วงล่างไปหมดแทบจะก้าวขาเดินไปไหนไม่ได้ กชมนมองไปรอบ ๆ ก็ไร้เงาของผู้ชายใจโฉดคนนั้นแล้ว

แอร๊ดดดดดดด~~

เสียงบานประตูเปิดออก มีฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาในห้อง ปริญเดินมาหยุดอยู่ปลายเตียง แล้วนั่งลงมองร่างกายที่เปลือยเปล่าของกชมน เขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัย และพอใจในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป

“ฉันจะแจ้งความ”

กชมนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ใบหน้ายังคงเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เธอขอร้องเขาครั้งแล้วครั้งเล่าให้เขาหยุด แต่ก็ปริญก็ยังคงสนองความต้องการของตัวเอง ตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน จนแทบจะลุกขึ้นนั่งไม่ได้

“แต่ดูเหมือนว่าเมื่อครู่เธอสมยอมนะ”

“แต่ถ้าอยากจะแจ้งความก็ได้...ถ้าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไปก็โทรไปเลย”

พูดจบเขาก็โยนโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูของเขาให้กชมน สายตาที่แสนเย็นชาไร้ซึ่งความหวาดเกรง ทำเอาคนตัวเล็กใจแป้วขึ้นมาทันที กชมนมองเจ้านายตัวเองที่นั่งนิ่งทำท่าทางราวกับว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย นี่แสดงว่าเขามีคนคอยหนุนหลังอยู่แน่ ๆ ไม่อย่างนั้นไม่กล้าทำเรื่องเลว ๆ โดยไม่เกรงกลัวอะไรแบบนี้หรอก

“เห็นแก่ที่เธอทำงานให้ฉันดีมาโดยตลอด แล้วก็.......”

เขาปรายตามองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าแล้วยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ แววตาวาวโรจน์ทอดสายตามองคนตัวเล็กที่ตัวสั่นอยู่บนเตียงด้วยความเฉยชา ไร้ความรู้สึก เขายังคงเป็นปริญคนเดิมไม่เคยเปลี่ยน

“ฉันจะไว้ชีวิตเธอถ้าเธอไม่พูดเรื่องที่ได้ยินวันนี้”

ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว นัยน์ตาคมแสดงถึงความขึงขังเอาจริงกับสิ่งที่เขาพูด กชมนรอบกลืนน้ำลายลงคอ เธอไม่เคยคิดเลยว่าท่านประธานของเธอจะเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจ สั่งฆ่าใครเหมือนผักปลาง่าย ๆ ได้ขนาดนี้ เขาเป็นมาเฟียในคราบนักธุรกิจดี ๆ นี่เอง

“มนจะไม่พูด ปล่อยมนไปนะคะ”

กายสูงขยับขึ้นมาบนเตียงแล้วเอนหลังพิงหัวเตียงข้าง ๆ กายกชมน เขาเหลือบสายตามองคนตัวเล็กที่แก้ผ้าล่อนจ้อนอยู่ข้างกายเขา แก่นกายเริ่มพองขยายอย่างห้ามไม่ได้ มันรู้สึกปวดหนึบจนอยากจะเปิดศึกราคะกับเธออีกสักรอบสองรอบ แต่ดูท่าแล้วเธอคงจะไม่ไหว ถ้าทำแบบนั้นเห็นทีเธอคงตายคาเอ็นเขาเสียก่อนแน่ ๆ

“ฉันจะเชื่อใจเธอได้ยังไง?”

โทนเสียงราบเรียบแฝงไปด้วยความเย็นชาจนคนฟังรู้สึกเสียวสันหลังวาบ มือหนาลูบไล้กรอบหน้าสวยที่เหงื่อผุดเต็มไปหมด

“............”

“ตอบไม่ได้?”

“มน...มนไม่รู้จะทำยังไงให้ท่านประธานเชื่อ แต่มนสัญญาจะไม่พูดจริง ๆ ค่ะ”

คนตัวเล็กขยับกายขึ้นมาเงยหน้ามองเขา แววตาเว้าวอนน่าสงสารถูกส่งไปยังปริญ แต่เขากับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ปริญยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดวงตานิ่งเรียบราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ยากที่จะคาดเดาได้

“คนตายเท่านั้นที่พูดไม่ได้”

ประโยคบอกเล่าที่เข้าหูของกชมน ทำเธอกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ เขาไม่คิดจะฆ่าเธอให้ตายจริง ๆ ใช่ไหม ไหนบอกจะไว้ชีวิตเธอไง

“อย่าฆ่ามน มนขอร้อง ไว้ชีวิตมนเถอะ อึก”

เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น หยาดน้ำตาเริ่มไหลรินอาบแก้มนวล ดวงตากลมคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ๆ ตอนนี้เธอไม่รู้จะหาวิธีไหนทำให้เขาเชื่อใจในตัวเธอ ว่าเธอจะไม่นำเรื่องของเขาไปประกาศกร้าวให้ใครต่อใครได้รับรู้

“ฉันบอกเธอเหรอว่าจะฆ่าเธอ ก็บอกแล้วไงว่าจะไม่ฆ่า”

“แต่เธอต้องไปอยู่กับฉัน เธอต้องอยู่ภายในสายตาของฉันเท่านั้น จนกว่าฉันจะมั่นใจว่าเธอรักษาคำพูดนั้นได้จริง ๆ”

“.............”

กชมนส่ายหัวไปมา เธอไม่อยากอยู่ร่วมชายคาเดียวกับผู้ชายใจโฉดคนนี้ คนที่เพิ่งพรากพรหมจรรย์ของเธอไป แถมเขายังสั่งฆ่าใครง่าย ๆ ราวกับหมูกับหมา

“งั้นก็ตาย”

“ไม่...มน...มนยังไม่อยากตาย”

มือของปริญค่อย ๆ เกลี่ยลูบไล้ไปมาที่ใบหน้ามนของคนตัวเล็ก ความร้อนระอุในกายเธอส่งผ่านทำให้เขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติในร่างกายเธอ ปริญเอาหลังมือมาแตะที่หน้าผากกชมน มันร้อนดังไฟ

“เธอเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ?”

กชมนส่ายหน้าไปมา ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนโดนก้อนหินทับอยู่ที่หัว ตัวเธอเหมือนมีกองไฟสุมอยู่ภายในกาย ไม่ทันได้กล่าวอะไรร่างบางก็ฟุบหน้าลงกลางแผงอกแกร่งไร้เรี่ยวแรงหมดสติไป

ปริญเห็นท่าไม่ดีจึงรีบจับตัวเธอนอนลงกับพื้นเตียงนุ่ม และหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้เธอเพื่อคลายความร้อน ตอนนี้กชมนไข้ขึ้นสูงมากจนปริญเองก็ไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร เขาหยิบโทรศัพท์มือถือที่โยนให้กชมนเมื่อสักครู่ต่อสายหาธันวาเพื่อนที่เป็นหมอของเขาทันที

“ฮัลโหลไอ้ธันวามึงมาออฟฟิศกูที”

(ไปทำเชี่ยไร กูเป็นหมอนะไม่ใช่นักธุรกิจ ไม่ได้มีสินค้าที่จะให้มึงช่วยจัดส่งสักหน่อย)

“เลขาฯ กูไม่สบายมึงมาดูหน่อย ไข้ขึ้นสูงเป็นลมหมดสติไปแล้วเนี่ย”

(เออ ๆ เดี๋ยวกูไป)

“เอายาแก้อักเสบ ยาคุมฉุกเฉินมาด้วยนะ”

(เอาไปทำไม?)

“เออกูสั่งให้เอามาก็เอามาเหอะ อย่าถามมาก”

พูดจบเขาก็วางสายทันที หลังจากเขาเช็ดตัวเสร็จ ก็รีบเดินไปหยิบเสื้อผ้าของกชมนมาสวมใส่ให้เธอ ก่อนที่เพื่อนเขาจะมาเห็นสภาพเปลือยเปล่าของหญิงสาว ซึ่งเขาเองก็ไม่ชอบใจนัก ที่จะให้ใครมาเห็นผู้หญิงของตัวเองอวดสัดส่วนชวนมองใครต่อใคร

ไม่นานหมอธันวาก็เข้ามาถึง ปริญรีบเดินนำธันวาไปที่ห้องนอนที่อยู่ตรงอีกมุมหนึ่งของห้องทำงานเขาทันที ตอนนี้ใบหน้าของกชมนซีดขาวราวกับผี มีเหงื่อผุดออกเต็มใบหน้าสวย ธันวาเห็นกชมนถึงกับตาค้างเพราะความสวยใสของเธอ มันทำให้อกข้างซ้ายของเขากระตุกวูบ แต่ก็รู้ดีว่านี่คือของต้องห้ามแน่นอน

“มึงทำเชี่ยไรน้องเขาวะเนี่ย?”

ธันวาเอ่ยถามเมื่อเห็นสภาพของกชมนในตอนนี้ ที่มีรอยฟกช้ำตามเนื้อตัวเต็มไปหมด รวมถึงรอยแดงที่ซอกคอขาวที่เขาสร้างไว้แสดงความเป็นเจ้าของ

“ตรวจ ๆ ไปเหอะ”

“งั้นมึงออกไปข้างนอกก่อนเลย กูจะตรวจคนไข้ กูต้องใช้สมาธิ”

“ไม่ได้กูจะอยู่ดูตรงนี้นี่แหละ”

“หวง?”

“เปล่า”

“งั้นก็อัญเชิญออกไปรอข้างนอก”

“ไม่!!...ตรวจเลยกูจะอยู่ตรงนี้”

ธันวาส่ายหัวให้กับความดื้อดึงเอาแต่ใจของเพื่อนตัวเอง เขาค่อย ๆ ทำการตรวจ ฉีดยาลดไข้และยาแก้อักเสบให้คนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนที่จะยื่นยาคุมฉุกเฉินให้ปริญ

“อ่ะนี่ยาคุมฉุกเฉิน ถ้าน้องเขาตื่นขึ้นมาก็ให้กินเลย แล้วเม็ดที่ 2 กินหลังจากเม็ดที่ 1 ภายใน 12 ชั่วโมง”

“แล้วไม่รู้ติดเชื้อเปล่าเนี่ย รีบพาไปหาหมอสูติฯ เลย หรือจะให้กูตรวจให้ ฮ่า ๆ”

ปริญไม่ได้พูดอะไรทำเพียงส่งสายตาดุดันไปให้เพื่อนรัก ธันวารับรู้ได้ทันทีว่าปริญไม่ตลกด้วยกับสิ่งที่เขาพูด

“ตรวจเสร็จก็ไปได้แล้ว”

“โห...พอใช้งานเสร็จก็ถีบหัวส่งเลยนะ กูขอนั่งดูความสวยของน้องเขาก่อนไม่ได้รึไง”

นัยน์ตาคมกริบราวกับใบมีดแสดงความขึงขังใส่ธันวา จนคนถูกมองต้องรีบเก็บอุปกรณ์ใส่กระเป๋าทันที พลางเหลือบสายตามาดูใบหน้าสวยของกชมนอีกครั้ง เธอช่างน่าสงสารเสียจริง ๆ ไม่รู้ว่าโดยอะไรไปบ้างถึงได้ไข้ขึ้นขนาดนี้ ธันวาลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะรู้จักนิสัยของเพื่อนตัวเองดี คนอย่างปริญไม่มีหัวใจและรักใครไม่เป็น

“เออ ๆ กูไปแล้ว”

“กูไม่ส่งนะ”

พูดจบเขาก็เดินออกไปจากห้องทันที ประตูห้องค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ สายตาเคร่งเครียดแต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงถูกจ้องมองมายังกชมน เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับผู้หญิงที่นอนอยู่ตรงหน้าดี ตอนนี้ในหัวปริญคิดไม่ตกจริง ๆ ว่าควรจะปล่อยเธอไป หรือปลิดชีวิตเธอทิ้งไปเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

เวลาผ่านไปล่วงเลยมา 4 ชั่วโมงที่เธอหลับไปเต็ม ๆ โดยมีปริญนั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้ห่างไปไหน คนตัวเล็กค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมามองไปรอบ ๆ ห้อง เห็นปริญที่กำลังนั่งพิงหลังกับหัวเตียงหลับตาอยู่ เธอพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น เลยทำให้คนตัวใหญ่รูปร่างกำยำลืมตาตื่นขึ้นมา

“ตื่นแล้วเหรอ”

“ค่ะ”

“ฉันให้หมอมาฉีดยาลดไข้กับยาแก้อักเสบให้แล้ว ส่วนนี้ยาคุมฉุกเฉินเธอกินซะ”

พูดจบเขาก็หยิบยาคุมฉุกเฉินและแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงมาให้เธอ กชมนค่อย ๆ ยื่นมือมารับมันแล้วรีบกินเข้าไปอย่างไว เธอเองก็ไม่ได้อยากจะมีลูกกับผู้ชายแบบเขานักหรอก

“ลุกได้แล้ว ฉันจะกลับเพนท์เฮ้าส์”

น้ำเสียงราบเรียบเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นหงุดหงิดอารมณ์เสีย เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวยังคงเปื้อนคราบน้ำตา เขาไม่ชอบเห็นน้ำตาของผู้หญิงมันดูอ่อนแอ แต่เสี้ยววินาทีก็เปลี่ยนสีหน้ามาเป็นปกติ เพราะกชมนฟุบหน้าลงไปกับพื้นเตียงนุ่มอีกครั้ง แค่ประคองตัวเองลุกขึ้นนั่งเธอยังทำไม่ได้ จะให้เธอเดินตามเขาไปมันก็คงยากแล้ว ตอนนี้ช่วงล่างเธอแทบขยับไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มันบอบช้ำเสียจนทนแทบไม่ไหว

ปริญใช้แขนทั้งสองข้างช้อนร่างบางขึ้นสู่แผงอกแกร่งในท่าเจ้าสาว แล้วอุ้มเธอออกไปจากห้อง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว ไม่มีพนักงานคนไหนอยู่ที่ออฟฟิศ เขาจึงไม่เกรงว่าคนจะเอาไปพูดหรือนินทาว่าเจ้านายแอบเคลมเลขาฯ หน้าห้องตัวเอง

รถยุโรปคันหรูจอดเทียบหน้าบริษัท บอร์ดี้การ์ดตัวสูงใส่สูทสีดำก็เปิดประตูให้ปริญทันที เขาพาคนตัวเล็กเข้าไปด้านในอย่างไร้การทะนุถนอม ประตูรถถูกปิดลงเบา ๆ เมื่อปริญเข้าไปอยู่ด้านในแล้ว

“โอ๊ย!!”

“แค่นี้ก็ทำเป็นสำออย”

“ก็เพราะใครล่ะ”

เธอลืมตัวว่ากำลังคุยกับใครอยู่ ใบหน้าบูดบึ้งรีบแปลเปลี่ยนเป็นลูกแมวแสนเชื่องทันที เมื่อเจอสายตาดุดันจ้องมองมาที่เธอ

“ออกรถ!!”

สิ้นเสียงคำสั่งของปริญ รถก็เคลื่อนตัวออกจากบริษัทกลับสู่เพนเฮาส์ทันที ภายในรถไร้เสียงพูดคุย กชมนนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอะไรเลย เธอเอาแต่นั่งกอดอกตัวเอง แสดงให้ปริญรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของเธอในตอนนี้

“เสื้อผ้าและของใช้เธอ ฉันสั่งให้ลูกน้องไปขนมาหมดแล้วนะ”

ปริญเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ เมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้านายจอมโหดพูด เธอถึงกับหันขวับไปมองหน้าเขาทันที นี่เขารู้จักคอนโดของเธอได้อย่างไรกัน แล้วที่สำคัญเขามีรหัสเข้าห้องเธอด้วยเหรอ

“ท่านประธานรู้ได้ยังไงว่ามนอยู่ที่ไหน แล้วรหัสเข้าห้องมนด้วยรู้ได้ยังไง?”

“ไม่มีอะไรที่คนอย่างฉันไม่รู้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel