ตอนที่แปด ง่ายไปไหม
ตอนที่แปด
ง่ายไปไหม
คราวนี้หลี่จิ่นติ้งไม่อิดออดอีก ก้าวเข้าใกล้ร่างบางอันหอมกรุ่นพลางสูดดมกลิ่นกายหอมหวาน ตามองมือที่ขยับชี้บอกกล่าวราวอยากจับมือบางมากอบกุมเอาไว้อีกครา
“หากทำเสร็จแล้ว รีบนำมาให้ข้าดู ข้าอยากเห็นเร็วๆ”
“ได้ พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเร่งจัดการโดยเร็ว”
หลี่จิ่นติ้งเป็นอีกคนที่เดินลอยออกจากตำหนักอีกทั้งยังเร่งกลับไปเจรจากับบิดาให้ช่วยหาทางเสนอให้เขาได้เป็นพระสวามีขององค์หญิงน้อยผู้งดงามแสนหอมหวานนางนี้
จ้าวเฟยเฟิ่งนั่งลงถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย
เฮ้อ...แค่หลอกล่อผู้ชายยังเหนื่อยขนาดนี้
ถ้าต้องไปสู้รบตบมือกับเหล่าสนมเจ้าเล่ห์พวกนั้นจะเหนื่อยขนาดไหน
“องค์หญิงน้อยจะไม่ทรงเมตตากระหม่อมด้วยอีกคนหรือพ่ะย่ะค่ะ”
เสียงทุ้มนุ่มดังเข้ามาก่อนร่างสง่าของจางชงเมิ่งจะก้าวเข้ามาพลางทำความเคารพตามธรรมเนียม สายตาหยอกเย้ามองมาอย่างจับผิดคล้ายรู้เห็นการกระทำที่ผ่านมาของนาง
ไม่จริงหรอก เขาจะรู้ได้อย่างไร นางหลอกล่อผู้ชายเหล่านั้นในห้องส่วนตัว หรือว่าจะมีสายข่าวกระจายอยู่ทุกที่ขนาดนั้น
องค์หญิงจ้าวเฟยเฟิ่งหวั่นวิตก แม้สิ่งที่กำลังทำจะไม่ใช่ความผิดร้ายแรง แต่นางไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ก่อนหน้าที่จะสำเร็จ
“ผู้ช่วยจางจะให้ข้าเมตตาสิ่งใดหรือ” หญิงสาวถามแก้เก้อ
“เมตตาอย่างเช่นที่ทรงมีพระเมตตากับพวกเขา”
“พวกเขา? ผู้ใดหรือ”
“หากพระองค์ไม่ยอมรับ เช่นนั้นกระหม่อมจะแสดงให้ดู” จางชงเมิ่งก้าวเข้ามาชิดร่างบางอย่างรวดเร็วพลางโอบเอวคอดแล้วจับศีรษะเล็กซบลงกับไหล่แกร่ง มือหนาจับมือบางกุมเอาไว้อย่างแนบแน่น
“เจ้า...บังอาจมาก” จ้าวเฟยเฟิ่งส่งเสียงตวาด
“อย่าได้ตรัสเช่นนั้น กับพวกเขา พระองค์ล้วนทำเช่นนี้ แต่กระหม่อมโลภมากกว่า ขออีกหน่อยนะพ่ะย่ะค่ะ”
สิ้นคำเอ่ย ปากหนาก้มลงมาจุมพิตประกบปากบางแดงทันทีโดยที่จ้าวเฟยเฟิ่งได้แค่อ้าปากค้างและกลายเป็นรอรับลิ้นอุ่นร้อนให้ได้ชอนไชรุกไล่ควานแกว่งหาความหวานในโพรงปากอุ่น
จางชงเมิ่งไล้เลียจุมพิตบดอยู่เนิ่นนานโดยจ้าวเฟยเฟิ่งไม่อาจขยับหนีด้วยโดนจับเอวและมือเอาไว้แน่น กว่าชายหนุ่มจะปล่อยให้นางได้หอบหายใจ ปากขององค์หญิงน้อยก็บวมขึ้นมาแล้ว
“เจ้า...” จ้าวเฟยเฟิ่งรีบเก็บคำต่อว่าเมื่อเห็นสายตาร้อนแรงมองสบมาคล้ายว่าหากพูดมากอีกเขาจะเผาผลาญนางให้ไหม้เป็นจุณ
จางชงเมิ่งปล่อยองค์หญิงน้อยให้นั่งลงแล้วเอ่ยเจตนาที่เข้ามาอย่างชัดแจ้ง
“องค์หญิงทรงทำเช่นนี้มีแต่จะเร่งให้พวกเขากดดันเรื่องพระสวามีมากขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีเลย หากไม่อยากแต่งงานและอยากทรงงานด้วยพระองค์เอง กระหม่อมจะช่วยเอง”
จ้าวเฟยเฟิ่งเงยหน้ามองอย่างตกใจ เขาพูดราวเข้าไปนั่งในใจของนาง หรือว่าเขาจะเป็นคนเขียนบทอีกคน
ไม่ใช่แน่ เรื่องนี้เป็นฝันของเธอจะมีคนเขียนบทสองคนได้อย่างไร
“ช่วยอย่างไร?” จ้าวเฟยเฟิ่งแสร้งถาม
“กระหม่อมจะคอยช่วยองค์หญิงบริหารบ้านเมืองอยู่เบื้องหลัง องค์หญิงไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งกระหม่อมเป็นตำแหน่งใดทั้งสิ้น ขอเพียงองค์หญิงไม่แต่งพระสวามีขึ้นเป็นฮ่องเต้ กระหม่อมจะอยู่เคียงข้างองค์หญิงตลอดไป”
นี่มันเจตนาของเธอชัดๆ เขารู้ใจเธอได้อย่างไร
“ท่านผู้ช่วยจางหมายความว่าจะช่วยงานและอยู่เคียงข้างโดยไม่หวังสิ่งใดเช่นนั้นหรือ”
“กระหม่อมเป็นปุถุชน หากจะบอกว่าไม่หวังองค์หญิงคงไม่เชื่อ ขอเพียงองค์หญิงเมตตากระหม่อมบ้างก็เพียงพอแล้ว”
“เมตตา? ข้าไม่เข้าใจ”
“องค์หญิงย่อมเข้าใจดี ด้วยเป็นสิ่งที่องค์หญิงตั้งใจไว้แต่แรก กระหม่อมจะเป็นอนุชายคอยอุ่นเตียงให้องค์หญิง และดูแลองค์หญิงทั้งกลางวันและกลางคืน”
สายตาร้อนแรงของจางชงเมิ่งมองจ้องมาอีกแล้ว
จ้าวเฟยเฟิ่งหลบสายตารู้ทันนั้นทั้งๆที่ใจสั่นไหว สิ่งที่เขากล่าวมาเป็นเรื่องที่นางตั้งใจเอาไว้เช่นนั้นจริง และเขาเป็นผู้หนึ่งที่ตอบสนองได้อย่างดีหากว่ายินยอม
แต่...เขาเป็นบุตรชายของอัครเสนาบดี นี่คงไม่ใช่กลลวงเพื่อให้นางลุ่มหลงแล้วยึดตำแหน่งฮ่องเต้ไปในที่สุด
“องค์หญิงไม่ต้องกังวลเรื่องตำแหน่งฮ่องเต้ กระหม่อมไม่ต้องการ และจะไม่ให้ผู้ใดได้ไปแน่ สำหรับคนแก่พวกนั้นกระหม่อมจะหาวิธีจัดการปิดปากพวกเขาเอง”
บทจะง่าย ทำไมง่ายขนาดนี้
หมูเดินมาเข้าปากให้เคี้ยวกินโดยไม่ต้องไล่ล่าคว้าจับ
นิยายเรื่องนี้ เธอเขียนเองจนทุกอย่างจะง่ายเกินไปแล้ว
จู่ๆจางชงเมิ่งก็เปลี่ยนอากัปกิริยาเป็นนุ่มนวลอบอุ่นเมื่อเอ่ยเรียกชื่อนางอีกครั้ง
“น้องเฟย เพียงไม่กี่วันไยเจ้าจึงลืมพี่ไปได้ถึงเพียงนี้”
“น้องเฟยหรือ เจ้าบังอาจเรียกชื่อข้าเช่นนั้นได้อย่างไร”
“พวกเราใกล้ชิดสนิทสนมกันถึงเพียงนั้น พี่เรียกเจ้าว่า’น้องเฟย’มากว่าสองปี ส่วนเจ้าก็เรียกพี่ว่า’พี่ชง’ พวกเราแนบแน่นกันถึงขั้นแลกของแทนใจแล้ว เพียงสิ้นสติคืนเดียว ฟื้นตื่นขึ้นมาเจ้าก็จำเรื่องของพวกเราไม่ได้แม้เพียงนิดเชียวหรือ”
ฟากฟ้าในร่างจ้าวเฟยเฟิ่งถึงกับชะงักขบคิดทบทวนเรื่องราวก่อนหน้าในนิยายที่อ่านมา
ไม่นะ จางชงเมิ่งไม่ใช่ตัวละครสำคัญ เขาแทบไม่มีบทบาทด้วยซ้ำนอกจากเป็นบุตรชายของอัครเสนาบดี แล้วเขากับองค์หญิงน้อยที่อยู่แต่ในวังนางนี้จะไปสนิทแนบแน่นกันได้อย่างไร
เขากำลังโกหกอยู่แน่ คงคิดหาทางให้นางเชื่อแล้วแต่งงานกับเขาให้ได้ เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว
จ้าวเฟยเฟิ่งสั่นหัวปฏิเสธอย่างแน่วแน่
“ข้าไม่เคยสนิทกับเจ้า วันวันข้าอยู่แต่ในตำหนักจะมีเวลาที่ใดไปใกล้ชิดกับเจ้ากัน”
