ตอนที่หก เลือกทีละคน
ตอนที่หก
เลือกทีละคน
อีกคนที่จ้าวเฟยเฟิ่งโยนภาพวาดทิ้งตั้งแต่ยังไม่ทันได้อ่านก็คือ ‘ฉ่งต๋าเห่ย’ บุตรชายของเสนาบดีกรมพิธีการผู้ฉาวโฉ่
เชอะ ก่อเรื่องมากมายขนาดนี้ บิดาของเขายังกล้าส่งชื่อมาเสนออีก น่าจับเข้าคุกเสียให้เข็ดทั้งพ่อทั้งลูก
องค์หญิงน้อยกาหัวสองพ่อลูกเอาไว้ในใจแล้ว
แน่นอนว่าเสนาบดีฉีซึ่งเพิ่งถูกจ้าวเฟยเฟิ่งประกาศปลดตำแหน่งเจ้ากรมอากรของบุตรชายไม่กล้าส่งชื่อเขาเข้ามาอีกแน่ ฎีกาที่ได้รับมีเพียงการเรียกร้องความเป็นธรรมให้นางทบทวนเรื่องนี้อีกทีเท่านั้น
คนที่องค์หญิงน้อยหยิบออกมาจากกองท่วมสูงจึงเหลือเพียงอีกสามคนคือ ไป๋ชุนกัง บุตรชายหัวหน้าหมอหลวง เจ้ากรมรักษา, หลี่จิ่นติ้ง บุตรชายเสนาบดีกลาโหม เจ้ากรมอาวุธ และข่งซีห่าว บุตรชายของแม่ทัพใหญ่ซึ่งรั้งตำแหน่งรองแม่ทัพ
ความจริงสกุลข่งเป็นสกุลเดิมของมารดา นับว่าพวกเขาเป็นญาติกันทางสายเลือดโดยตรง
สนมข่งเป็นบุตรสาวของอดีตแม่ทัพใหญ่ เป็นน้องสาวของแม่ทัพใหญ่คนปัจจุบันและเป็นอาสาวของข่งซีห่าว นางเป็นหญิงสาวใสซื่อเมื่อพบรักกับฮ่องเต้ยามพระองค์ออกตรวจทัพจึงได้ถวายตัวแล้วตามกลับมายังวังหลวง ไม่นานนางก็โดนเล่ห์กลในวังหลวงจนตาย องค์หญิงจ้าวเฟยเฟิ่งจึงเกิดมาอย่างเดียวดายไร้มารดาคอยเหลียวแล และไม่เคยติดต่อกับสกุลข่งมาก่อน
แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็น่าจะมีความจริงใจและเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดี
จ้าวเฟยเฟิ่งตัดสินใจเข้าทางสกุลข่งก่อน เพื่อให้พวกเขามาเป็นฐานสนับสนุนด้านกำลัง ไม่ให้ผู้อื่นมาเสียงดังใส่นางอีก
ข่งซีห่าววุ่นวายอยู่กับการฝึกหัดทหารใหม่และการตระเตรียมกองกำลังรวมทั้งอาวุธและเสบียง เขายังคงรั้งอยู่ในเมืองหลวงเพื่อเป็นทัพหลังให้บิดา
จนได้รับคำสั่งเรียกตัวให้เข้าเฝ้าองค์หญิงจ้าวเฟยเฟิ่ง ซึ่งความจริงก็คือญาติผู้น้องของเขาในเวลาใกล้ค่ำ
“พี่ซีห่าว ไม่ต้องเกรงใจ มากินอาหารด้วยกันเถอะ”
คำเรียกขานอย่างสนิทสนมอีกทั้งการชวนให้ร่วมโต๊ะเสวยทำให้ข่งซีห่าวทำตัวไม่ถูก
“พวกเราเป็นญาติใกล้ชิดกัน ที่ผ่านมาด้วยอยู่ต่อหน้าผู้อื่นข้าจึงจำต้องวางตัว แต่ที่นี่ไม่มีผู้ใด พี่ซีห่าวนั่งลงเถิด”
ข่งซีห่าวเดินไปนั่งตรงข้ามองค์หญิงน้อยพลางมองใบหน้างดงามซึ่งคล้ายกับบิดาและเขาอยู่หลายส่วน
“น้องเฟยเฟิ่งเหนื่อยมากหรือไม่” ในเมื่อองค์หญิงเรียกขานอย่างญาติพี่น้อง เขาจึงเรียกนางตามลำดับญาติเช่นกัน
“เหนื่อยมาก งานราชกิจถึงจะมากแต่ค่อยๆจัดการไปย่อมพอใช้ได้ แต่พวกตาแก่พูดมากข้างนอกนั่น น่ารำคาญยิ่งนัก พี่ซีห่าวย่อมรู้ว่าพวกเขาวันวันเอาแต่กดดันให้ข้าแต่งสวามี แต่งแล้วอย่างไร ทุกวันนี้ถึงไม่แต่งข้าก็ทำงานได้อย่างดี ไยต้องมีฮ่องเต้ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะมีความสามารถเพียงใดมาให้ยุ่งยากด้วยเล่า”
จ้าวเฟยเฟิ่งบ่นกระเง้ากระงอด จีบปากจีบคอด้วยกิริยาน่ารักคล้ายน้องสาวตัวน้อยกำลังฟ้องพี่ชายว่าโดนกลั่นแกล้งรังแก
ข่งซีห่าวซึ่งไม่เคยมีน้องสาวและใช้ชีวิตอยู่ในกองทัพซึ่งมีแต่ชายหนุ่มมาโดยตลอด เมื่อได้เห็นกิริยาน่าเอ็นดูจึงรู้สึกอยากปกป้องดูแล
“น้องเฟยเฟิ่งไม่ต้องสนใจพวกเขา หากผู้ใดพูดมากนักพี่จะเอาดาบฟันปากไม่ให้มีปากไว้พูดอีก”
โอ้...ดุเดือดจัง
“หากทำเช่นนั้น พวกเขาที่เหลือก็จะโวยวายว่าโดนรังแกอีก เพียงข้าสั่งปลดเจ้ากรมอากรฉีนั่นคนเดียว พวกเขายังเอาแต่เรียกร้องโวยวายส่งฎีกามาจนท่วมโต๊ะไปหมดแล้ว”
“คนไม่ทำงานย่อมต้องถูกปลด น้องเฟยเฟิ่งทำถูกต้องแล้ว ไม่ต้องกังวลใจ พี่จะอยู่ข้างเจ้าเอง ผู้ใดโวยวายมากนักก็จับไปช่วยงานที่ชายแดนก็หมดเรื่อง”
อืม...ดี ความคิดนี้ใช้ได้
“น้องเฟยเฟิ่ง อย่าได้เกรงกลัวพวกเขา พี่และท่านพ่ออยู่เคียงข้างน้องเสมอ ที่ผ่านมาพวกเราล้วนเสียใจที่ไม่อาจปกป้องอาหญิงได้ แต่พวกเราจะปกป้องเจ้าอย่างเต็มที่ พี่ให้สัญญา” ข่งซีห่าวเอ่ยคำสัญญาอย่างลูกผู้ชาย
“ขอบคุณพี่ซีห่าว ได้ยินเพียงนี้ ข้าก็ตื้นตันดีใจจนไม่อาจเอ่ยคำแล้ว ข้าเกิดและเติบโตอย่างเดียวดาย อยู่ในวังหลวงก็เป็นเพียงเด็กน้อยไร้การเหลียวแล โชคดีที่เหลือรอดจากเภทภัยจนกลายเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียว กลับมาถูกกดดันจากเหล่าขุนนางอีก” จ้าวเฟยเฟิ่งแสร้งซับน้ำตาที่ไหลคลออยู่ในหน่วยตาเรียวดั่งหงส์
“เจ้าไม่ต้องร้องไห้ พี่จะเสนอให้เลื่อนการพิจารณาเลือกสวามีออกไปเอง แคว้นเยียนกำลังจะบุกเข้ามาแล้ว จะมัวแต่เลือกสวามีอยู่ได้อย่างไร ตาแก่พวกนี้ช่างสิ้นคิดนัก” ข่งซีห่าวรีบเสนอข้ออ้างที่น่าฟังออกมา
“ขอบคุณพี่ซีห่าว เพียงมีพี่อยู่ข้าก็อุ่นใจแล้ว”
จ้าวเฟยเฟิ่งเยื้องย่างเข้ามาทรุดนั่งเคียงข้างพลางซบหน้าเล็กน่ารักลงกับไหล่แกร่งของชายหนุ่มคล้ายอยากหาที่พึ่งพิง
ข่งซีห่าวถูกทำจนค้างแข็ง สีหน้าเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก แต่เมื่อองค์หญิงน้อยซบนิ่งหลับตาคล้ายอบอุ่นใจ เขาจึงเพียงลูบผมสลวยบางเบาเพื่อปลอบประโลม
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นยิ้มอ่อนหวานจนชายหนุ่มใจละลาย
“พี่ซีห่าวช่างดียิ่งนัก หากไม่ติดว่าพวกเราเป็นญาติสนิทกัน ข้าอยากเลือกพี่เป็นสวามีเสียให้รู้แล้วรู้รอด”
ไม่ติด ข้าไม่ติด พวกเราไม่ได้ใช้แซ่เดียวกัน ในอดีตลูกพี่ลูกน้องแต่งงานกันเองมีมากมายหลายคู่ ข้าย่อมไม่ติดแน่ น้องเฟยเฟิ่ง
ข่งซีห่าวตะโกนก้องภายในใจ แต่เบื้องหน้ากลับไม่กล้าเอ่ยสักคำเมื่อเห็นสายตาไว้เนื้อเชื่อใจของลูกพี่ลูกน้องสาว
“มีพี่ซีห่าวอยู่ พวกเขาคงไม่กล้ามากเรื่อง ถึงอย่างไรท่านลุงก็ยังกุมกำลังทหารเอาไว้ พี่ซีห่าวหาเวลาเข้ามาพบข้าให้บ่อยหน่อยได้หรือไม่ อ้างว่ามาปรึกษาเรื่องการรบก็ได้ สร้างเรื่องให้ใหญ่โต พวกเขาจะได้ว้าวุ่นใจเรื่องนี้จนไม่กล้าเร่งรัดข้าอีก”
“ได้ พี่จะหมั่นมาพบน้องเฟยเฟิ่ง ขอเพียงเจ้าอนุญาต พี่จะมาให้ทุกวันยังได้”
ข่งซีห่าวรีบรับปากด้วยใจที่เต้นรัว
“ฮ่า ฮ่า พี่ซีห่าวก็พูดเกินไป พวกเราต่างมีงานการมากล้นจะมาทุกวันได้อย่างไร เอาเป็นว่าทุกสามสี่วันก็แล้วกัน”
“ได้ ตามรับสั่งองค์หญิง”
