Chapter 2 เจ้าสาวที่เจ้าบ่าวไม่ต้องการ
ตั้งแต่เข้ามาอยู่บ้านเขา พอเธอไม่พูด ชายหนุ่มยิ่งเอาใหญ่ด้วยการควงนาถสุดามางานเลี้ยงปีใหม่ในไร่ด้วย ในขณะที่เธอทำกับข้าวหัวฟูอยู่ในครัว แม้จะรู้สึกน้อยใจ แต่ทำอะไรไม่ได้
งานเลี้ยงกว่าจะเลิกก็เกือบตอนตีสาม ทำให้คุณย่าอมราวดีแงะนาถสุดาที่เมามายไม่ได้สติออกจากอกอมันต์ แล้วให้คนไปส่งกลับบ้าน
“ผู้หญิงสมัยนี้ก็จริง ๆ เลย ให้เหล้ากินจนหวิดศีลข้อสามจะขาดอยู่รอมร่อ” ท่านบ่นกับเธอ แล้วให้คนงานผู้ชายสองคนพยุงอมันต์ไปไว้ในห้องนอน
“หนูด้วงอยู่ดูหาญหน่อย มันกินเหล้าอย่างกับอาบ จะโดนเขาปล้ำยังไม่รู้อีก”
แล้วท่านก็ทิ้งเธอไว้กับเขาเพียงลำพัง ตั้งแต่แต่งงานกันมาเธอเพิ่งจะได้อยู่กับเขาสองคนก็วันนี้ เพราะเขาให้เธอแยกไปอยู่อีกห้อง ซึ่งอยู่ติดกัน โดยมีประตูเชื่อมถึง
นี่เป็นอาณาเขตของเขาที่เธอไม่กล้าล่วงล้ำพอ ๆ กับที่อีกฝั่งประตูเชื่อมเป็นอาณาเขตของเธอ ซึ่งเขาไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปเช่นกัน
จันทร์นิลมองคนที่นอนเมาหมดสภาพบนเตียงกว้าง หายใจรวยริน ทีแรกเธอคิดจะทิ้งเขาให้นอนทั้งแบบนี้ แต่ด้วยสงสารหรือความหลงใหลเต็มหัวใจก็ไม่รู้ จึงไปหาผ้าขนหนูมาชุบน้ำเช็ดให้ด้วยความเต็มใจ
“เย็น” เขาครางฮือในลำคอ
“เช็ดหน้าเช็ดตาก่อนนอนสักหน่อยนะคะ จะได้สบายตัว”
อุณหภูมิบนผิวสามีในทะเบียนอุ่นร้อน หน้าคมเข้มแดงนิด ๆ เพราะฤทธิ์สุรา
“ยุ่งน่า” อมันต์ปัดมือเธอออก ตาปรืออย่างหงุดหงิดที่มีคนมารบกวนเวลานอน
“เพราะคุณย่าให้อยู่ดูพี่หาญหรอกนะ ด้วงถึงทำ” เธอมองค้อนอย่างแสนงอน
“อะไร ๆ ก็คุณย่า เธอคิดเองเป็นหรือเปล่า หึ”
“คุณย่าห่วงพี่หาญนะ ถึงให้ด้วงอยู่ดูแล” หวังจะทำคุณกลับได้โทษเสียอีก
“ไม่ใช่เธอทำตัวดี เพราะหวังสมบัติของย่าฉันหรอกเหรอ”
“พี่หาญคิดสกปรก”
เธอกำผ้าขนหนูแน่น พลางลุกขึ้นจากเตียง แต่เจ้าของห้องกลับจับมือเล็กไว้เป็นแม่นมั่น แรงบีบเข้าเนื้ออ่อนราวคีมเหล็ก
“ใคร ๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้นแหละว่าตากับยายเธอหวังให้หลานสบาย”
ตาเขาส่อแววแปลก ๆ ทำเอาเธอร้อน ๆ หนาว ๆ ในกายอย่างไม่เคยเป็นาก่อน
“ไม่อย่างนั้นคงไม่เอาเธอมาประเคนให้ฉันขนาดนี้หรอก”
“ปล่อยนะคะ ด้วงจะกลับห้อง”
จันทร์นิลพยายามแกะนิ้วแข็ง ๆ ที่เกาะกุมเธอออก
“ไม่ต้องไปไหน นี่ก็เป็นห้องเธอเหมือนกัน เราแต่งงานกันแล้ว เป็นผัวเมียกัน จำไม่ได้เหรอ จะว่าไปฉันก็ไม่เคยจะเอาเมียตัวเองสักที ขอลองหน่อยแล้วกัน”
“พี่หาญหยาบคาย” เลือดร้อน ๆ ไหลซู่ขึ้นหน้าเธอ อมันต์เห็นแล้วได้แต่หัวเราะในลำคอ
“ผัวกับเมียเขาก็พูดกันอย่างนี้ทั้งนั้น ฉันไม่คิดจะเอาเธอใส่หิ้งไว้บูชาหรอก”
เมื่อใช้วิธีแบบอารยะชนไม่ได้ผล จันทร์นิลจึงต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน เธอกัดไปที่มือหนาซึ่งจับเธออยู่ฝังเข้าเต็มเขี้ยว
ชายหนุ่มสบถคำหยาบคายออกมาอีกหลายคำ ปล่อยมือทันใด เธอสบโอกาสวิ่งหนีไปทางประตูเชื่อมระหว่างห้อง
“ฤทธิ์เยอะจริงเมียกู”
ด้วยช่วงขาที่ยาวกว่า อมันต์ก้าวไม่กี่ก้าวก็รวบทั้งตัวเธอได้ จันทร์นิลทั้งทุบทั้งดิ้นเพื่อให้หนีจากคนอารมณ์ร้อน แต่ก็ไม่นำพาเมื่อเขาทิ้งตัวเธอลงโครมบนเตียง
จันทร์นิลดีดตัวหวังหนี หากถูกเขารวบสองมือเธอไว้เหนือศีรษะ ขาแข็งแรงแทรกระหว่างสองขากลมกลึงกดจนเธอรู้สึกเจ็บร้าวไปหมด
“พี่หาญปล่อยสิ เกลียดฉันไม่ใช่เหรอ”
ไม่ต้องให้บอกก็รู้แน่ว่าเขาเกลียดเธอมากแค่ไหน
“ฉันไม่ได้เกลียดเธอ” ใบหน้าคมขยับเข้าใกล้ใบหน้านวล ลมหายใจอุ่นเจือกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ “แค่ไม่ชอบเฉย ๆ”
คนฟังหยุดการประท้วง น้ำตาคลอหน่วยมองหน้าสามี
“พี่หาญใจร้าย”
อมันต์หยุดการบริภาษด้วยจุมพิต แรกทีเดียวเบาบางราวผีเสื้อแตะกลีบดอกไม้ ก่อนจะรู้ว่าดอกไม้ที่กำลังดูดกินเกสรมีรสหวาน เขาดูดดื่มตะกละตะกลามชิมรสด้วยชิวหา คว้านลึกทักทายในโพรงปากรสเลิศราวน้ำผึ้ง
จันทร์นิลครางอู้อี้ รู้สึกเหมือนคนจะจมน้ำ เขาปล้นเอาลมหายใจไปเสียหมด มือใหญ่คลายพันธนาการเพื่อลูบไล้กายบาง พอถูกปล่อยมือบางเปลี่ยนเป็นขยุ้มไหล่หนา อมันต์ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ให้เธอสูดลมหายใจหอบแรง
“จูบไม่ได้เรื่อง”
หากมีดาวพราวระยับในดวงตาคมเข้ม
“พี่หาญใจร้าย ไม่ชอบด้วงแล้วทำอย่างนี้ทำไม”
“ไม่รู้สิ เพราะเป็นผัวเมียกันมั้ง ฉันยังไม่ได้ชิมของที่ฉันจ่ายเงินซื้อไปเลย”
อมันต์ลงมือจูบเธออีกรอบ มือล้วงเขาไปในเสื้อ ฟอนเฟ้นทั่วแผ่นหลัง ปลดตะขอบราเซียร์หญิงสาวออกด้วยความชำนาญ
“พี่หาญ”
“เก็บแรงไว้ครางเรียกชื่อฉันตอนอื่นเถอะ”
จันทร์นิลแทบจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง รู้แค่ว่าเธอรู้สึกดีเหลือเกิน อมันต์ช่างเอาอกเอาใจ เฝ้าทะนุถนอมเพื่อไม่ให้เธอเกร็ง เขาฝากรอยจุมพิตไว้ทั่วร่าง วนเวียนบริเวณกลีบผกาแห่งชีวิต เตรียมเธอให้พร้อมด้วยนิ้วและชิวหา
พาเธอไปแตะดวงดาวพราวพร่าง ก่อนนำสู่วิมานฉิมพลีด้วยตัวตนอันแข็งแกร่ง จนเธอสุขล้นทะลักกระอักด้วยความสุขที่ไม่เคยพานพบ
อมันต์เป็นของเธอและเธอก็เป็นของเขา
ทุกอย่างเหมือนความฝัน กระทั่งตื่นขึ้นมาเดียวดายบนเตียงกว้าง เธอรีบกลับเข้าห้องตน ล้างคราบไคลแห่งความสุข เลือกสวมเสื้อปิดคอ ซ่อนรอยจูบแดงที่เขาทำไว้
แต่เมื่อไปยังโต๊ะอาหาร คุณย่ายิ้มให้ ขณะคนทำรอยเมื่อกลับเฉยเมย ออกจะมึนตึงด้วยซ้ำ
“ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
อมันต์บอกแค่นั้น ก่อนทิ้งเธอไว้กับคุณย่าในบ้านหลังใหญ่อีกตามเคย
“หนูด้วงทำใจดี ๆ ไว้นะ”
คุณย่าอมราวดีบอกในบ่ายแก่ ๆ วันหนึ่ง หลังจากให้คนไปตามเธอมาจากแปลงดอกไม้...พูดอย่างนี้ ร้อยทั้งร้อยไม่ใช่เรื่องดีแน่
“คะคุณย่า”
“ยายสายโดนรถชน”
จันทร์นิลอึ้งทำอะไรไม่ถูก จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนขับรถพาไปโรงพยาบาล ที่นั่นเธอเจอตากล่ำยืนรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
ตาเล่าให้ฟังว่ายายออกไปร้านของชำใกล้ ๆ ไร่ ขณะเดินกลับก็มีรถเสียหลักพุ่งชนเข้าอย่างจัง
นั่งรออยู่หน้าห้องด้วยหัวใจสลาย หวังว่ายายจะไม่เป็นอะไร หากตอนนี้ยายอยู่ในห้องฉุกเฉินมาหลายชั่วโมงแล้ว หมอก็ยังไม่ออกมาเสียที จนความหวังสิ้นสุดเมื่อแพทย์ที่ทำการรักษาออกมาบอก
