บทที่11 มัดมือชก
หลายนาทีต่อมา
สายตาคมของธนกฤตจ้องมองพิมพ์ลภัสและลูกๆของเพื่อนๆนั่งวางแผนอะไรสักอย่างด้วยความสงสัย หลังจากที่เขาเดินกลับเข้ามาในบ้านของเพลิงตะวันสิ่งที่เห็นคือพีมตะวัน พัญวลัย และพิมพ์ลภัส และคู่แฝดพิมพ์ดาวพายัพเมฆนั่งพูดคุยวางแผนกันเสียงไม่ดังนักที่เห็นคือพายัพเมฆนั่นนั่งฟังโดยไม่ออกความคิดเห็นใดๆ ทีแรกกะจะปล่อยให้เด็กๆคุยกันตามประสาเด็กแต่กลับเป็นว่าเขาต้องมานั่งฟังแผนการของเด็กๆเพราะ'เด็กของเขา' หันมาเห็นแล้วเรียกเข้ามาร่วมในแผนการนี้ด้วย
“อาธามขาช่วยตั้งใจฟังด้วย พั้นรู้สึกว่าอาธามเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ยังไงไม่รู้สิ” พัญวลัยเอ่ยออกมาหลังจากคิดหาแผนการและวางแผนให้พรปวีร์ยอมจดทะเบียนสมรสกับพีรวัศและมาอยู่ที่นี่
“น้องพั้นอาก็ตั้งใจฟังสุดๆแล้วนะ อาว่าไม่เวิร์คหรอกปล่อยให้ไอ้พีหาทางเอาเองเถอะ” ธนกฤตเอ่ยบอกลูกสาวเพื่อน
“อาธามครับ สงสารพั้นนิดนึง นี่ถ้ารอให้อาพีจัดการเองนะพั้นคงไม่มีน้องแน่ๆ บ้านเราไม่มีเสียงเด็กเล็กมานานแล้วนะน้องๆพีมก็โตหมดแล้ว หรืออาธามจะเสียสละมีน้องๆให้พวกเราเล่น แต่พ่อเพลิงบอกว่าอีกนานกว่าอาธามจะมีลูกหรือไม่แก่ตายก่อน” พีมตะวันเอ่ย
“นั่นดิ อาธามคงแก่ตายก่อนแน่” พายัพเมฆเสริมพร้อมทั้งยักคิ้วอย่างกวนประสาท
“ไอ้พีม ไอ้พลาย อยากตายก่อนโตมั้ย อาไม่ใช่เพื่อนเล่นเว้ย” ธนกฤตเอ่ยบอกลูกชายเพื่อนด้วยมาดดุจนพีมตะวันถึงกับขยับเก้าอี้ไปนั่งใกล้ๆสองสาวโดยเฉพาะพิมพ์ลภัส ส่วนพายัพเมฆยังคงลอยหน้าลอยตาไม่กลัวตายแต่ในใจมันก็หวาดๆไม่น้อย
“อาธามข่มขู่เด็กอะ ตัวระวังไว้นะอาธามอะร้ายกาจ พ่อพีบอกว่าอาธามเวลาโกรธโหดเว่อร์ แถมยังเจ้าเล่ห์ร้ายลึก เห็นหน้าใสๆแบบนี้นะซ่อนความร้ายกาจและแผนการเจ้าเล่ห์ไว้เต็มสมอง” พัญวลัยเอ่ยบอกพิมพ์ลภัสอย่างใส่ไฟ
“น้องพั้นอาไปทำอะไรให้ไม่พอใจรึเปล่าฮ่ะ ดูพูดเข้า อาไม่ได้ขนาดนั้นซะหน่อย” คนถูกใส่ไฟให้ภรรยาม.ปลายฟังเอ่ยถามพร้อมแก้ต่างให้ตัวเอง แต่ดูเหมือนแม่หนูพิมพ์ลภัสจะฟังเป็นเรื่องตลกไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่
“หราาาา เท่าที่รู้จักกันมา17ปีพั้นกับพีมว่าไม่ใช่ 'ไม่ขนาดนั้น' แต่เป็น 'มากกว่านั้น' นะคะ” พัญวลัยเอ่ยบอกพร้อมทำตาปริบๆ
“พอเลยๆ เอาเป็นว่าถ้าอาเสนอแผนจะฟังมั้ย” ธนกฤตที่ถูกลูกสาวเพื่อนแกล้งใส่ไฟเอ่ยเปลี่ยนเรื่องทันที
“นั่นไงตัว เค๊าบอกแล้วว่าอาธามนะมีแผนการเต็มสมอง ว่ามาเลยอาธามรอฟังอยู่” พัญวลัยเอ่ยบอกเพื่อนใหม่ก่อนจะหันมาบอกอาหนุ่มเกือบใหญ่
“ก็ไม่มีอะไรมากนะ ก็แค่...” ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนจะเล่าแผนการที่ตอนคิดให้เด็กๆฟัง
“มัดมือชกอะ แล้วใครจะพาอาพลอยมาอะ” พิมพ์ลภัสเอ่ยถามแม้แผนการที่ฟังจะถือว่าดีแต่มันมัดมือชกไป สงสารอาพลอย
“แล้วพริกหวานคิดว่าในนี้พลอยจะห่วงใครที่สุดล่ะ ลองคิดดูนะถ้าคนๆนั้นไม่สบายคิดว่าพลอยจะยังอยู่เฉยๆเหรอครับ” ผู้การหนุ่มเอ่ยบอกด้วยเสียงนุ่ม พีมตะวันและพัญวลัยมองหน้ากันก่อนที่จะยิ้มออกมา
“เฮ่อ น้อยใจอะพีม ทีกับหลานเสียงเนี่ยดุมาเชียว ที่กับมงกับเมียเนี่ยเสียงนุ่มมีครับมีผม “ พัญวลัยเอ่ยพร้อมทำน้ำเสียงน้อยใจ
“นั่นสิกับพวกเราเอะอะจะเตะ จะดุ ทีกับพริกหวานเนี่ยหนูอย่างนั้นหนูอย่างนี้ ใช่มั้ยไอ้พลาย น้องแพร “ พีมตะวันเอ่ยบอกแล้วหันไปถามน้องชาย ทั้งคู่กะจะแซวให้อาหนุ่มเขินและลากพายัพเมฆจอมกวนและพิมพ์ดาวเข้ามาร่วมด้วย พายัพเมฆจะอ้าปากพูดแต่สิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นรอยยิ้มพิฆาต ที่ทั้งสี่รู้ว่าเป็นสัญญาณให้หุบปากก่อนที่จะโดนดี
“อ้าวไมเงียบไปอ่ะ” พิมพ์ลภัสที่ไม่ได้มองสามอาหลานเพราะมัวแต่กดสมาร์ทโฟนหาเบอร์ของปู่เอ่ยถามก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเห็นรอยยิ้มที่แฝงความร้ายกาจไว้ของธนกฤต
“ทำไมยิ้มแบบนั้นอะ ข่มขู่อะไรสี่คนนี้รึเปล่า แต่ช่างเถอะหนูขอไปโทรหาคุณปู่ก่อน” พิมพ์ลภัสเอ่ยก่อนจะลุกขึ้น
“หึหึหึ ว่าไงหลานรักทำไมวันนี้ทำตัวน่ารักกันจังเลย” ธนกฤตแกล้งขู่เสียงเย็นเมื่อร่างของพิมพ์ลภัสหายออกไปลับตา
“เค๊าป่าวน๊า เค๊าเป็นเด็กดี” พัญวลัยเอ่ยบอก ใครว่าอาธามแสนดีที่สุดในสามสหายเธอขอค้าน อาธามของพวกเธอน่ะนะร้ายกาจ และเจ้าเล่ห์ร้ายเงียบ และแน่นอนว่าอาธามจะไม่มีทางปล่อยให้ยัยพริกหยวกได้เห็นร่างอวตารของอาธามแน่นอน
“อ๋อๆ แล้วเมื่อกี้ใครบอกพริกหวานว่าอาร้ายกาจ เห็นหน้าใสๆอะไรนะ ไหนพูดให้อาฟังชัดๆสิ” ธนกฤตยังคงแกล้งด้วยเสียงดุๆ การได้แกล้งเจ้าพวกนี้ให้กลัวก็สนุกไป แต่แน่นอนว่าแม่หนูของเขาจะไม่มีทางเห็นมาดร้ายๆนี้
“หมาพลายยังไม่มีส่วนร่วมนะ เรื่องนี้หมาพลายไม่เกี่ยว” พายัพเมฆบอกแล้วพาตัวเองขยับมานั่งใกล้ๆธนกฤต อีกนัยนึงคือการไม่ได้อยู่ข้างพัญวลัยที่เล่นธนกฤตหนักสุด
“หมูแพรก็ไม่เกี่ยว” เด็กสาวอายุน้อยที่สุดเอ่ยบอกแล้วขยับมานั่งข้างๆแฝดผู้น้องผู้ชอบทำตัวเป็นพี่ หมาพลายกับหมูแพรเป็นคำเรียกที่ธนกฤตเรียกเธอและพายัพเมฆมาแต่เล็ก ยอมรับว่าเธอและน้องชายไม่ค่อยชอบแต่ ณ จุดนี้ คงต้องใช้เพื่อจะได้ไม่โดนหางเลขไปด้วย
“พีมตามพั้น พั้นโยนไรมาพีมแค่รับ” พี่ชายคนโตของคู่แฝดบอกแล้วก็ขยับมานั่งใกล้น้อง พัญวลัยมองสามพี่น้องที่ปัดความผิดออกจากตัวอย่างคาดโทษก่อนที่จะยิ้มแหยๆให้อาหนุ่ม
“อาธามก็ พั้นแค่พูดเล่นพริกหยวกไม่เชื่อซะหน่อย เอางี้เปล่า ต่อไปพั้นจะพูดถึงอาธามแต่เรื่องดีๆพริกหยวกจะได้ตกหลุมรักอาธามจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้น” พัญวลัยเอ่ยก่อนจะโดนมะเหงกจากเพื่อนพ่อ
“หึ แก่แดด ยัยน้องพั้นอย่าแก่แดดระวังจะซ่าไม่ออกถ้าเจอครูฝ่ายปกครอง” ธนกฤตเอ่ยบอกหลังจากทำโทษเด็กสาว
“ครูฝ่ายปกครองทำไรพั้นไม่ได้หรอก” เด็กสาวเอ่ยอย่างมาดมั่น เธอนะหลบฝ่ายปกครองเก่งจะตายไป
“หึ อาหมายถึงแม่พลอยของเราต่างหาก หนูพริกคุยเสร็จรึยังครับ พี่จะกลับบ้านแล้วนะ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกหลานตัวแสบก่อนจะตะโกนบอกคนที่ออกไปคุยโทรศัพท์กับปู่
ที่ว่าการอำเภอ, 3ชั่วโมงต่อมา
“ไม่จด ยังไงก็ไม่” เสียงโวยวายของพรปวีร์ดังลั่นไปทั่วทั้งห้องของนายอำเภอ หญิงสาวได้แต่คิดแค้นในใจที่ถูกหลายฝ่ายรวมหัวกันหลอกมาถึงที่นี่ พลางอยากรู้ขึ้นมาว่าใครเป็นคนคิดแผนมัดมือชกนี่กัน
1ชั่วโมงที่แล้ว
“มีอะไรรึเปล่าคะพ่อหน้าเครียดเชียว” พรปวีร์ที่เพิ่งกลับถึงบ้านโดยมีพีรวัศเดินตามเข้ามาถึงไล่ก็ไม่ยอมไปเอ่ยถาม เมื่อเห็นทั้งพ่อ และพี่ชายพี่สะใภ้นั่งทำหน้าเครียดกันอยู่
“ก็ยัยหนูแสบนะสิยัยพลอย อยู่ๆก็โทรมาบอกว่าจะหย่ากับธามนี่กำลังจะเตรียมตัวไปอำเภอ” พัฒธิพงษ์เอ่ยอย่างเครียดๆ
“จะหย่าเหรอ เมื่อกี้ตอนคุยกันหลานยังไม่พูดอะไรเลย” คนเป็นอาของ ยัยหนูแสบ หรือก็คือ พิมพ์ลภัส เอ่ยออกมาอย่างตกใจ
“ก็จู่ๆยัยหนูก็เกิดอารมณ์อยากกลับมาอยู่บ้านนะสิ” เพชรดนัยเอ่ยบอกน้องสาว
“นี่ธามเองก็รำคาญมั้งเลยบอกว่าจะหย่ากันตอนบ่ายสองแล้วให้เราไปรับยัยหนูมาซะ” ผู้เป็นแม่ของยัยหนูแสบเอ่ย
“ไม่ได้เด็ดขาด ไปค่ะทุกคนเราไปห้ามกันดีกว่า เป็นตายยังไงพลอยก็ไม่ยอมให้ไอ้บ้าธามหย่า ยังไงหลานของพลอยต้องไม่เป็นหม้าย ยกเว้นไอ้บ้านั้นจะตาย” พรปวีร์เอ่ยบอกก่อนที่จะดึงมือพี่สะใภ้ออกไป
เพราะคำพูดว่าเป็นตายยังไงจะไม่ยอมให้หลานเป็นหม้ายแท้ๆทำให้พรปวีร์มาที่นี่แต่ทันทีที่มาถึงกลับเจอกับธนกฤตยืนยิ้มเงียบๆอยู่มุมนึงของห้องนายอำเภอ ข้างๆมีพิมพ์ลภัส พัญวลัย พีมตะวันน้องทั้งสองและพ่อแม่ยืนยิ้มอยู่ อีกฝั่งมีพ่อและแม่ของพีรวัศ
“นี่มันอะไรกันเนี่ย ไหนว่าธามจะหย่าพริกหวานไงพ่อแม่นายมาทำไมพี” พรปวีร์เอ่ยกระซิบกับพีรวัศ พีรวัศยิ้มก่อนที่จะเดินไปนั่งที่เก้าอี้
“มาพอดี ในเมื่อฝ่ายหญิงมาแล้ว ผมว่าเริ่มเลยดีกว่าครับคุณน้า” ธนกฤตเอ่ยขึ้นกับท่านนายอำเภอที่มีศักดิ์เป็นน้าเขย
“ฝ่ายหญิงอะไร เริ่มอะไรฮ่ะธาม” คำถามของพรปวีร์ไม่ได้รับคำตอบก่อนที่พิมพ์ลภัสและพัญวลัยจะเดินมาดันหลังให้ครูสาวไปนั่งเก้าอี้ข้างๆพีรวัศ
“พอดีพริกหวานคิดได้น่ะค่ะว่าไม่อยากเป็นหม้ายตั้งแต่อายุ17 เลยไม่หย่า ไหนๆก็มาแล้วอาพลอยจดทะเบียนสมรสกับอาพีเลยนะคะนายอำเภอท่านจะได้ไม่เสียเวลา” พิมพ์ลภัสเอ่ยบอก และแล้วเธอก็เข้าใจไอ้เพื่อนบ้าไม่ได้จะหย่ากับหลานเธอแต่หลอกมัดมือชกเธอมาที่นี่แถมทำกันเป็นขบวนการเสียด้วย
ปัจจุบัน
“ไม่จดเข้าใจมั้ย ไม่จด” พรปวีร์ยังยืนยันหนักแน่น
“พลอย ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เธอกับไอ้พีก็จดๆไปเถอะ รู้มั้ยว่าฉันขอให้คุณน้าลัดคิวให้เลยนะ รีบๆเซ็นต์ๆไปเถอะ คุณน้ามีแขกอีกมาก ไหนๆก็เป็นผัวเป็นเมียกันแล้วนิ”คนพูดน้อยเอ่ยซะยืดยาว ตั้งแต่มีพิมพ์ลภัสเข้ามาในชีวิตเขาก็ได้พูดมากขึ้น พรปวีร์หันมามองคนเป็นหลานเขยอย่างเอาเรื่อง
“นั่นปากเหรอ ผัวๆเมียๆอะไร เด็กๆอยู่ในห้องตั้งสามคน” คนเป็นครูเอ่ยแต่เหมือนธนกฤตจะไม่ได้สนใจสักนิด
“พูดมากรีบเซ็นต์ๆไปเถอะคนอื่นเขารอนานแล้ว” ธนกฤตเอ่ยบอก
“ไม่ ทุกคนบังคับพลอยไม่ได้หรอก” หญิงสาวเอ่ย
“งั้นเหรอ มาดูกันว่าใครจะแพ้ ถ้าเธอไม่เซ็นต์เราก็จะอยู่ที่นี่จนกว่าเธอจะเซ็น” พีรวัศเอ่ยบอก ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
“ฉันไม่เซ็นต์” พรปวีร์เอ่ยบอกอย่างดื้อดึง ทั้งที่หัวใจไม่รักดีมันรักอีตาพีเต็มๆใจแต่เธอไม่ยอมถูกมัดมือชกแน่
“ท่านค่ะ ท่านผู้กำกับมานั่งรอด้านนอกนานแล้วนะคะ” เสียงของเจ้าหน้าที่สาวเอ่ยบอกหลังเปิดประตูเข้ามา
“เอาไงพลอย เห็นมั้ยว่าท่านผู้กำกับการตำรวจเขามารอพบคุณน้าอยู่ อย่าสร้างปัญหาน๊าเซ็นต์ๆไป ค่อยไปเคลียร์ที่บ้าน” พีรวัศเอ่ย พรปวีร์ที่ไม่อยากถ่วงเวลาและเกรงใจคนรอด้านนอกถึงกับถอนหายใจอย่างแค้นๆพร้อมจรดปากกาลงที่ใบทะเบียนสมรสด้วยอารมณ์ฮึดฮัด
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะทั้งสองคน ขอให้มีความสุขกับชีวิตสมรส” นายอำเภอวัย49เอ่ยบอกก่อนที่พีรวัศที่ยิ้มแป้นและพรปวีร์กับคนอื่นๆจะเดินอกจากห้องพร้อมทะเบียนสมรส
บ้านพักพีรวัศ
“ใครเป็นคนคิดแผนนี้” พรปวีร์เอ่ยถามหลังจากทุกคนพากันมาที่บ้านพักของพีรวัศเพื่อฉลองให้แก่คู่สมรสใหม่
“หนูพริกไม่เกี่ยวน๊าาาา แค่ทำตาม” หลานสาวผู้รู้หลบเป็นปีกเอ่ยบอกก่อนจะเดินไปแอบหลังปู่
“พั้นก็ไม่เกี่ยวนะ แค่ทำตามยัยพริกหยวก” พัญวลัยเอ่ยก่อนที่จะไปหลบหลังเพลิงตะวันอยากหลบหลังพ่อพีนะแต่รายนั้นคงช่วยไม่ได้เอาตัวเองให้รอดยังเกือบเป็นไปไม่ได้อยู่
“ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องครับ” “ผมก็ไม่เกี่ยว” “หนูก็ไม่เกี่ยว” สามพี่น้องตัว พ เอ่ยบอกแล้วก็ขยับไปยืนด้านหลังนาราริน
“แล้วใครคิด” พรปวีร์เอ่ยถามอย่างโมโห เด็กๆทั้งห้าจึงพร้อมใจกันชี้ไปที่ธนกฤตทันที
“อ้าว ตอนคิดก็ช่วยกันดี พอทีนี้มาลงที่เราคนเดียว” ธนกฤตบ่นก่อนจะหันมามองเพื่อนสาว “เออ ฉันคิดเองแหละ แต่แค่พูดให้ฟังเด็กมันทำตามเอง”
“อ๋อ! รวมหัวกันหลายฝ่าย ดีงั้นก็ต้องโดนกันทุกฝ่าย เริ่มจากนายธาม น้องพั้นจ๊ะไปเอาหมามุ่ยมาให้แม่พลอยหน่อย ระวังๆนะ” พรปวีร์เอ่ยบอกก่อนะหันมาที่พัญวลัย เด็กสาวจึงรีบวิ่งไปหาต้นหมามุ่ยที่ขึ้นอยู่ในสวนหลังบ้านมาอย่างไว
“อยู่นิ่งๆไม่งั้น ฉันจะยุให้พริกหวานเกลียดนาย” พรปวีร์เอ่ยบอกชายหนุ่มอย่างเบาๆให้ได้ยินกันสองคน ธนกฤตผู้โดนเล่นจุดอ่อนถึงกับนิ่ง แค่พรปวีร์ขู่จะยุให้สาวน้อยพิมพ์ลภัสเกลียดเขาก็ใจแกว่งหวิวๆสั่นๆแล้ว พรปวีร์มองก่อนที่จะใส่ถุงมือจับหมามุ่ยมาละเลงไปตามเนื้อตัวของเพื่อนหนุ่ม
“รายต่อไป นายพี เดินมา ไม่งั้นเห็นดีกันแน่” ครูสาวเอ่ยบอกพีรวัศต้องเดินมารับโทษหมามุ่ยอย่างไม่อยากเจอดี
“แหม่สมเป็นซีล ความอดทนเป็นเลิศ หึ มันไม่แค่นี้หรอก พริกหวานหนูมานี่” ครูสาวเอ่ยก่อนจะเรียกหลานสาวเข้ามาใกล้ “เห็นดอกลิลลี่ที่อาซื้อมามั้ยอยู่ในรถอาพีไปเอามาหน่อย”
“ได้ค่ะ” เด็กสาวเอ่ยก่อนจะวิ่งออกไป โดยไม่ได้มองเลยว่าพี่ธามของเธอกำลังทำหน้าเหมือนกลืนยาขมอยู่
“ไงจ๊ะพ่อหนุ่มซีล เห็นเกสรดอกลิลลี่เนี่ยหน้าซีดเชียว” พรปวีร์เอ่ยบอกธนกฤตก่อนที่จะขยับดอกลิลลี่ไปไว้ใกล้ๆจมูกชายหนุ่ม ความจริงกะจะซื้อมาขู่ไม่ให้ธนกฤตหย่ากับพิมพ์ลภัสแต่สุดท้ายก็ได้ใช้จริงๆ
“ฮัดเช่ย เอาออกไปพลอย ไม่เอาแบบนี้ “ ธนกฤตเอ่ยออกมาแล้วจามติดๆกัน คันจมูกยุบยับ
“งั้นทุกวันหยุดนายต้องเอาเวลามาดูแลพริกหวานสอนพริกหวาน เทอมนี้พริกหวานต้องสอบได้เต็มร้อยทุกวิชาโดยเฉพาะวิชาพละ ถ้าไม่อยากถูกลงโทษ” พรปวีร์เอ่ยบอกก่อนจะเอ่ยต่อเมื่อชายหนุ่มทำหน้างง “ปกติพริกหวานเรียนเก่ง แต่ปีนี้ต้องย้ายอาจจะเรียนไม่ทันเพื่อน นายต้องทำให้พริกหวานเรียนทันเพื่อนโดยไม่จ้างติวเตอร์ และสอนภาษาให้หลานฉันอย่างน้อยสามภาษา นอกจากที่เรียนอยู่”
“มันหนักไปมั้ยพลอย “ ธนกฤตเอ่ยถาม ครูสาวหันมองก่อนจะตอบ “ไม่นะ เพราะนี้คือบทลงโทษของพริกหวานด้วย “
“ส่วนนายพี จากที่รู้มาน้องพั้นสองได้คะแนนรายวิชา90ขึ้น เทอมนี้ต้องได้ร้อยโดยนายจะต้องสอน ถ้าไม่ได้หรือนายไม่สอนไอ้ที่อยู่ในมือมันจะกลายเป็นขยะ” ครูสาวเอ่ยบอกก่อนที่จะเดินออกไปกินน้ำ ที่อยู่ในมือก็คือทะเบียนสมรสนั่นเอง ถ้าพีรวัศทำไม่ได้เธอจะขยี้มันเองกับมือ ธนกฤตรีบขอตัวกลับบ้านทันทีโดยที่แม่สาวน้อยพิมพ์ลภัสถูกพ่อและแม่ใช้ให้ตามไปดู ส่วนพีรวัศก็รีบขอตัวไปอาบน้ำทันทีเช่นกัน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
“จะบ้าตาย ยิ่งมีวันหยุดน้อยกว่าคนอื่นๆด้วยสิ” ธนกฤตเอ่ยขณะที่มือเกาแขนที่แดงไปทั่วหลังจากอาบน้ำแล้วยังไม่หายคัน
“นี่ยาค่ะ วันหยุดน้อยกว่าคนอื่นยังไงอะ” พิมพ์ลภัสยื่นยามาให้พร้อมถามอย่างสงสัย
“ก็อาชีพแบบพี่มันไม่เหมือนชาวบ้านเขานะสิ เป็นผู้การเรือนะ เรือหลวงบางลำต้องออกลาดตะเวนเป็นเดือนๆบ้างก็ครึ่งปี แต่พี่เป็นซีลด้วยเฉลี่ยเดือนนึงก็ได้หยุดแค่อาทิตย์เดียว” ธนกฤตเอ่ยบอก
“แล้วพี่ต้องออกลาดตะเวนในทะเลป่ะ” เด็กช่างถามยังเอ่ยถามอย่างสนใจ
“ก็ออกสิ การออกลาดตะเวนบางครั้งก็กินเวลานาน อาพลอยของหนูแกล้งกันชัดๆ เราทั้งคู่โดนเอาคืนแล้ว” ผู้การเรือหนุ่มแห่งเรือหลวง... เอ่ยบอกอย่างฟ้องๆ
“แล้ว3ภาษาเนี่ย อาพลอยแกล้งป่าว” เด็กสาวยังคงถาม
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาเลยหนู พี่เรียนด้านภาษามาหลายภาษาแต่มันติดที่เวลาเท่านั้น” ธนกฤตเอ่ยบอก พลอยอาจจะหวังร้ายประสงค์ดี ทั้งแกล้งและให้หลานสาวอ่านเขียนภาษาอื่นๆได้
“มันก็ต้องลอง วันหยุดพี่แค่สอนภาษาพอ เรื่องเรียนพริกหวานสามารถ “ พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกก่อนจะหายามาทาให้ชายหนุ่มที่เอาแต่เกา “พี่แพ้เกสรลิลลี่เหรอ หนูขอโทษนะที่ไปหยิบมาให้อาพลอย”
“ไม่เป็นไรครับ นานๆโดนทีแต่ก็คุ้ม” ธนกฤตเอ่ยบอกสายตาทอดมองความเป็นห่วงของเด็กสาวด้วยความสุข
“พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันมั้ย” ธนกฤตเอ่ยถามขึ้นมา
“เที่ยวเหรอ ดีๆหนูอยากเที่ยวคุณแม่บอกว่า บ้านคุณย่าอยู่ที่นี่ ที่นี่สวย” พิมพ์ลภัสเอ่ยบอก คุณย่าของเธอหรือภรรยาของพัฒธิพงษ์เป็นคนที่นี่ เพชรดนัยและน้องๆรวมถึงพรปวีร์ก็เติบโตที่นี่ก่อนที่จะย้ายไปอยู่บ้านของพัฒธิพงษ์ที่กรุงเทพตอนที่พรปวีร์อายุ20
“หนูเคยไปบ้านคุณย่ามั้ย ถ้าไม่เคยเดี๋ยวพี่พาไป เมื่อก่อนบ้านปู่พี่ปู่นายพี ปู่นายเพลิงอยู่ใกล้บ้านทวดหนู พี่ก็ไม่ได้ไปเยี่ยมปู่มาหลายปีแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยบอก
“ไปค่ะ ไป หนูไม่เคยไปเลย พรุ่งนี้ไปบ้านคุณปู่พี่กัน” เด็กสาวเอ่ยบอกอย่างน่ารัก จนธนกฤตอดที่จะยิ้มให้กับความน่ารักของแม่หนูพิมพ์ลภัสอย่างห้ามไม่อยู่
