ตอนที่ 1
1
เดรสเกาะอกระบายลูกไม้บนเรือนร่างงามสง่า ชายลากยาวไปตามพื้นพรมแดง ในถุงมือเข้าคู่กันกับชุดสวย เจ้าสาวกำดอกกุหลาบสีขาวช่อโตก้าวผ่านกลีบดอกไม้หลากสีด้วยรองเท้าแก้วราคาแพง ควงคล้องแขนเจ้าบ่าวด้วยหน้าตาหวานชื่น
ห้องบอลลูมของโรงแรมห้าดาวถูกเนรมิตให้เป็นสรวงสวรรค์ของดอกไม้นานาพรรณ สถานที่ในฝันสมฐานะของคนทั้งคู่ ด้วยฝีมือของเจ้าภาพงานแต่ง ทางฝ่ายชายนั้นประกอบธุรกิจโรงงานผลิตอาหารแห้งส่งออกบริษัทใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศ ฝ่ายหญิงเป็นลูกสาวเจ้าสัวบูรพากรณ์ เจ้าของธุรกิจสินค้าอาหารแปรรูป
เณศรามาร่วมยินดีทั้งงานแต่งเช้าและเย็น ด้วยความที่เธอต้องจัดอาหารว่าง นำขนมปังเบเกอรี่มาส่ง ช่วงหัวค่ำยังต้องจัดเค้กงานแต่งสูงเจ็ดชั้น ด้านบนเป็นซุ้มดอกไม้รูปหัวใจทำจากน้ำตาลไอซิ่ง มีสองหนุ่มสาวกอดคอเต้นรำเหมือนเจ้าชายเจ้าหญิงในนิทาน ตามคำขอของเจ้าสาวที่บอกผ่านทางแม่เจ้าบ่าว
เจ็บ! แต่ต้องทำตัวเหมือนกับว่าไม่รู้สึกอะไร กระทั่งสิ้นสุดงานแล้วเธอยังไม่ได้ยินคำขอโทษหรือคำแก้ตัวดี ๆ จากปากเขาเลย
ร่างบางในเดรสสีขาวแขนยาวเผยผิวขาวเนียนละเอียดทั่วแผ่นหลัง กระโปรงเอวสูงฟูฟ่องความยาวประเข่า หนุ่มบางคนเคยบอกกับเธอว่าแต่งตัวได้น่ารัก เณศราไม่รู้สึกชื่นชมชื่นใจมันอย่างเคย แววตาคู่คมปลาบเอ่อคลอบอกว่าเขารู้สึกผิดยามสบประสานสายตาเธอในฐานะคนอื่น ไม่ใช่คนรู้ใจ เธอทำได้แค่ฝืนทนอดกลั้นความขมขื่น ทั้งที่อยากยืนจิกทึ้งหัวตัวเอง ส่งเสียงกรี๊ดยืนดิ้นพล่านเป็นนางร้ายในละครหลังข่าว เธอไม่อยากแม้แต่จะอวยพรบ่าวสาวป้ายแดงแต่อยากใส่ชุดดำมาล่มงานวิวาห์
ในความเป็นจริงแล้วสาวเรียบร้อยอ่อนหวานอย่างเธอกลับเอาแต่ยิ้ม... ยืนกินเค้กหน้าระรื่นยังกับว่ามันผสมกัญชา!
จะให้ทำยังไงในเมื่อรับปากเขาไปแล้ว วันนี้เธอเป็นแค่ลูกจ้างที่พ่อแม่เขาจ้างวานมาในราคาพิเศษ
ถูก... พิเศษ! ราคาคนกันเอง!
หญิงสาวคงได้แค่คิดแค้นในใจ คอยนับเลขถอยหลัง ยกนาฬิกาข้อมือเรือนเล็กกะทัดรัดหน้าปัดสีชมพูขึ้นมาดูบ่อยครั้ง
เสียงปรบมือสนั่นดังในอีกไม่นานหลังจบการนำเสนอเรื่องราวผ่านจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ว่าคนทั้งคู่มาเจอกันในงานรวมรุ่นแล้วรักกันแต่แรกเห็น
ภาพเคลื่อนไหวแสนหวานของคู่รักเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ! ใครก็รู้ว่าสองครอบครัวแต่งงานกันด้วยเรื่องหุ้นและธุรกิจ สองบ้านนี้ยังเก่งเรื่องงานสร้างภาพ
เณศราพยายามทำตัวเป็นปกติจนจบงานแต่งอลังการงานสร้าง คล้ายกับว่าเป็นการโชว์หน้าตาทรัพย์สินความร่ำรวยของบ่าวสาว การหลอกลวงคนหมู่มากซะกว่าเป็นงานมงคล
และเมื่อเค้กก้อนโตถึงเจ็ดชั้นถูกหั่นด้วยปลายมีดแหลมที่ผูกไว้ด้วยริบบิ้นสีแดง สองบ่าวสาวคงไม่รู้ตัวว่าเพิ่งจะหั่นหัวใจคนทำเค้กเป็นชิ้น ๆ ซึ่งพวกเขาคงจบแค่มีดเดียว ค่อยควงแขนกันมาเยาะเย้ยพร้อมพ่อแม่พี่น้องที่รู้ว่าลูกชายของพวกเขามีความสัมพันธ์อย่างไรกับเณศรามาตลอดสามปี
“ขอบคุณที่มาร่วมงานแต่งพี่นะเนย ขอบคุณเรื่องเค้ก... ขนมด้วยครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เนยชอบทำเค้กอยู่แล้ว งานสำคัญขนาดนี้ เนยยินดีกับพี่ปัดด้วยนะคะ ยังไงเนยขอกลับไวสักหน่อย ขออนุญาตนะคะคุณลุงคุณป้า...”
เผ่นไว... สายฟ้าแลบ! ใต้รอยยิ้มสดใสบนดวงหน้างามที่แต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนพอดียังไม่เปิดเผยความรู้สึกแม้สักนิด
มาร่วมแสดงความยินดี! ท่องไว้ว่าควรยินดีกับความรักของคนทั้งคู่
“สำเหนียกตัวเองดี... สมเป็นลูกสาวข้าราชการ มารยาทงามเสมอต้นเสมอปลายเนอะเพื่อนยัยวิเนี่ย”
เสียงหัวเราะเยาะเป็นเสียงของคุณแม่เจ้าบ่าว เณศราจำได้ดีเพราะไม่ว่าเธอจะทำดีแค่ไหน ทุ่มเทความจริงใจไปสักเท่าไรกลับไม่เคยถูกใจคนบ้านนี้ กระนั้นเธอยังคงยิ้มรับคำชมยกมือไหว้งามช้อยก่อนหมุนกายเดินจากไป มือเรียวบีบกระเป๋าหนังแบรนด์เนมแน่น เม้มริมฝีปากเหยียดตรงก้าวเดินอย่างว่องไว โดยมีเพื่อนสาวตามมาติด ๆ
“เฮ้ย... เนย รอก่อน!”
ปวิมลรีบตามเพื่อนให้ทัน ปลายส้นสูงแหลมย่ำออกมาจากงานที่เต็มไปด้วยผู้คน คว้าแขนเรียวเอาไว้ทันเจ้าตัวก็แค่ยิ้มแล้วถามมีอะไรจ๊ะ? นั่นทำให้คนเป็นเพื่อนยิ่งใจคอไม่ดี จนมาลานจอดรถโล่งกว้าง
“ฉันขอโทษนะแก... ขอโทษจริง ๆ ว่ะ” น้ำเสียงสำนึกผิดมาพร้อมการปลอบประโลม มือเรียวโอบบ่าอย่างสนิทสนมด้วยความที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม
“นี่แม่งความผิดฉันล้วน ๆ ฉันไม่น่าแนะนำพี่ชายให้แกรู้จักเลย แกไม่ควรต้องมาเสียใจขนาดนี้อะ”
“คิดมากไปนะแก ฉันไม่เป็นไรสักหน่อย”
เณศรายิ้มกลบเกลื่อน หน้าฮอนด้าแจ๊ซคันโปรดที่เธอหยิบรีโมตออกมากดปุ่มเปิดประตู โอบเอวบางของเพื่อนที่อยู่ในชุดสวยเหมือนกันคงโกรธไม่ลง
“แกอย่าทำหน้าตายเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวดิ ฉันรู้สึกแย่มาก ๆ เลยนะ อกอีวิจะแตกตายอยู่แล้วนังเนยเอ๊ย!”
“มันไม่อะไรเลยเรื่องแค่นี้ พี่ปัดเขาแค่ไม่กล้าบอกฉันเท่านั้นเอง ฉันเข้าใจพี่เขานะ เป็นฉันฉันก็คงไม่กล้าบอก”
เขาก็แค่โกหกเธอ... ทรยศหักหลังกันหน้าด้าน ๆ!
อันที่จริงเธอยังไม่เคยเจอผู้ชายประเภทนี้ด้วยซ้ำแต่นึกถึงคำของแม่ว่าให้มองโลกบวกเสมอ ไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร ทุกคนมีสิทธิ์ในชีวิตที่จะทำอะไรก็ได้
