3
“หนูมิ เป็นคนหรือผี แล้วทำไมพี่ถึงได้” คุณหมอสาวหันไปมองกระจก จับใบหน้าตัวเองก็เห็นว่าตัวเองอยู่ในร่างของคนไข้สาวที่เธอรักษามาตลอดหลายปี
“พี่หมอไม่ต้องตกใจนะคะ ตอนนี้พี่หมออยู่ในร่างของหนูมิ”
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้” คุณหมอสาวเอ่ยถามอย่างตกใจปนสงสัย
“ตอนรถชนแล้ววิญญาณของพวกเราหลุดออกจากร่าง แล้วพี่หมอมาเข้าร่างของหนูมิค่ะ”
“แสดงว่าพี่ตายแล้วเหรอ”
“พี่ยังไม่ตายค่ะ พี่ยังไม่หมดอายุขัย แต่ร่างของพี่มันเละ พี่เลยเข้าร่างตัวเองไม่ได้ เลยมาอยู่ในร่างของหนูมิแทน”
“แสดงว่าตอนนี้ทุกคนเข้าใจว่าพี่ตายแล้ว”
“ใช่ค่ะ ส่วนหนูรอดค่ะ แต่วิญญาณของหนูเข้าร่างไม่ได้แล้ว หนูหมดอายุขัยแล้ว”
“แล้วพี่มาอยู่ที่ไหน ใครจับตัวพี่มา”
“พี่ต้องมาแต่งงานแทนหนูค่ะ”
“แต่งงานอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“แล้วหนูมิไม่ได้เอ่อ...” คุณหมอสาวพยายามหาคำพูดที่ฟังดูดีที่สุด แต่อมิตากลับพูดแทรกขึ้นมาแทน
“ไม่ได้ปัญญาอ่อนอีกแล้วใช่ไหมคะ”
“พี่ไม่ได้ว่าหนูปัญญาอ่อน”
“หนูมิโดนแม่เลี้ยงทำร้ายจนสมองได้รับการกระทบเทือน ก็เลยสมองไม่ดี โดนหาว่าโง่แต่เด็กค่ะ แต่ตอนประสบอุบัติเหตุทุกอย่างก็ฟื้นคืนกลับมาค่ะ”
“แล้วหนูมิจะมาทวงร่างคืนเหรอคะ” คุณหมอสาวเอ่ยถาม
“ไม่ได้มาทวงร่างคืนค่ะ แต่มาฝากฝังร่างให้พี่หมอดูแลให้ดีค่ะ อีกนานหนูมิจะไปเกิดแล้วค่ะ”
“จะไปเกิดแล้วเหรอ”
“จะไปค่ะ แต่ไปไม่ได้”
“อ้าว”
“พอสมองได้รับการกระทบเทือนก็ไม่ค่อยได้ไปทำบุญสร้างกุศลให้ตัวเองเลยเหมือนก่อนค่ะ เพราะน้ามาไม่ชอบให้พ่อพาไปไหน กลัวโดนล้อและหาว่าปัญญาอ่อน หนูมิเลยยังไปเกิดไม่ได้ ต้องให้พี่หมอช่วยทำบุญสร้างกุศลให้ค่ะ”
“พี่ทำบุญให้หนูมิก็จะได้ไปเกิดใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ แต่ไม่ใช่ทำครั้งเดียวนะคะ ต้องทำไปสักพักค่ะ หนูมิถึงจะไปเกิดได้”
“หนูมิรู้ได้ไงคะ”
“มีเทวทูตมาบอกหนูมิค่ะ ตอนนี้หนูมิก็เลยต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนไปก่อนค่ะ”
“แล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนคะ”
“พี่ต้องมาแต่งงานแทนหนูมิค่ะ กับลูกชายคนโตของตระกูลเอกกำจร แม่เลี้ยงของหนูกับน้องสาวจับพี่มาส่งให้เจ้าบ่าวค่ะ ส่วนกฤติกาน้องสาวของหนูจะต้องแต่งกับภัทรพลลูกชายคนรองค่ะ” แล้วอมิตาก็เล่าเรื่องลูกชายคนโตกับคนรองให้คุณหมอสาวได้ฟัง
“โหย... เป็นลูกชายคนโตแต่เกิดจากเมียรองที่ไม่ได้รับความรักเต็มที่ แถมยังพิการเดินไม่ได้อีก ร่างกายอ่อนแอ โมโหร้าย ทำไมโชคร้ายแบบนี้ แต่หนูมิรู้ได้ยังไงคะ”
“หนูมิก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ว่ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง ความทรงจำของหนูมิจู่ ๆ มันก็รับรู้เองว่าสามีของพี่หมอเป็นยังไง”
“มันสามีของพี่ที่ไหน สามีของหนูมินะคะ” คุณหมอสาวแก้ประโยคของผีสาว ทำเอาผีสาวต้องหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลูบท้ายทอยไปมา
“สามีของพี่หมอค่ะ หนูมิไม่มีบุญกับคุณชานนท์ค่ะ ก็เลยตุยก่อนค่ะ” ประโยคของคนไข้สาวทำเอาคุณหมอสาวหัวเราะคิก ๆ
แน่ะ! ยังมารู้ศัพท์คำว่าตุยอีกแน่ะ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้สมองไม่ค่อยดีมาตลอดหลายปี
“แล้วพี่จะทำยังไงต่อดีคะ พี่แต่งงานมาเป็นเมียของลูกชายคนโตตระกูลเอกกำจร แต่ทำไมถึงตกอยู่ในสภาพนี้”
“พี่หมอคะ มีคนมาค่ะ”
“มีคนมาแล้วยังไง พวกเขาจะเห็นหนูมิไหมคะ”
“ไม่เห็นค่ะ พี่หมอเห็นหนูแค่คนเดียวเท่านั้นค่ะ” สิ้นประโยคนั้นบานประตูก็เปิดเข้ามา
คุณหมอสาวเห็นชายหนุ่มที่นั่งรถเข็นเข้ามา สีหน้าของเขาบึ้งตึง แต่ผู้ชายบ้าอะไรหล่อชะมัด! เธอถึงกับกะพริบตาปริบ ๆ
“ไสหัวไปซะ”
“ห้ะ”
“ไสหัวไปซะ”
“อะไรของคุณนี่” คุณหมอคนสวยถึงกับทำหน้างง จู่ ๆ ก็มาไล่ให้ไสหัวไปซะ บ้าหรือไง
“ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนของแม่ฉัน ส่งมาฆ่าฉันใช่ไหม” ชานนท์เอ่ยถามเสียงกร้าว สีหน้าเอาเรื่อง ทำเอาคุณหมอสาวถึงกับอ้าปากค้างตาโต
3
“ถ้าเธอไม่ไปฉันจะจัดการเธอซะ” ชานนท์ยังขู่ไม่เลิก
“เดี๋ยวก่อนคุณ ฉันไม่ได้จะฆ่าคุณนะ” ในระหว่างที่คุณหมออมิตากำลังพยายามอธิบายอยู่นั้น จู่ ๆ ชานนท์ก็ไอออกมาอย่างหนัก
“เฮ้ย! คุณไอเป็นเลือด ให้ฉันตรวจดูอาการของ
คุณก่อน”
“ถอยไปนะ อย่ามายุ่ง” ชานนท์ออกแรงผลัก ก่อนที่จะทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น และเป็นลมหมดสติไปในทันที
“คุณ นี่คุณ จะมาตายตอนนี้ไม่ได้นะ!” คุณหมอคนสวยร้องเรียก
“พี่หมอช่วยเขาเร็ว ๆ ค่ะ เขาเป็นเนื้อคู่ของพี่นะ”
“เนื้อคู่ อีตาหน้าหล่อนี่น่ะเหรอ” ก็ยอมรับว่าหล่ออยู่หรอก แต่ขี้โรคไปหน่อย ไม่มีเวลาให้เธอได้ตั้งตัว ตอนนี้เธอต้องรีบช่วยเขา แต่เดี๋ยวก่อนนะ
“จะช่วยยังไงไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือยาอะไรเลย” คุณหมอสาวเอ่ยขึ้น
“หนูจะเสกยาและอุปกรณ์ให้พี่ แต่พรุ่งนี้พี่ต้องทำบุญให้หนู พลังหนูใกล้หมดแล้ว เฮือกสุดท้ายจริง ๆ”
