บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 มือที่สาม

“สวัสดีค่ะ ใช่มิสเตอร์จอร์จ มานอฟ ที่มิสซิสมานอฟนัดไว้หรือเปล่าคะ” หญิงสาวเจ้าของร้าน ที่มีชื่อว่า ซาร่า ไวท์เอ่ยถาม

“ใช่ครับ” จอร์จเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“มิสเตอร์มานอฟ เชิญทางนี้ค่ะ ชุดของมิสเตอร์มานอฟเสร็จเรียบร้อยเมื่อสามวันก่อน” ซาร่าเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม และผายมือให้เขาไปลองชุดที่ห้องลองชุด เขาจึงก้าวเดินไปที่ห้องลองชุดโดยทันที โดยมีพนักงานร้านผู้ชายเป็นคนนำทาง

“มิสโกเมสเชิญทางนี้ค่ะ เดี๋ยวเรามาลองเลือกชุดแต่งงานกันก่อน ถ้าไม่พอใจ เราสั่งตัดได้” ซาร่าเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม

“เอาชุดในร้านนั้นแหละค่ะ เจนไม่เรื่องมาก” เจนเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม

“เช่นนั้นเราไปดูแกลเลอรี่กันเถอะ” ซาร่าเอ่ยบอก ผายมือให้เจนนั่งลง และเธอนำสมุดภาพสิบเล่มมาให้เจนได้เลือกชุดแต่งงาน เจนใช้เวลาไม่นานนักเธอก็เอาภาพหนึ่ง

หลังจากเจนเข้าไปลองชุดแต่งงานกับพนักงานสาวได้ครึ่งชั่วโมง เจนกลับเลือกไม่ถูกว่าจะสวมชุดไหนในงานแต่งงานดี เพราะเธอคิดว่างานแต่งงานนั้นจัดเพียงครั้งเดียวในชีวิต และเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะได้แต่งงานกับใครหลังนี้หรือไม่ เธอจึงอยากให้ออกมาดูดีที่สุด ถึงบอกว่าไม่เรื่องมาก แต่กลับเปลี่ยนชุดไปแล้วเกือบสิบชุดเลยทีเดียว

เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงเธอจึงก้าวเดินออกมาด้านนอกห้องลอง พร้อมสวมชุดแต่งงานสีขาวสะอาดตา ที่ทำจากลูกไม้อิตาลีทั้งชุด และมีปักคริสตัลหลายร้อยเม็ดให้ดูสู้ไฟ ลักษณะของชุดแต่งงานนั้นเป็นเกาะอกอยู่ในเสื้อลูกไม้แขนยาว และกระโปรงที่ลู่ไปตามลำตัว ด้านหลังยาวถึงห้าเมตร

“สวยไหมคะ มิสเตอร์มานอฟ” ซาร่าเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม เขาละสายตาจาแท็บเล็ตราคาแพง ทอดสายตามองเจนใสชุดเจ้าสาวที่ทรงเสน่ห์ ทำให้เขาตาค้างราวกับถูกมนต์สะกดให้จ้องจนไม่อาจละสายตาไปได้

“เอาชุดนี้ แล้วเอาไปส่งที่บ้านของเธอด้วย” จอร์จเอ่ยบอกซาร่าเช่นนี้ แต่สายตาของเขายังคงมองที่เจน ราวกับเป็นจุดศูนย์กลางของโลก

“ได้ค่ะ” ซาร่าเอ่ยบอก

“คุณเปลี่ยนชุดเสร็จ เดี๋ยวผมไปส่ง” จอร์จเอ่ยบอกเจน

“ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้” เธอเอ่ยบอกแล้ว

“ผมเป็นคนพามา ผมต้องพากลับไปเปลี่ยนชุดแล้วกลับกับผม” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ก็ได้” เจนเอ่ยบอก แล้วก้าวเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง ทำให้เขาเผยรอยยิ้มอย่างไม่รู้ตัว

จอร์จขับรถออกมาจากร้านพรีเวดดิ้งได้สักพักเขามองเธอที่นั่งมองหน้าต่างหน้า ราวกับว่าเธอกำลังคิดอะไรบางสิ่งบางอย่างอยู่ในใจ ทำให้เขาคิดว่าคงเป็นเรื่องที่เขาและเธอจะต้องแต่งงานเร็วๆ นี้ แน่นอน

“หิวไหม” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ไม่”

“ทำไม...”

ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยถามสิ่งใดออกมา เสียงของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา เขาดูที่หน้าจอตรงหน้า เห็นเบอร์โชว์เขียนว่ามิลานที่โทรเข้ามา

“รับสิ จะปล่อยให้ร้องทำไม” เจนเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เขาจึงกดรับสายที่หน้าจอ

“ว่าไงมิลาน”

เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

"คืนนี้มาไหม มิลาดจะเตรียมน้ำอุ่นรอจะให้จอร์จ”

มิลานเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเขาโดยทันที จอร์จหันไปมองเธอที่มองถนนโดยไม่ได้สนใจแต่อย่างใด

“คืนนี้ผมมีนัด แค่นี้ก่อนนะ”

จอร์จเอ่ยบอกแล้วกดปิดโดยทันที เจนหันไปมองเขาที่มองตรงไปด้านหน้า เธอรู้ว่าเขากำลังโกหกมิลานว่ามีนัด

“คืนนี้คุณไม่มีธุระ จะโกหกเธอทำไม” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“ผมจะเข้าบ้านไปหาแม่ ไปกับผมไหม” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“วันนี้ฉันเพลียๆ พรุ่งนี้ฉันค่อยไปหาท่าน” เธอเอ่ยบอกเช่นนี้

พอถึงบ้านเธอ เธอจึงรีบลงจากรถเข้าบ้านโดยไม่หันไปมองเขาแต่อย่างใด เขามองเธออยู่ชั่วครู่ จนเธอก้าวเดินไปในบ้านแล้ว ทำให้เขาถอนหายใจยาวๆ เพราะเขาไม่รู้ว่าความสัมพันธ์เช่นนี้ จะทำให้เขาและเธออยู่กันอย่างมั่นคงเช่นที่พ่อและแม่ของเขาที่รักกันมากโดยไม่เสื่อมคลายมาตลอดสามสิบกว่าปีมานี้

เจนนำเรือนร่างเปลือยเปล่าก้าวเดินไปในเรนชาวเวอร์ กดปุ่มน้ำอุ่นจัดให้ไหลลงมากระทบเรือนร่างของเธอทันที เธอหลับตาลงนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและเธอ อีกทั้งมีบุคคลที่สามที่โทรเข้ามาทำให้เธอหงุดหงิดและว้าวุ่นในหัวใจไม่น้อย

เธอคิดต่ออีกว่า หรือว่าเธอจะหึงเขา แต่เป็นไปไม่ได้ เพราะการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่แต่งงานกับเขาก็เพราะความสบายใจของแม่ของเธอ และแม่ของเขาเพียงเท่านั้น และไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้า ถ้ามีเรื่องมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องอีก เธอคงจะต้องหย่ากับเขาแน่ๆ เธอจะเป็นที่หนึ่งหรือเป็นที่สองอย่างเด็ดขาด

เจนมาถึงโบสถ์ที่ทำพิธี เธอก้าวลงจากรถ เธอเห็นแขกที่เชิญมามากมายเพื่อเป็นสักขีพยานในการแต่งงาน พอเธอก้าวเดินมายังพรมสีแดงก้าวเดินทอดยาวไปถึงลานพิธี

เธอมองจอร์จที่ยืนหันหลังอยู่กับเพื่อเจ้าบ่าวของเขาคือเอ็ดเวิร์ด ส่วนอดัมนั่งอยู่ที่เก้าอี้แถวแรก เธอก้าวเดินไปแท่นจุดเทียน จอร์จจึงก้าวเดินมาหาเธอ เพื่อจุดเทียนพร้อมกัน ที่แท่นบูชาเพื่อเริ่มพิธีแต่งงาน อีกทั้งยังมีเด็กผู้ชายใส่สูททักสิโด้เช่นเดียวกับเขา เข้ามาร่วมจุดเทียนด้วย

พอจุดเทียนเสร็จ ทั้งเธอและเขาออกจากแท่นบูชาแล้ว วงดนตรีก็บรรเลงคลาสสิกที่อ่อนหวานไพเราะจับใจ เพื่อต้อนรับเธอในการบรรเลงเพลงนั้น เธอเข้าไปยังพิธี พร้อมด้วยผู้คนที่เดินนำหน้าเธอคือ เด็กผู้ชายที่ถือกล่องแหวนแต่งงาน เด็กคนนี้ยังไม่ถึงอายุสิบสามปี ดูน่ารักและจิ้มลิ้มในวัยของเขา ต่อมาเป็นเด็กผู้หญิงถือช่อดอกกุหลาบสีขาวขนาดกลาง อีกทั้งยังมีผู้ร่วมขบวนคือเคนรี่กับเจคอปเพื่อนร่วมคณะที่สนิทในระดับหนึ่งก้าวเดินตามมา ส่วนด้านหลังเป็นบาทหลวงหนึ่งท่าน และเด็กผู้ช่วยมิสซาอีกสองคน ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนตามพิธีและให้เกียรติเธอที่เป็นเจ้าสาว

จนกระทั่งปะรำพิธี บิดาของเธอจึงก้าวเดินออกมา ศิษยาภิบาลจะเริ่มอ่านคัมภีร์คู่ชีวิต คัมภีร์นี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตคู่เนิ่นนานพอสมควร จนมาถึงพิธีกล่าวคำปฏิญาณ บาทหลวงจึงเอ่ยขึ้นถามต่อหน้าของจอร์จและเจนทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel