บทที่ 7 ชายผู้ฉวยโอกาส 1
“พี่ทัชพี่ทัชอย่าไปไหนนะคะ อยู่กับฟ้า รักฟ้านะคะ”
นิสารัตน์ไม่ได้เพียงแค่พูด เธอยังกอดร่างโตไว้แน่นราวกับว่าจะไม่ปล่อยเขาไปไหน ผงกใบหน้าสูงจูบปากหนาอย่างไม่เป็นประสา เธอทำตามความปรารถนาส่วนลึกในจิตใจ
ชั่วขณะนั้นดิตถพงศ์ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น เขาเลือกที่จะทำตามความปรารถนาของตัวเองมากกว่าความถูกต้อง หลงลืมความเป็นสุภาพบุรุษ หลงลืมว่าเวลานี้สาวร่างเล็กไม่มีสติพอที่จะประคองความคิดหรือการกระทำของตัวเอง เขาลืมสิ้นทุกอย่างหลังจากได้รับจูบจากหญิงสาวที่ตกอยู่ในอำนาจของเมรัย
ดิตถพงศ์จูบนิสารัตน์ดูดดื่ม เขาไม่เคยจุมพิตปากของหญิงสาวคนไหนรสชาติเยี่ยมเช่นเธอมาก่อน ยามที่เขาจุมพิตปากเนียนนุ่มคู่นี้ ทำให้เขาลืมโลกทั้งใบ ลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง
ลิ้นของดิตถพงศ์ยังคงแลกรัดลิ้นนุ่มที่ดูเหมือนจะไม่เป็นงาน ควานหาความหวานด้วยการกวาดลิ้นต้อนชิมไปทั่วช่องปากสาว เจ้าของเรียวปากคู่งามถึงกับนอนสั่นสะท้าน หัวใจเต้นถี่แรงอยู่บนเตียงนอนอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เขาไม่เพียงแค่จูบเธอไม่ห่าง มือใหญ่แข็งแรงยังลูบไล้ไปบนผิวกายเนียนนุ่มของเธอไปด้วย และรีบนำผ้าห่มสิ่งกีดขวางระหว่างสองร่างให้ออกห่าง กลายเป็นเนื้อแนบเนื้อ
ชายหนุ่มร่างโตขยับร่างกายมาตะแคงร่างเกยก่ายร่างเล็ก เพื่อที่เขาจะได้สำรวจร่างสาวได้โดยง่าย ทรวงอกสาวขนาดพอดีมือตกอยู่ในอุ้งมือของดิตถพงศ์ที่นวดเคล้นไปพร้อมกับปากที่ยังบดเบียดเรียวปากบางนุ่ม ล้วงลิ้นพันรัดลิ้นบางด้วยความกระหายในรสเสน่หา
ฝ่ายหญิงไม่รู้ตัวเลยว่า เวลานี้ตนเองกำลังเรียกร้องผิดคน ชายหนุ่มที่กำลังจูบและกอดเธอไม่ใช่กรกวินทร์อดีตคนรัก แต่เป็นเพื่อนสนิทของเขาต่างหาก นิสารัตน์ไม่อาจประคองตัวและสตินึกคิดและอ่านสิ่งใดได้ มีเพียงความปรารถนาส่วนลึกในจิตใจกำลังนำทางเธอสู่ความเลวร้ายที่สุดในชีวิต
ไม่...นิสารัตน์ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น นอกจากความอบอุ่นจากอ้อมกอดและรสจุมพิตสะท้านสะเทือนอารมณ์ ไม่เพียงแค่เธอเมาอยู่ในฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เท่านั้น เวลานี้เธอกำลังมัวเมากับรสจูบแรกของชีวิตสาวที่ดึงเพลิงอารมณ์ทางเพศให้ลุกโชนไม่รู้ตัว
เป็นเวลานานกว่าที่ดิตถพงศ์จะละห่างปากนุ่มน่าจูบของเธอ ปากและจมูกของเขาสูดดมกลิ่นหอมบนผิวแก้มสุกปลั่ง ก่อนจะเลื่อนใบหน้ามาซุกไซ้ลำคอ สูดกลิ่นกรุ่นของผิวกายหอมๆ เข้าไปเต็มปอด ร่างหนารู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันทีทันใด
ใบหน้าคมเลื่อนต่ำลงในเวลาต่อมา ผ่านเนินอกขาวลออตาที่ถูกซับจูบไปทั่ว จนกระทั่งถึงดอกบัวดอกงามที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระจากมือใหญ่ เพื่อที่ปากและลิ้นของเขาจะทำงานแทนที่
ปากหนาไม่รอให้ดอกบัวร้างลาสัมผัสนาน เขาครอบครองปลายถันสีสวยดึงดูดใจผลุบหายเข้าไปในปาก ดูดกลืนอย่างกระหายหิวประหนึ่งทารกแรกเกิดโหยหาน้ำนมจากมารดา ทรวงอกอีกข้างก็หาได้ว่างเว้น มือแข็งแรงตะปบบีบเคล้นคลึงมันมือ
“อืม...” เธอปล่อยเสียงครางออกมาตามสัญชาตญาณ เป็นเสียงครางแรกที่นิสารัตน์ได้รับความเสียวกระสันจากปากใหญ่ที่กลืนกินยอดถันสีหวาน มีลิ้นสากใหญ่ตวัดไล้เลียไปด้วย แรงสั่นของเรือนร่างอรชรยิ่งเพิ่มมากขึ้น ความสยิวซ่านที่ไม่เคยได้รับรู้สัมผัสมาก่อนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ
ช่วงเวลานี้ความเมาจากพิษสุราน้อยกว่าอาการเมามัวในเพลิงพิศวาสที่แผ่กระจายไปทั่วร่างค่อยๆ ขับไล่พิษจากแอลกอฮอล์ทีละน้อย
ฝ่ามือใหญ่ถอยห่างจากอุบลดอกงาม เพื่อให้ปากและลิ้นของตนทำงานได้อย่างสะดวก สลับผลัดเปลี่ยนเชยชิมทั้งซ้ายและขวา ดื่มด่ำไม่ยอมหยุดพักราวกับว่าการกระทำในครั้งนี้เป็นเรื่องที่เขารอมานานแสนนาน เขาจึงละเมียดชิมแทะเล็มให้นานที่สุด
เขาไม่เคยคาดหวังมาก่อนว่าจะได้แตะต้องผิวกายหอมหวน ไม่เคยคิดว่าจะได้จูบลูบคลำเรือนร่างแสนโสภา จากตาเปล่ายามที่เขามองผิวขาวเนียน ดิตถพงศ์จินตนาการอยู่บ่อยครั้งว่า ผิวของเธอจะนุ่มละเมียดมือมากแค่ไหน เขายังแอบอิจฉากรกวินทร์เพื่อนสนิทที่ได้แตะต้องสัมผัสกายของนิสารัตน์ แต่ทว่าเวลานี้เขาไม่ต้องอิจฉากรกวินทร์อีกต่อไปแล้ว เพราะเวลานี้และในอนาคต เขาจะเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ได้ครอบครองเรือนร่างผุดผ่อง ไม่มีวันให้ชายอื่นใดมาซ้ำรอยเขาเด็ดขาด ในอดีตเธอจะเป็นของใครดิตถพงศ์ไม่สน นับต่อจากนี้ไปนิสารัตน์จะเป็นของเขาเพียงคนเดียว
ดิตถพงศ์ไม่อยากรีบเร่งจะเชยชมร่างสมส่วน อยากจะค่อยๆ แทะเล็มเก็บเกี่ยวความนุ่มหอมไปเรื่อยๆ ทว่าร่างกายของเขานั่นเล่ากลับไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากกำลังถูกไฟเสน่หาหลายร้อยกองสุมในร่าง อุณหภูมิภายในร่างสูงขึ้นเรื่อยๆ และเรื่อยๆ จนเขาคิดว่ามันคงจะระเบิดในไม่ช้านี้
ความรู้สึกนี้ช่างแตกต่างกับคู่นอนคนก่อนๆ ของเขามากเหลือเกิน หญิงสาวเหล่านั้นไม่เคยมีใครทำให้ชายหนุ่มนักรักหมดความอดทนเพียงแค่จูบลูบคลำ และกว่าที่เขาจะเดินเครื่องเต็มที่ต้องให้พวกเธอ สร้างลาวาแห่งอารมณ์ให้ก่อนเสมอถึงจุดเดือดเสียก่อน นิสารัตน์จึงต่างกับหญิงสาวที่ผ่านมาของเขาเหลือเกิน ต่างกันทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้สึกหรืออารมณ์
และนั่นเองที่ทำให้เขาทานทนเพลิงพิศวาสที่อยู่ในร่างกายของตนเองต่อไปไม่ได้ มือใหญ่ที่วนเวียนไล้ลูบร่างอิ่มเลื่อนมาจับขอบกางเกงยางยืดของเธอ จากนั้นก็ม้วนตัวพร้อมกับกางเกงชั้นในไปตามเรียวขาสวย ก่อนจะใช้ปลายเท้าของตนรูดทั้งสองสิ่งให้หลุดออกไปจากปลายเท้าเล็ก ส่งผลให้เรือนร่างของนิสารัตน์เปล่าเปลือยอวดโฉมงาม
คราวนี้ดิตถพงศ์เลื่อนมือมายังใจกลางร่างสาว ลูบไล้อยู่บนกลุ่มไหมแพรพรรณนุ่มละเมียดมือ ก่อนจะขยับมือไปตามรูปทรงของดอกไม้ช่อสวยที่หลบซ่อนอยู่ในซอกเร้นลับแสนเร้าใจ
“อืม...พี่ทัชพี่ทัช”
นิสารัตน์ปล่อยเสียงครวญ เรียกชื่ออดีตคนรักไม่ขาดปาก หลับตาพริ้มรับความรู้สึกก่อวนในร่างเธอเกร็งร่างแข็งเมื่อดิตถพงศ์ล้วงล้ำนิ้วอวบใหญ่เข้าสู่ถ้ำสวรรค์ฉ่ำเยิ้มด้วยน้ำเสน่หา และในช่วงจังหวะที่เขาขยับปลายนิ้วเข้าออก ปากหนาได้รูปเลื่อนมาปิดทับกลีบปากนุ่มที่เผยอร้องครางรับความแปลกใหม่ที่ได้รับและร้องเรียกชื่อกรกวินทร์ไม่ขาดปาก
ห้วงอารมณ์เช่นนี้ดิตถพงศ์ไม่อยากได้ยินชื่อกรกวินทร์เลยแม้แต่น้อยเพราะมันยิ่งสร้างความเจ็บปวดทางใจให้กับเขามากขึ้น และให้เข้าใจว่าหัวใจของเธอมีเพียงเพื่อนสนิทของตน นิสารัตน์ไม่มีเขาอยู่ในสายตาชายผู้ฉวยโอกาสจึงต้องกั้นเสียงทุกเสียงของเธอด้วยจุมพิตเร่าร้อน
ดิตถพงศ์รับรู้ถึงความฟิตแน่นที่โอบรัดนิ้วมือใหญ่ของตน ยามที่สอดแทรกเข้าไปภายในร่างสาว ราวกับว่าเธอไม่เคยผ่านมือชายมาก่อน อีกทั้งร่างสาวก็สะดุ้งไหวและสั่นระหว่างที่เขาเริ่มขยับนิ้ว ราวกับว่ามันเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับเธอ จนเขาอดที่จะคิดไม่ได้ว่า นิสารัตน์เป็นสาวบริสุทธิ์ไม่เคยต้องมือชาย แต่จะเป็นไปได้อย่างไรเล่า ในเมื่อเธอเป็นคนรักของกรกวินทร์ คาสโนว่าอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่ชอบทานสตรีสาวสวยเป็นอาหารยามว่าง นิสารัตน์ก็คงไม่พ้นมือเพื่อนสนิทของเขาแน่
“อืม...” ความเจ็บปวดเล็กน้อยที่ได้รับตอนแรกจางหาย เฉกเช่นเดียวกับสติที่ค่อยฟื้นตัวทีละน้อยกลายเป็นความหฤหรรษ์ที่ไหลเวียนไปทั่วร่าง ที่มาพร้อมกับความเสียวกระสันหลายระลอกที่มวนตัวเข้าใส่ นิ้วใหญ่ขยับเร็วและแรงมากเท่าไหร่ความสยิวซ่านก็แผ่กระจายไปทั้งร่างมากเท่านั้น และนั่นมันก็มาพร้อมกับความสุขในเกมกามที่เธอไม่เคยพบพานมาก่อน
ร่างสาวเกร็งอีกรอบเมื่อเห็นแสงเรืองรองพุ่งเข้าใส่หน้า นิสารัตน์ไม่รู้หรอกว่ามันคือแสงอะไรแต่เธอก็เต็มใจอ้าแขนรับความสุขนั้นมากอดไว้ ก่อนจะบ่ายหน้าหนีจุมพิตร้อนเพื่อปลดปล่อยเสียงคราง
ความฟิตแน่นของดอกกุหลาบงามที่รัดรึงเขามากกว่าเดิม ส่งผลให้ดิตถพงศ์ทานทนต่อไปไม่ได้ เพลิงพิศวาสเล่นงานเขาอย่างหนัก ลุกโชนยิ่งกว่าไฟบรรลัยกัลป์เสียอีก และเมื่อความอดทนของเขาถึงที่สุด ดิตถพงศ์ดึงนิ้วออกจากช่องทางสวรรค์ ขยับตัวออกห่างร่างโสภา เพื่อจัดการกับกางเกงของตน
ระหว่างที่เขาถอดเครื่องนุ่งห่มออกจากกาย ดวงตาคมกล้าจับจ้องไปยังเรือนร่างสวยผุดผ่องของเธอตาไม่กระพริบ นิสารัตน์เวลานี้สวยงามมากเหลือเกิน สวยจนเขาไม่อยากจะละสายตาห่าง แต่ทว่าเขาจำเป็นต้องดึงสายตาออกจากร่างขาวผ่อง เพื่อจะได้ครอบครองเธอ ให้นิสารัตน์เป็นของเขาเพียงคนเดียว ชายหนุ่มก้าวขึ้นมาบนเตียง ก่อนจะทาบทับร่างเล็กที่นอนหลับตาปรือตาน้อยๆ คล้ายกับคนครึ่งหลับครึ่งตื่น
“พี่ทัช” ดวงตาของเธอยังคงพร่ามัวมองเห็นชายตรงหน้าเป็นกรกวินทร์
“เป็นของพี่นะฟ้า” ดิตถพงศ์เอ่ยขึ้น ขณะที่ใช้เข่าแยกเรียวขาสวยให้แยกออกจากกัน เผยโฉมดอกกุหลาบงามฉ่ำเยิ้มด้วยน้ำหวาน “พี่ก็รักฟ้า รักมากที่สุดด้วย”
จบคำพูด ดิตถพงศ์ก็สอดประสานร่างของตนและเธอหล่อหลอมเป็นหนึ่ง จดจ่อแก่นกายใหญ่อยู่หน้าปากถ้ำ ก่อนจะล่วงล้ำสิ่งนั้นเข้าไปด้านในพรวดเดียวสุดปลายทาง...เป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยฟิตแน่น จนเขาต้องกัดฟันกรอดๆ ข่มความรู้สึกที่ได้รับ
“โอ๊ย!” นิสารัตน์ร้องออกมาดังลั่น สีหน้าบอกให้รู้ว่าเธอเจ็บปวด “พี่ทัช ฟ้าเจ็บ...เจ็บ”
เสียงร้องครวญและสีหน้าที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดของนิสารัตน์ ประกอบกับช่องทางสวรรค์คับแน่นประหนึ่งไม่เคยผ่านมือชาย วินาทีนั้นดิตถพงศ์รับรู้ได้ในทันทีว่า เธอบริสุทธิ์ เขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ ดิตถพงศ์แทบจะไม่เชื่อเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงความอิ่มเอมใจเกิดขึ้นในความรู้สึกของเขา เฉกเช่นเดียวกันกับความรักและความหวงที่เพิ่มตาม
“พี่ขอโทษที่รุนแรงนะคนดี” เขาปลอบโยนแล้วกดปากลงบนปากนุ่มหนักๆ “เดี๋ยวมันก็หายเจ็บ”
“พี่ทะ...ทัช” เธอเรียกชื่อคนรักเสียงแผ่ว และเสียงนั้นก็เบาลงทุกขณะในจังหวะที่ดิตถพงศ์เริ่มขยับตัวเดินเกมรักเต็มรูปแบบ ไม่เพียงแค่เสียงของเธอเท่านั้นที่เริ่มเบาลง สติของนิสารัตน์ก็ค่อยๆ ดับวูบแล้วในที่สุดเธอก็หมดสติ
“พี่ขอโทษนะฟ้า แต่พี่หยุดไม่ได้”
ดิตถพงศ์ยอมเป็นคนเลว คนชั่วและนักฉวยโอกาส เขารู้ว่าเธอหมดสติแต่ก็หยุดการกระทำของตนเองไม่ได้ ความสาว ความสวย ความรักและอยากเป็นเจ้าของทำให้ชายหนุ่มเลือกที่จะเดินเกมสวาทเกมนี้ต่อไป เขาจะต้องตีตราจองเป็นเจ้าของนิสารัตน์แต่เพียงผู้เดียว แล้วจะไม่มีใครมาทับซ้อนสัมผัสของเขาได้
