เจ้าสาวนอกหัวใจ

143.0K · จบแล้ว
เนื้อนวล/baiboau
51
บท
81.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะต่ำต้อย จึงทำได้แค่มอง เพราะไม่ใช่เจ้าของ จึงเป็นได้แค่... เจ้าสาวนอกหัวใจ

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันประธานดราม่าหนีแต่งงานรักแรกพบแก้แค้นเศรษฐีโรแมนติก

ตอนที่ 1

“ว่ายังไงนะคะคุณรัน...?!”

เสียงหวานใสที่เต็มไปด้วยความตื่นตกใจของรำไทยดังขึ้นภายในห้องนอนของตัวเอง เมื่อคำขอร้องแกมบังคับของมารันพี่สาวบุญธรรมเล็ดลอดออกมาจากกลีบปากอิ่มสีกุหลาบนั่น

“ฟังไม่ผิดหรอกน่ารำไทย ฉันอยากให้เธอช่วยไปตามนัดแทนฉันหน่อย เธอก็รู้นี่ว่าฉันไม่อยากเจอหน้าพี่โรมพัท ฉันยังไม่อยากแต่งงานตอนนี้รู้ไหม”

มารันสาวน้อยวัยยี่สิบสามปีเต็ม ใบหน้ารูปไข่ที่อยู่ในกรอบเส้นผมสีนิลหยักศกยิ่งขับความงดงามของสาวแรกแย้มออกมามากมายนัก ปากนิด จมูกหน่อย นัยน์ตาหวานซึ้ง สวยหยาดเยิ้มปานนางสวรรค์เชียวแหละ

รำไทยมีสีหน้าลำบากใจยิ่งนัก เพราะการนัดหมายของโรมพัทและมารันในครั้งนี้เป็นความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย

“แต่ว่าแม่มุกคงไม่พอใจ...”

“แม่กับพ่อไปทำธุระที่ต่างประเทศเดือนหน้าแนะถึงจะกลับ เอาน่า... รำไทยถือว่าช่วยฉันหน่อยก็แล้วกันนะ แค่ไปตามนัดแทนฉันที ให้ฉันไหว้ก็ได้เอ๊า...”

มารันทำท่าจะยกมือขึ้นไหว้จริงๆ แต่รำไทยรีบคว้ามือเรียวขาวสะอาดของพี่สาวบุญธรรมเอาไว้ทัน ก่อนจะพยักหน้ารับออกไปอย่างไม่มีทางเลือก

“ก็ได้ค่ะ... แต่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะคะ”

มารันรีบพยักหน้าหงึกๆ ฉีกยิ้มกว้างพร้อมๆ กับโผเข้ากอดร่างอรชรสมส่วนของรำไทยด้วยความดีใจ ในที่สุดหล่อนก็ไม่ต้องไปเจอหน้าตาโรมพัทนั่น ให้ฟ้าถล่มใส่หัวก่อนเถอะหล่อนถึงจะยอมแต่งงานด้วย ผู้ชายอะไรไปตั้งสิบกว่าปีไม่เคยติดต่อกลับมาหาเลย

“แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วล่ะ...”

“คุณรันพูดแปลก จังค่ะ พูดเหมือนกับว่า...” รำไทยเอ่ยถามด้วยความสงสัย

มารันไหวไหล่บอบบางของตัวเองน้อยๆ ก่อนจะเดินไปนั่งบนเตียง ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “อย่าคิดส่งเดชน่า ยังไงฉันก็ต้องตามไปสมทบด้วยอยู่แล้วล่ะ แต่ขอเวลาหน่อยเท่านั้นเอง เธอก็รู้นี่ว่าฉันเกลียดการคลุมถุงชน ไม่อยากแต่งงานกับตาบ้านั่น... หรือหากเธอแต่งแทนฉันได้ก็จะเป็นอะไรที่ดีที่สุดในสามโลกเลยแหละ...”

มารันหัวเราะแต่รำไทยไม่ขำด้วยเลยสักนิด “ฉันไม่อาจเอื้อมหรอกค่ะ คุณรันเป็นคู่หมั้นของคุณโรมพัทก็ต้องแต่งกันสิคะ จะมาให้ฉันแต่งแทนไม่ได้หรอก”

“หน้าตายังกับจิ้งจกเนี่ยนะจะมาสอยนางฟ้าอย่างฉันฝันไปเถอะ” หญิงสาวผู้พี่เบ้หน้าเมื่อภาพในอดีตเมื่อสิบห้าปีก่อนโผล่ขึ้นมาในสมอง

“หน้าตายังกับจิ้งจก...? ไม่ใช่มั้งคะ เท่าที่ฉันเห็น คุณโรมพัทหล่อมาก ตัวก็สูงๆ แถมยิ้มยังหวานอีกค่ะ”

รำไทยค้านและพูดความจริงตามที่เห็น แต่มารันหาได้สนใจไม่แม้ว่าตนเองจะยังไม่เคยเห็นโรมพัทในปัจจุบันเลยก็ตามที

“ต่อให้หล่อปานเทพบุตรมาจุติฉันก็ไม่สนหรอก คนอย่างมารันมีปัญญาหาสามีเองได้ไม่ต้องพึ่งบารมีของพ่อกับแม่หรอก”

คนพูดเชิดหน้างามๆ ขึ้นสูง เบ้ปากด้วยความหมั่นไส้กับคำชื่นชมของรำไทยที่มีต่อโรมพัท ยังจำภาพในอดีตได้เป็นอย่างดี ภาพที่โรมพัทวิ่งหนีหล่อนอย่างเป็นเอาตาย แถมยังบอกอีกว่าหล่อนน่ะน่ารำคาญ อย่ามาวุ่นวายกับเขาอีกเด็ดขาด ถึงแม้ตอนนั้นหล่อนจะยังเด็ก แต่หล่อนก็จำได้ขึ้นใจทีเดียวและแค้นมากด้วย!

คอยดูเถอะ... หล่อนจะทำให้ผู้ชายคนนั้นกระอักออกมาเป็นเลือดให้จงได้

“แต่ว่าทางผู้ใหญ่หมั้นหมายคุณรันกับคุณโรมพัทแล้วนะคะ”

“มันก็แค่คำสัญญาน่าไม่เห็นจะมีอะไรสำคัญเลย และฉันนี่แหละจะทำทุกอย่างให้ตาบ้านั่นเป็นฝ่ายขอถอนหมั้นซะเอง” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจผุดพรายขึ้นเต็มดวงหน้างามของมารัน

รำไทยถอนใจออกมากับความดื้อรั้นของพี่สาวบุญธรรม นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมมารันถึงได้แสดงท่าทางรังเกียจโรมพัทถึงเพียงนี้

“แต่ฉันว่าแม่มุกกับพ่อณนไม่มีทางยอมหรอกค่ะ”

“ถ้านายนั่นเป็นคนถอนหมั้นพ่อกับแม่ไม่มีทางว่าฉันได้อยู่แล้ว และคนที่จะถูกประณามต้องเป็นนายโรมพัทต่างหากไม่มีทางเป็นคนฉลาดอย่างมารันแน่...” เจ้าของคำพูดอวดเก่งลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อพูดจบ ขณะจ้องมองหน้าน้องสาวบุญธรรมนิ่ง

“ชัยชนะมันอยู่ตรงหน้าฉันก็จริง แต่หากเธอไม่ร่วมมือกับฉัน แน่นอนว่าฉันคว้ามันไม่ได้แน่”

มารันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาลง เดินเข้ามาหยุดตรงหน้ารำไทย พร้อมๆ กับยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลขนาดครึ่งเอสี่ให้กับน้องสาวบุญธรรม

“ไปพบพี่โรมพัทแทนฉัน แล้วนี่...” ในที่สุดซองสีน้ำตาลก็เข้าไปอยู่ในมือของรำไทย

“เอาให้เขาด้วย แต่เธอห้ามเปิดดูก่อนนะ ไม่อย่างนั้นฉันโกรธจริงๆ ด้วย”

แม้มารันไม่กำชับแต่ด้วยนิสัยที่เคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่น แน่นอนว่ารำไทยไม่มีทางเปิดเอกสารสำคัญของชาวบ้านดูตามอำเภอใจแน่

“เชื่อใจฉันเถอะค่ะ”

“ฉันเชื่อใจเธอ...” มารันยิ้มกว้าง ขณะเดินไปเกาะที่ขอบหน้าต่างห้องนอน

“เธอไปกรุงเทพฯ คราวนี้คงจะต้องอยู่ที่นั่นเป็นเดือนๆ หวังว่าจะอยู่ได้นะหากฉันตามไปช้าสักหน่อย”

คำพูดลอยๆ ของคนที่กำลังยืนกอดอกมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างทำให้รำไทยอดแปลกใจไม่ได้ ก็หล่อนกับมารันได้รับคำสั่งให้ไปอยู่บ้านของโรมพัทพร้อมๆ กับไม่ใช่หรือ

“คุณรันพูดเหมือนว่า...”

“ฉันจะไปภูเก็ตสักพักหนึ่ง แต่สัญญาว่าจะไปหาเธอก่อนที่แม่กับพ่อจะกลับมาจากแคนาดา โอเคไหม?”

“แต่ว่าคุณรันคะ...”

รำไทยพยายามจะค้าน แต่คนพูดน้อยอย่างหล่อนหรือจะพูดทันคนเจ้าเล่ห์แพรวพราวอย่างมารันได้เพราะในที่สุดก็ถูกดักทางเอาไว้จนหมด

“ไม่มีแต่จ้ะน้องสาวที่รัก ฉันจะไปภูเก็ตไปอยู่บ้านพักตากอากาศของพ่อสักพัก ส่วนเธอก็ไปอยู่เป็นคุณครูสอนทำอาหารให้คุณน้าพราวที่กรุงเทพฯ และระหว่างนั้นหากเธอจะสานสัมพันธ์กับพี่โรมพัท ฉันก็ไม่ว่าอะไรสักนิด แถมยังจะดีใจด้วยซ้ำ...”เจ้าของคำพูดหันกลับมาภายในห้องอีกครั้ง

“ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณโรมพัท”

สาวน้อยรีบปฏิเสธทันควันแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด เพราะไม่ได้รู้สึกอะไรกับโรมพัทเลยแม้แต่นิดเดียว แค่ยอมรับว่าเขาหล่อ หน้าตาดีขั้นเทพก็แค่นั้น

“แล้วพี่ภามินล่ะรู้สึกอะไรหรือเปล่า”มารันถามออกมาอย่างนั้นเอง แต่ไม่คิดว่าจะทำให้น้องสาวบุญธรรมถึงกับหน้าเหวอ แก้มแดงระเรื่อไปได้

“เอ่อ...”

“ทำไมต้องแก้มแดงด้วยล่ะ หรือว่าเธอรู้สึกอะไร กับพี่ภามิน...”

“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่...” หัวใจสาวเต้นโครมครามราวกับพึ่งวิ่งผลัดสี่คูณร้อยเมตรมาหมาดๆ ขณะรีบปฏิเสธพัลวัน

มารันอมยิ้ม ขณะรีบสาวเท้าเข้ามาใกล้รำไทย “มีใครเคยบอกเธอหรือเปล่ารำไทย... ว่าเธอน่ะอ่านง่ายยิ่งกว่าอ่านหนังสือก.ไก่เสียอีก ดูสิหน้าแดงก่ำ ปากก็สั่น ตาก็ล่องลอย ติดใจพี่ภามินใช่ไหมล่ะ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน หากเธอทำตามคำสั่งของฉันสำเร็จ ฉันรับรองว่าจะเป็นแม่สื่อให้กับเธอเอง...”

“ไม่นะคะ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น...”

ยิ่งเถียงก็ยิ่งมีพิรุธให้มารันล้อเลียนไม่หยุด ในที่สุดรำไทยก็เลือกที่จะก้มหน้ามองพื้นนิ่ง แต่กระนั้นแก้มนวลก็ยังแดงระเรื่อ สมองนึกถึงแต่พ่อผู้ชายรูปหล่อคนนั้นตลอดเวลา

“ไม่ต้องอายจนม้วนหรอกน่า ฉันล้อเล่น เธอไม่ได้ตกหลุมรักพี่ภามินก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนอะไรนี่” มารันหัวเราะด้วยความพึงพอใจ ขณะเดินตรงไปที่ประตูห้อง

รำไทยถอนใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอก คิดว่าพี่สาวบุญธรรมจะออกไปแล้วแต่แม่เจ้าประคุณก็ยังอุตส่าห์หยุดเดินและหันมาพูดขึ้นอีกครั้ง

“ทำให้สำเร็จนะรำไทย... และห้ามนำเรื่องนี้ไปแพร่งพรายบอกให้พ่อกับแม่รู้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ยอมให้อภัยเธอตลอดชีวิต เข้าใจไหม”

ผู้เป็นน้องสาวไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากพยักหน้ารับอย่างลำบากใจ “ฉันจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับค่ะ แต่คุณรันต้องกลับมาก่อนที่แม่มุกกับพ่อณนจะกลับมาจากแคนาดานะคะ”

“แน่นอน ฉันไม่ทำให้เธอลำบากหรอกน่า” มารันพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยอำลา

“งั้นฉันไปก่อนนะ เธอก็รีบนอนแล้วกันพรุ่งนี้ต้องขึ้นเครื่องไปกรุงเทพฯ แต่เช้าเดี๋ยวสวยไม่สะดุดตาพี่ภามินกันพอดี ราตรีสวัสดิ์น้องสาวที่รัก”

มารันยกมือขึ้นแตะปากแล้วส่งให้กับน้องสาวบุญธรรม จากนั้นก็เปิดประตูห้องและเดินออกไป

รำไทยถอนใจออกมาด้วยความกลัดกลุ้ม หล่อนหมดทางเลือกจริงๆ หรือนี่ หากพ่อกับแม่รู้เข้าคงจะต้องผิดหวังน่าดูเลยทีเดียว

“พ่อณนแม่มุก รำไทยขอโทษ...”

ล้มตัวลงนอนหงายบนที่นอน แล้วภาพของผู้ชายหล่อกระชากลมหายใจที่ชื่อภามินก็ระเบิดขึ้นมาในสมอง หล่อนยังจำสายตาคมกริบที่จ้องมองหล่อนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนได้เป็นอย่างดี แม้สายตาสีดำดุจราตรีเดือนดับนั้นจะไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมามากนัก แต่นั่นมันก็ทำให้หล่อนยืนนิ่งขยับตัวไม่ได้ เนื้อตัวร้อนผ่าวราวกับจับไข้ขึ้นมาอย่างประหลาด หัวใจเต้นรุนแรงที่สุดในชีวิต

ผู้ชายคนนี้แสนอันตรายต่อหัวใจและร่างกายของหล่อนเหลือเกิน...

หล่อนไม่อยากเจอเขาอีก ไม่อยากเห็นใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ตินั่นอีก และที่สำคัญที่สุดก็คือไม่อยากสบตากับสายตาเพชฌฆาตนั้นอีกครั้ง

แต่ก็ไม่มีทางเลือก...