ตอนที่ 4
ราณีตื่นแต่เช้าและเห็นว่ากฤตินั่งอ่านหนังสือที่หน้าระเบียงบ้าน เขาอยู่ในชุดสูทภูมิฐานเหมือนกำลังเตรียมตัวไปทำงานทั้งที่เพิ่งผ่านงานสมรสเมื่อคืน
หญิงสาวพยายามเก็บความรู้สึกที่ยังเสียใจไว้ในส่วนลึก เธอคิดเสียว่าการอยู่ร่วมกับเขาถือเป็นประสบการณ์ชีวิตใหม่แม้ว่าแฟนพี่สาวจะแสดงออกว่าเขาไม่สนใจเธอก็ตาม เพราะเมื่อคืนเธอต้องนอนคนเดียวในห้องที่จัดเป็นเรือนหอ กฤตินอนอยู่อีกห้องติดกันซึ่งมีประตูเดินผ่านเข้าไปได้ เขาแสดงความห่างเหินชัดเจน ราณีคิดว่าเขาคงไม่ให้อภัยแต่เธอได้ตัดสินใจแล้วว่าถึงเขาเกลียดชังเธอขนาดไหนแต่เธอจะทำหน้าที่แทนพี่สาวอย่างดีที่สุด
“พี่กฤติตื่นนานแล้วเหรอคะ?”
หญิงสาวในชุดกระโปรงสีเรียบกล่าวขึ้น ชายหนุ่มเหลือบมองร่างบอบบางที่มายืนตรงหน้าแล้วเลื่อนสายตากลับไปดูหนังสือในมือต่อก่อนตอบสั้นๆ
“ตื่นนานแล้ว”
“พี่กฤติจะไปทำงานเหรอคะ?”
“คิดว่าจะไป”
“รันชงกาแฟให้นะคะ”
เขาไม่ตอบหากแต่ราณีถือว่ากฤติไม่ปฏิเสธ หญิงสาวรีบกลับเข้าไปในครัวก่อนกลับออกมาอีกครั้งพร้อมถาดใส่แก้วกาแฟและกาน้ำชา มีขนมชิ้นเล็ก ๆ สองชิ้น วางบนโต๊ะตรงหน้าร่างสูง ราณียังยืนมองเขาด้วยท่าทีสำรวม เธอยิ้มออกมาเมื่อกฤติยกแก้วกาแฟขึ้นจรดริมฝีปาก แต่แล้วปากอิ่มสวยที่กำลังคลี่ยิ้มกลับราบเรียบลงเมื่อจู่ ๆ เขาสาดกาแฟในแก้วออกไปนอกระเบียงและหันมาทำเสียงขุ่น
“นี่ชงกาแฟเป็นหรือเปล่า ทำไมมันจืดชืดอย่างนี้”
“มันไม่อร่อยเหรอคะพี่กฤติ รันกลับไปชงให้ใหม่นะคะ”
“ไม่ต้อง! พี่จะไปทำงาน”
“จะไม่ทานอะไรสักหน่อยเหรอคะ”
“อย่ามาจุ้นจ้านให้มากได้มั้ย!”
เขาแหวใส่ เกรี้ยวกราดจนคนฟังผงะนิ่ง กฤติขบกรามเสียงดัง
“ร้านกาแฟข้างนอกมีถมเถแถมยังชงอร่อยกว่านี้สักไม่รู้กี่เท่า ทีหลังถ้ารู้ว่าทำไม่ได้เรื่องก็ไม่ต้องทำ!”
พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โรงรถ ราณีน้ำตาไหลเมื่อได้ยินเสียงเขาสาร์ทรถดังกระหึ่มก่อนรถคันหรูจะแล่นออกจากรั้วบ้าน ร่างเล็กบอบบางเหลือบกลับไปมองแก้วกาแฟว่างเปล่าและจานที่ขนมยังไม่พร่อง เธอเก็บถาดแล้วเดินกลับเข้าครัวท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบเหงา หญิงสาววางถาดลงบนโต๊ะอาหารแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง ราณีตีบตัน พูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขี้น หรือเพราะเธอยังเด็กเกินไป แถมยังไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยและต้องมาเผชิญกับสถานการณ์อันกล้ำกลืนอย่างนี้
