บทที่ 1 ปฐมบทของชีวิตเด็กบ้านนอก
เรื่องราวที่กำลังจะแบ่งปันนี้คือชีวิตจริงของผู้เขียนเองที่ต้องการแบ่งปันประสบการณ์ที่พบเจอ และต้องการจะบอกกับทุกคนว่าบางครั้งคนเรานั้นเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ แต่กว่าผู้เขียนจะได้เกิดใหม่หรือเปลี่ยนเป็นคนใหม่มันก็ผ่านอะไรมามากมายเหลือเกิน ขอเริ่มเรื่องราวตั้งแต่จำความได้ก็แล้วกันนะคะ คิดซะว่าเข้ามาอ่านและเป็นกำลังให้ผู้เขียนก้าวผ่านทุกเรื่องราวต่างๆ และทุกเรื่องราวมันคืออดีตที่สอนให้รู้ว่า กว่าที่เราจะเข้าใจชีวิตหรือเข้าใจโลกและความรักนั้นมันช่างแสนสาหัส ผู้เขียน ขอใช้ชื่อนามปากกา ที่ไม่ใช่ชื่อจริงของบุคคลที่จะกล่าวถึงในเรื่องนี้นะคะ เพื่อที่จะได้ไม่ผิดต่อหลักการของผู้เขียนเองนะคะ
ตั้งแต่จำความได้ก็น่าจะเจ็ดแปดขวบได้มั่งคะ เพราะตอนนั้นจำได้ว่าที่บ้านพาไปเข้าเรียนที่โรงเรียนในหมู่บ้าน แต่เพราะอายุเกินเลยไม่ได้เรียนอนุบาลเหมือนเพื่อนๆ ได้เข้าเรียนชั้นป.1 เลย เพื่อนๆต่างแซว่าเพราะเราเป็นหลานกำนันหรือเปล่า ถึงได้สิทธิ์เข้าป.1เลย ซึ่งเพื่อนๆคนอื่นเขาต้องเรียนอนุบาลก่อน เราเลยสงสัยเลยไปถามตากับยายและทุกคนที่บ้าน
"ตาจ๋า ยายจ๋า ทำไมเพื่อนๆถึงว่าหนูเป็นเด็กเส้นหละคะ แล้วมันคืออะไรทุกคนว่าหนูกันหมดเลย"
"หลานตาอย่าไปคิดมากเรื่องนี้ มันไม่ใช่อย่างที่เพื่อนๆหรือคนอื่นเขาว่าหรอกนะหลาน "
"ใช่จ๊ะ อย่างที่ตาเราว่านั้นแหละ คุณครูเขาบอกว่าหลานยายอายุเกินเกณฑ์ที่ต้องเรียนอนุบาลแล้ว เขาเลยให้หลานเรียนป.1เลยยังไงหละจ๊ะ "
"คะ ยาย แล้วที่เพื่อนๆว่าหนูไม่มีพ่อไม่มีแม่ บอกว่าเกิดมาจากกระบอกไม่ไผ่ที่หนูชอบไปขุดกับตาบ่อยๆ พวกเขาว่าหนูไม่มีพ่อกับแม่ใช่ไหมคะ"
"หลานตา เราก็ชอบคิดมากตามคำพูดไร้สาระจริงๆเลยนะ ถ้าไม่มีพ่อแม่แล้วจะมีหลานได้ยังไงหละ พ่อกับแม่เราเขาไปทำงานที่กรุงเทพไกลๆเลยหละ พอเขาทำงานได้เงินเขาก้จะส่งเงินมาให้พวกเราซื้อของกินให้หลานยังไงหละ ที่นี้หลานตาจะเลิกถามเรื่องพวกนี้ได้หรือยังยายเขาทำอาหารเสร็จแล้ว พวกเราไปกินข้าวกันดีกว่า"
"คะตา หิวพอดีเลย ตาช่วยสอนหนูเขียนหนังสือที่คุณครูเขาให้ทำได้ไหมคะตา"
"ได้สิ เดี่ยวตาสอนเอง ว่าแต่เยอะไหมหลานเรียนทันเพื่อนๆใช่ไหม "
"คะ ตา"
ตอนเด็กๆฉันได้ฉายาว่า เด็กที่พ่อไม่แม่ไม่รักเกิดจากกระบอกไม่ไผ่ เลยทำให้ฉันแก่นแก้วหรือเปล่านะ เพราะช่วงประถมใครที่ว่าฉันก็ว่าตอบ ใครแกล้งฉันฉันก็แกล้งคืนชนิดที่เคยทำให้เพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายร้องให้ ไปฟ้องครูและพ่อแม่ของเขา พราะว่าโดนฉันแกล้งพอโดนเรียกไปสอบถาม ฉันก็บอกทุกคนไปว่าเพราะเขาว่าฉันก่อนและแกล้งฉันก่อน พอฉันเอาคืนเขาก็ร้องให้กลัวในสิ่งที่ฉันโยนใส่เขานั้นก็คือนอนบงตัวสีเขียวมีขน ที่ถ้าโดนตัวมันจะขัน สมัยประถมเป็นช่วงเวลาที่สนุกๆแบบเด็กๆ ได้เล่นกับเพื่อนๆทั้งผู้ชายผู้หญิง เล่น เป่ากบ ดีดลูกแก้ว ยิ่งลูกกะพ้วน ม้าก้านกล้วย โดดย่าง หมากเก็บ เดินบนกระลามะพร้าว ตุ็กตาจากลูกตาล ว่าวที่ตาทำเองจากไม่ไผ่ ตุ็กตาจากใบตอง จากกระดาษ ซึ่งการละเล่นของฉันต่างจากสมัยลูกแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้ เพราะทุกวันนี้ไม่ค่อยมีใครเขาเล่นแบบสมัยของฉันแล้วซึ่งมันก็นานเป็นสี่สิบปีเลยนี้นะ นี้ฉันย้อนเวลากลับไปตอนเด็กๆ ฉันที่เกิดมาจากความรักแบบที่พ่อมแม่เองก็ยังเด็ก และพวกท่านก็เลิดกันเพราะพ่อของฉันเจ้าชู้พาสาวมานอนที่ห้อง ทั้งๆที่มีแม่และฉันและน้องที่อยู่ในท้องแม่ ทำให้แม่ตัดสินใจพาฉันไปอยู่กับตายายทที่ต่างจังหวัด พ่อก็ตามมาง้อแม่พอดีกันได้สักพักพ่อก็ออกหลายเหมือนเดิม จนแม่คลอดน้องชายก็ตัดขาดกับพ่อถาวร แบบว่าหนีพ่อและห้ามไม่ให้พ่อมาหาพวกเราพี่น้องที่บ้านเด็ดขาด เพราะทุกคนที่บ้านต่างกีดกันและไม่ต้อนรับพ่ออีกต่อไป ช่วงนั้นน่าจะเป็นช่วงโรคปวดบวมหรือโรคขาดสารอาหารระบาดมั่ง เลยทำให้เกิดเเรื่องไม่คาดฝันกับครอบครัวของฉัน ที่ตอนนั้นฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าน้องชายเสียชีวิต เพิ่งมารู้ตอนป.2ป.3ได้มั่งเพราะที่บ้านจะไปวัดทำบุญให้น้องทุกปี
