บท
ตั้งค่า

มีแต่ความคิดถึง 2

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูนั่นเองที่ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียง ขยับตัวอย่างเกียจคร้าน

“เอิง ตื่นหรือยัง นี่ใกล้เที่ยงแล้วนะ ลงไปกินข้าวกันเถอะ” เสียงของอารียาดังอยู่หน้าห้องนอน

“เออ ตื่นแล้ว ขอเข้าห้องน้ำก่อน แล้วจะลงไป” เธอตะโกนตอบ แล้วเดินเอื่อยๆ เข้าห้องน้ำ

ใช้เวลาจัดการธุระส่วนตัวอยู่เพียงสิบห้านาทีเท่านั้นอรองค์ก็ออกจากห้อง ลงไปชั้นล่างเจอสาวชื่อวิไลกำลังเก็บกวาดห้องโถงอยู่พอดี

“คุณอินกับคุณอิ้งอยู่ในห้องกินข้าวค่ะ”

“ค่ะ” อรองค์รับคำ แล้วเดินตรงไปยังห้องกินข้าว ซึ่งอยู่ในโซนใกล้ครัว

“อ้าว มาๆ กินข้าวกัน”

เมื่อโผล่หน้าเข้าไปอินทุอรก็กวักมือให้มานั่งข้างๆ

“ขอโทษด้วยค่ะ เอิงตื่นสายมาก”

“ไม่ต้องขอโทษหรอก ป้าเข้าใจ แปลกที่แปลกทาง คงนอนไม่หลับสิท่า”

“ค่ะ กว่าจะหลับก็...อือ เกือบเช้า”

“ไม่เป็นไรหรอก นานๆ ไปเดี๋ยวก็ชินไปเอง แต่เราต้องเข้มแข็งนะ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”

“ค่ะ เอิงจะเข้มแข็ง และปรับตัวให้ได้ค่ะ”

“งั้นก็กินเถอะ จะได้ไปช้อปกัน” อารียาพูดแล้ว ตักอาหารใส่จานตัวเอง

“ช้อปที่ไหน”

“แม่จะพาเราสองคนไปเดินห้าง เธอน่ะต้องซื้อเสื้อผ้าเพิ่ม และเปลี่ยนแนวการแต่งตัวดีไหม”

เพราะอรองค์ชอบแต่งตัวสบายๆ ใส่กางเกงขาสั้นและเสื้อยืดตัวใหญ่เหมือนเด็กผู้ชาย แถมไว้ผมสั้นเคลียหู ยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่

โอ๊ย แล้วยังฝันจะเป็นเจ้าสาวของอาวิณอีก

ทอมบอยขนาดนี้

“ก็ฉันชอบแต่งแบบนี้” อรองค์บอก

“แกจะมาแต่งตัวเหมือนพร้อมจะไปปลูกผัก หรือปีนต้นไม้ วิ่งเล่นทโมนเหมือนอยู่ที่ไร่ไม่ได้นะ มาอยู่ในเมืองใหญ่ก็ต้องตามแฟชั่นบ้าง”

“ยัยอิ้งยุ่งเรื่องแต่งตัวของเอิงทำไม” อินทุอรดุลูกสาว เพราะของแบบนี้มันสไตล์ใครสไตล์มัน

“ก็อยากให้ทันสมัยไงคะแม่ ที่สำคัญเสียดายหน้าสวยๆ ถ้าไว้ผมยาวหน้าจะสวยหวานมากเลยนะ”

“อือ น่าสน เปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างก็ดีนะ แต่ฉันไม่ชอบใส่กระโปรงเหมือนแกนะ” ถ้าเธอน่ารักขึ้น เผื่ออาวิณจะรักเธอบ้าง

“กางเกงทันสมัย น่ารักๆ มีตั้งเยอะแยะ เสื้อยืดโอเวอร์ไซซ์ลายน่ารักๆ ก็มีถมเถ ถ้าแกไม่อยากเปลี่ยนสไตล์ แต่หาแนวใกล้เคียงสไตล์เดิมก็ได้”

“อือ ก็ดี แต่ทรงผม คงอีกนานกว่าจะยาว”

“ไม่เป็นไร แค่เก็บให้เข้าทรงกว่านี้ก็น่ารักแล้ว”

เมื่อกินข้าวอิ่มแล้ว อินทุอรจึงพาทั้งสองไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก

นอกจากต้องปรับตัวกับบ้านหลังใหม่แล้ว ซึ่งโชคดีที่เธอรู้จักมักคุ้นกับคุณป้าอินทุอรกับอารียามานานแล้ว มันจึงไม่มีปัญหา ถ้าจะมีก็คือเธอยังคิดถึงไร่ภูวิณและผู้คนที่นั่น โดยเฉพาะเจ้าของไร่ แต่ตอนนี้เขากำลังคลั่งรักอยู่กับมะลิ ยังไม่กลับจากไปเที่ยว ตามรายงานของคำแพง พี่เลี้ยงสาวคนสนิทที่อรองค์พูดคุยติดต่อไม่ได้ขาด ส่วนวสุนั้นเธอจะพูดคุยเรื่องเพื่อนๆ มากกว่า

คำแพงยังบอกอีกว่ามะลินั้นเป็นญาติห่างๆ ของกำนันประโยชน์ ซึ่งเธอเคยได้ยินภูวิณคุยกับคุณย่าพิสมัยว่า สงสัยกำนันประโยชน์อยู่เบื้องหลังการตายของพ่อเขากับพ่อของเธอ

แล้วทำไมอาวิณไปยุ่งกับเครือญาติของกำนันประโยชน์

อรองค์ไม่เข้าใจภูวิณจริงๆ

หรือความรักเข้าตา จนมองข้ามเรื่องที่มะลิเป็นญาติของกำนันประโยชน์!

สำหรับเธอ การตายของบุคคลทั้งสองสำคัญกับชีวิตมาก ตั้งใจไว้แล้วว่าหากมีโอกาสแก้แค้น เธอจะไม่ลังเล แม้คำสอนของคุณย่าจะบอกเสมอว่า ‘เวรระงับด้วยการไม่จองเวร’ แต่เธอก็ปัดความคิดแก้แค้นออกจากหัวไม่ได้

การปรับตัวในโรงเรียนแห่งใหม่ มันก็ไม่ง่ายสำหรับอรองค์ เพราะเพื่อนใหม่ก็ไม่ได้น่ารักทุกคน แต่ยังโชคดีที่ได้เรียนห้องเดียวกับอารียา ไม่หัวเดียวกระเทียมลีบให้เพื่อนใหม่กลั่นแกล้งเพียงลำพัง

ซึ่งหัวโจกนั้นก็คือนิรชา หรือยัยน้อยหน่าตัวแสบ มีลูกน้องไว้รองมือรองเท้าอยู่สองคน คือเหมียวกับกวาง

อรองค์โดนรับน้องจากน้อยหน่า ด้วยการถูกอีกฝ่ายแกล้งเลื่อนเก้าอี้ออก ขณะที่เธอกำลังจะนั่ง จึงก้นกระแทกพื้นให้เจ็บก้นกบพอสมควร ท่ามกล่างเสียงหัวเราะของเดอะแก๊ง ขณะเดียวกันเพื่อนใหม่อีกหลายคนก็มองเห็นอย่างเห็นใจ และตำหนิน้อยหน่า

“น้อยหน่า อย่าแกล้งเพื่อนสิ” มิ้นท์ หรือมัทนา หัวหน้าห้องที่ดูแก่เรียน และเคร่งครัดวินัยหันไปตำหนิน้อยหน่า

“ต้อนรับเด็กใหม่บ้างสิ และนี่เอาไป ของขวัญ” น้อยหน่าโยนงูเขียวลงบนตักของอรองค์ ผู้หญิงในห้อง รวมทั้งอารียาร้องกรี๊ดลั่น แล้วพากันไปเกาะกลุ่มมุมห้อง

ขณะคนที่ถูกแกล้งกลับหยิบงูจากตักขึ้นมาดู ก็ถึงรู้ว่ามันเป็นงูเขียวปลอม

“แน่จริงก็เอางูจริงมาเลยสิ” อรองค์ว่า แล้วโยนงูปลอมให้เจ้าของ พร้อมยิ้มหยันมุมปาก

เพื่อนๆ เลยโล่งใจ แล้วเดินมารุมตัวอรองค์ ถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“รู้ตั้งแต่แรกเหรอว่าเป็นงูปลอม”

“อือ”

“ถ้าเป็นงูจริง จะกลัวไหม”

“ก็ต้องรอให้คนจับงูจริงโยนใส่ก่อน ถึงจะรู้ว่ากลัวหรือเปล่า” เธอเคยจับงูจริง ที่ไม่มีพิษโยนใส่ผู้หญิงคนหนึ่งของภูวิณ อีกฝ่ายตกใจจนเป็นลม และเธอก็ถูกภูวิณกักบริเวณให้อยู่แต่ในเรือนหลังเล็กหนึ่งสัปดาห์

“จริงสิ แต่คงไม่มีใครกล้าจับงูจริงมาแกล้งคนอื่นหรอกมั้ง ฮ่าๆ”

ทุกคนพากันหัวเราะขบขัน ทำให้น้อยหน่ามองอย่างไม่พอใจ เพราะดูเหมือนเพื่อนๆ ในห้องจะชอบเด็กใหม่คนนี้มาก รวมทั้งไม้ หรือมัชกร เพื่อนร่วมห้องที่เธอชอบตั้งแต่มัธยมต้น อีกฝ่ายมอง

อรองค์อย่างสนใจ ปกติมัชกรแทบจะไม่เคยมองใครอย่างสนใจแบบนี้

วันๆ เอาแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือมากกว่าพูดคุยกับใครด้วยซ้ำ และนั่นทำให้น้อยหน่ายิ่งไม่ชอบเด็กใหม่

คอยดูนะจะแกล้งให้จนต้องลาออกจากโรงเรียนไปเลย!

:::::::::::::::::

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel