บท
ตั้งค่า

วงการบันเทิง

[กองถ่ายละคร]

หญิงสาวนางเอกคนดังยืนส่งยิ้มหวานให้กับเหล่านักข่าวที่เข้ามาสัมภาษณ์ระหว่างช่วงพักกอง วาลินคือนักแสดงหญิงผู้กวาดรางวัลมากมายจนนับไม่ถ้วนด้วยหน้าตาที่สะสวยกับฝีมือการแสดงไร้ที่ติ อีกทั้งกิริยามารยาทอ่อนหวานทำให้เป็นที่เอ็นดูของใครหลายๆ คน

“ช่วงนี้มีคนเห็นน้องลินกับคุณตรัยไปเที่ยวด้วยกันบ่อยมากเลยนะคะ แอบมีซัมติงกันหรือเปล่าคะ” นักข่าวสาวยื่นไมค์ถามเธอด้วยคำถามที่ดูเป็นการอยากรู้อยากเห็นเสียมากกว่า

“ไม่มีหรอกค่ะลินกับพี่ตรัยเป็นแค่พี่น้องในวงการกันเท่านั้นค่ะ” วาลินเอ่ยตอบด้วยคำพูดสุภาพ ใบหน้าสวยเปื้อนยิ้มจนพาให้ทุกคนหายสงสัยในสิ่งที่นักข่าวถาม

“แล้วน้องลินมีแอบคุยกับใครบ้างหรือเปล่าคะ” นักข่าวอีกคนถามพร้อมกับยื่นไมค์ส่งมาให้เธอ

“ตอนนี้ยังไม่มีหรอกค่ะ ลินขอโฟกัสเรื่องงานไปก่อนดีกว่าค่ะ” คำตอบสุดแสนจะนางเอกที่ไม่ว่าใครก็ตอบแบบนี้ทั้งนั้น วาลินปรายตามองทุกคนก่อนจะส่งยิ้มหวานให้อย่างอ่อนโยน

“พี่ๆ คะตอนนี้หมดเวลาพักแล้วขอพาน้องลินไปเตรียมตัวเข้ากองก่อนนะคะ” เสียงผู้จัดการที่ผู้เป็นแม่ส่งมาตามดูแลเธอทุกฝีก้าวเอ่ยขึ้นพร้อมกับดึงแขนวาลินให้กลับไปทำงาน

หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหมดแรง เธอเหนื่อยทั้งการแสดง เหนื่อยการตอบคำถามคนอื่นในเรื่องเดิมๆ เหนื่อยๆ เหนื่อยไปหมดแต่เธอทำอะไรไม่ได้

“วันนี้เสร็จงานแล้วลินขอกลับบ้านเลยนะคะพี่แจน”

“ไม่ได้ค่ะ วันนี้น้องลินมีนัดถ่ายแบบกับนิตยสารคัลเจนนะคะ” ผู้จัดการยกสมุดจดบันทึกตารางงานขึ้นมาเปิดพร้อมกับส่งให้เธอดู วาลินแทบอยากจะร้องไห้ ในแต่ละวันเธอได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง

ยิ่งเป็นคนดังยิ่งต้องอยู่ท่ามกลางจุดสนใจของคนอื่นและทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองเลย เธอต้องปั้นหน้าแสร้งยิ้มให้ทุกคนที่เข้ามาขอลายเซ็น ต้องทำหน้าสวยตลอดเวลาเมื่อมีคนขอถ่ายรูป เธอต้องตอบคำถามนักข่าวทุกวันจนไม่ได้พัก ต้องทำตัวอ่อนหวานตามความคาดหวังของคนอื่นเพราะเธอคือ...นางเอก

“เป็นอะไรลิน?” เสียงทุ้มนุ่มละมุนเอ่ยถามพร้อมส่งขวดน้ำให้เธอ

“เปล่าค่ะพี่ตรัย” เขาคือตรัยคุณพระเอกชื่อดังผู้ได้ฉายาสามีแห่งชาติและเขาเป็นเพื่อนในวงการเพียงคนเดียวที่เธอสามารถพูดคุยได้

ทั้งคู่สนิทกันจนถูกมองว่าแอบคบกันและมีกลุ่มแฟนคลับที่ตั้งให้เธอกับเขาเป็นคู่จิ้นกันโดยไม่ได้ถามเธอเลยสักคำ

“เปล่าแล้วทำไมทำหน้าแบบนั้น”

“ลินเหนื่อยค่ะ” วาลินทำหน้าเหนื่อยหน่าย ใครบอกว่าเป็นนักแสดงแล้วจะสบายทำงานนิดหน่อยก็ได้เงินมากมาย แต่หารู้ไหมว่าพวกเธอต้องแลกมันด้วยความเป็นตัวของตัวเองกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้

“นั่นสิ ถ้าย้อนเวลากลับไปพี่คงไม่มาเป็นดารา” ตรัยคุณเองก็ไม่ได้อยากจะเป็นดาราหรือนักแสดงอะไรทั้งนั้นแต่เพราะมีใครคนหนึ่งอยากให้เขาเป็น

“พี่ยังดีนะคะที่ย้อนเวลากลับไปแล้วยังเลือกได้แต่ลินนี่สิคะ เฮ้อ!” หญิงสาวหน้าสลดเธออิจฉาทุกคนที่สามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้แต่เธอไม่มีโอกาสเลือกแม้แต่อนาคตของตัวเอง

ตั้งแต่เด็กเธอถูกบงการชีวิตให้ทำตามสิ่งที่ผู้เป็นแม่วางไว้ให้แม้จะไม่อยากทำแต่ก็ต้องจำยอม เธอต้องเรียนการแสดงตั้งแต่แปดขวบ ต้องเข้าคอร์สมารยาทตั้งแต่จำความได้ เธอไม่เคยได้ใช้ชีวิตตามแบบที่ต้องการเลยสักครั้ง

“พี่เป็นกำลังใจให้นะ”

“ขอบคุณนะคะ พี่เองก็ด้วยนะคะ” วาลินแสร้งยิ้มร่าเริงขึ้นมาอีกครั้งทั้งที่ร่างกายอยากพักแต่เธอก็พักไม่ได้

“วงการบันเทิงก็แบบนี้แหละ พวกเราต้องอยู่ท่ามกลางสายตาของคนมากมาย เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องยิ้ม” ตรัยคุณถอนหายใจเมื่อนึกถึงเวลาที่เหนื่อยแต่ก็ยังต้องตอบคำถามสื่อ ถึงจะอยากโมโหกับคำถามมากแค่ไหนแต่ความเป็นจริงทำได้เพียงแสร้งยิ้มแล้วตอบให้เป็นที่พอใจของทุกคนมากที่สุด

“วงการบันเทิง น่าขำนะคะ” วงการบันเทิงก็คือวงการบันเทิง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทุกวันนี้ในชีวิตของเธอมีอะไรที่เป็นจริงบ้างเพราะถูกตีหน้าคำว่าดาราดังเธอต้องเพอร์เฟกต์ตลอดเวลา

“ไม่เอาๆ อย่าทำแบบนี้เดี๋ยวพวกนักข่าวก็หาว่าทะเลาะกับพี่เอาไปทำข่าวกันมั่วอีก” มือหนาลูบผมของเธออย่างแผ่วเบา ตรัยคุณเป็นเหมือนพี่ชายที่เธอเคารพเขาดูแลเธอดียิ่งกว่าคนในครอบครัวของเธอเสียอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel