บท
ตั้งค่า

ผู้ชายที่มีแต่ข่าวฉาว

[บ้านครอบครัววิจิตจินดา]

พรึ่บ! นิตยสารชื่อดังถูกวางบนโต๊ะอย่างแรงด้วยฝีมือของผู้เป็นแม่ที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อได้เห็นข่าวเรื่องผู้หญิงของลูกชาย

“อีกแล้วนะตาแสง!” เพียงขวัญคุณแม่คนสวยโมโหจนควันออกหูกับภาพลูกชายที่เด่นหราอยู่หน้านิตยสารชื่อดัง

“โธ่! แม่ครับสมัยนี้ใครเขาจะมาอ่านนิตยสารอีกล่ะครับ” อาทิตย์ทำเป็นกลบเกลื่อน

“อย่ามาทำเป็นเล่นนะตาแสง! แม่ไม่ชอบนะที่ลูกเป็นแบบนี้” ผู้เป็นแม่ชี้หน้าข่าวที่มีรูปลูกชายกับนางแบบสาวกำลังนัวเนียกันแม้ในภาพจะไม่เห็นอะไรมากกว่านี้แต่รู้ดีว่าคนอย่างอาทิตย์ไม่มีคำว่าหยุดแค่นั้น

“นักข่าวก็เขียนข่าวไปเรื่อยแหละครับแม่ เดี๋ยวคนก็ลืม” อาทิตย์ยังคงใจเย็นเพราะนางแบบที่มีอะไรด้วยเมื่อคืนไม่ได้มีชื่อเสียงมากนักไม่นานคนก็ลืมเลือนไปเหมือนทุกที

“แกจะเป็นแบบนี้ตลอดไปไม่ได้นะตาแสง!” เพียงขวัญเหลืออดเต็มทนกับความเจ้าชู้ของลูกชายที่ไม่ว่าจะดุด่าแค่ไหนไม่เคยจะหลาบจำเสียที

“แต่ผมก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่ครับแม่ อีกอย่างผมกับผู้หญิงพวกนั้นเจอกันแค่ครั้งเดียวไม่มีพลาดหรอกครับ” อาทิตย์ทำเป็นไม่ทุกข์ร้อนเพราะเขามั่นใจว่าตัวเองป้องกันเป็นอย่างดีไม่มีคำว่าพลาดแน่นอนทั้งโรครวมถึงเด็กด้วย

“เฮ้อ! ฉันปวดหัว” ผู้เป็นแม่ทรุดนั่งกุมขมับโดยมีสามีอย่างดนัทช่วยพยุง

“เอาน่าขวัญยังไงลูกก็โตแล้ว แสงมันคงคิดได้เองสักวัน” ผู้เป็นพ่อช่วยแก้ต่างให้ลูกชายแต่กลับโดนสายตาดุๆ ของภรรยามองตาเขียวจนไม่กล้าเอ่ยคำใดต่อ

“พี่แดนก็ให้ท้ายลูกอยู่เรื่อยนั่นแหละค่ะ ตาแสงถึงได้มีนิสัยแบบนี้ไงคะ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ” เพียงขวัญแว้ดเสียงใส่ผู้เป็นสามีที่อดีตไม่ได้ต่างจากที่ลูกชายเป็นตอนนี้เสียเท่าไหร่

“แต่ตอนนี้พี่เลิกหมดแล้วนะ พี่มีแค่ขวัญคนเดียวนะครับ” ดนัทกลายเป็นสามีที่ยอมภรรยาอย่างเพียงขวัญทุกอย่างตั้งแต่วันที่เธอเซ็นใบหย่าให้เขาวันนั้นทำให้เขารู้เลยว่าไม่มีเธอเขาอยู่ไม่ได้

“ค่ะ!” คุณแม่ตอบกลับแค่น้ำเสียงที่แข็งกระด้าง กว่าสามีเธอจะรู้ตัวก็เกือบจะสายไปแล้ว หลังจากนั้นมาเขากลายเป็นสามีที่แสนดีของเธอผิดกับวันแรกที่แต่งงานกันลิบลับ

“ผมไปทำงานก่อนนะครับแม่” อาทิตย์ลุกขึ้นจากโต๊ะเพราะทนเห็นความหวานของพ่อกับแม่ไม่ไหว ถึงพวกท่านอายุจะแตะเลขหกในไม่ช้าแต่ก็ยังรักกันเหมือนเดิม ต่อให้เวลาผ่านไปหลายปีทั้งคู่ก็ยังแสดงความหวานจนเขารู้สึกอิจฉาแต่เขาไม่คิดจะมีความรักกับใครจริงจัง เพราะเขาเป็นคนขี้เบื่อและอยากใช้ชีวิตอิสระต่อไป

[กองถ่ายละคร]

วาลินนั่งหลับตาเพื่อให้ช่างแต่งหน้าละเลงสีสันบนใบหน้าของเธอได้เต็มที่ ถึงเมื่อคืนจะได้เห็น ได้ยินเรื่องอะไรมาวันนี้เธอต้องเต็มที่และโฟกัสแค่กับงานเท่านั้น

“นี่เจ๊! เห็นข่าวยัง” ช่างทำผมขาเมาท์ประจำกองถ่ายเริ่มเกริ่นเรื่องที่ตั้งใจจะพูด

“อะไรคะคุณน้อง” ช่างแต่งหน้าที่กำลังแต่งหน้าให้วาลินรีบถามกลับด้วยความอยากรู้

“ก็ข่าวของคุณแสงนักธุรกิจตระกูลวิจิตจินดาไงคะ” คำกล่าวของช่างทำผมทำให้วาลินเริ่มหูผึ่งเงี่ยหูฟังอย่างแนบเนียน

“อีกแล้วเหรอคะเนี่ย” ไม่มีความตกใจแต่อย่างใดมีแต่คำว่าอีกแล้วเหรอ ดูท่าแล้วเขาคงจะขยันทำข่าวให้ตัวเองเหมือนที่ผู้จัดการของเธอบอกจริงๆ

“อีกแล้วค่ะเจ๊ คราวนี้กลางงานเปิดตัวสินค้าในโรงแรมพาราไดมอนเลยนะคะ”

“กรี๊ด! แรงมากค่ะคุณน้องที่สาธารณะก็ไม่เว้นเหรอคะเนี่ย” สองสาวกำลังคุยกันออกรสชาติโดยมีวาลินได้ยินทุกอย่างแต่ก็ยังทำนั่งหลับตาไม่สนใจ

“ค่ะเจ๊คราวนี้กับนางแบบสาวที่ชื่อจูนน่ะค่ะ รายนั้นคงอยากจะเป็นข่าวด้วยแหละค่ะถึงได้เข้าหาแบบนั้น”

“จริงนะคะ เห็นส่วนใหญ่คนที่มีข่าวกับคุณแสงก็มีชื่อเสียงขึ้นมาชั่วข้ามคืน” ทั้งคู่ยังคงคุยกันโดยลืมไปว่ามีวาลินอยู่อีกคน

“แต่เป็นชื่อเสียงเรื่องเสียๆ แบบนั้นก็ไม่ไหวไหมคะเจ๊ ข่าวฉาวนะคะดังได้ไม่นานก็ดับแล้วค่ะ”

“จริงค่ะคุณน้อง แต่ว่าคุณแสงกับคุณตรัยเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนี่ใช่ไหมคะ” ช่างแต่งหน้าที่พอรู้มาบ้างแต่ไม่รู้มากเท่าช่างทำผมที่เป็นสายสืบประจำกอง

“ใช่ค่ะ เห็นว่าแม่ของคุณตรัยเป็นน้องสาวแท้ๆ ของพ่อคุณแสงนะคะแต่พอแต่งงานก็เปลี่ยนไปใช้นามสกุลพานิชหัสดีน่ะค่ะ” วาลินนั่งฟังแล้วอยากลุกขึ้นปรบมือให้กับสิ่งที่ช่างทำผมพูด รู้เยอะยิ่งกว่าทะเบียนราษฎร์เสียอีกแบบนี้แฟนคลับตัวยงยังทำไม่ได้เสียด้วยซ้ำ

“ครอบครัวนี้เขาให้ลูกๆ กินอะไรกันคะเนี่ยทำไมหล่อทั้งคู่เลย”

“นั่นสิคะ หล่อคนละแบบแถมเรื่องความเจ้าชู้ก็ต่างกันสุดๆ คุณตรัยเปรียบดั่งเทพบุตรจุติลงมาเกิดส่วนคุณแสงเหมือนเสือร้ายออกขย้ำเหยื่อแต่ต้องเป็นเสือที่แซ่บมากๆ แน่เลยค่ะ” ช่างทำผมพูดถึงสองหนุ่มที่ความหล่อกินกันไม่ขาดแต่ถ้าเรื่องนิสัยอย่างไรตรัยคุณก็นำโด่งถึงขั้นได้ชื่อสามีแห่งชาติ ทั้งอบอุ่น ใจดีราวกับเทวดาประทานพรให้มาเกิด

“พี่คะ เติมปากให้ลินหน่อยได้ไหมคะ” วาลินเอ่ยขึ้นหลังจากที่นั่งฟังสองขาเมาท์คุยกันอยู่นาน

“ได้เลยค่ะน้องลิน” ช่างแต่งหน้ากลับมาทำงานของตัวเองต่อส่วนช่างทำผมยังคงเดินไปเมาท์กับทีมงานคนอื่นๆ

ตืด~ ตืด~ เสียงโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดดังขึ้นทำให้เจ้าของเครื่องอย่างตรัยคุณรีบรับสายทันที

“ครับพี่แสง” คนที่โทรมาไม่ใช่ใครที่ไหนไกลแต่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาเอง

[พ่อให้ฉันโทรมาเตือนแกเรื่องงานครบรอบวันตายของคุณย่า]

“ครับๆ ฝากบอกลุงแดนด้วยว่าผมไม่ลืมแน่นอนครับ” ตรัยคุณรีบตอบกลับ เขาจะลืมได้อย่างไรกับวันครบรอบวันที่จากไปของผู้เป็นย่า ปู่และย่าของพวกเขาจากไปด้วยโรคชราพร้อมทั้งทิ้งมรดกให้ลูกชายลูกสาวรวมถึงหลานๆ อย่างพวกเขาด้วย

[โทรบอกแค่นี้แหละ ฉันเพิ่งจะโดนแม่บ่นหูชาตั้งแต่เช้า]

“ก็พี่เล่นทำเรื่องอีกแล้วไม่แปลกที่ป้าขวัญจะบ่นนี่ครับ” ทั้งสองคนค่อนข้างสนิทกันเพราะโตมาด้วยกันถึงจะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันแต่ทุกวันหยุดพ่อแม่ของพวกเขามักจะนัดกินข้าวร่วมกันเสมอ

[ก็แกเสนอมาให้ฉันนี่ บอกมีสาวๆ ไปงานเยอะฉันก็ยอมไปแทน แต่ทำไมดันมีนักข่าวมาเจอได้วะ] คนในสายบ่นอุบอิบไม่สบอารมณ์ ไม่ใช่เพราะกลัวเป็นข่าวแต่เพราะไม่อยากโดนผู้เป็นแม่บ่นต่างหาก

“โธ่! พี่ครับนั่นมันงานเปิดตัวสินค้านะครับนักข่าวก็ต้องไปกันอยู่แล้ว โจ่งแจ้งขนาดนั้นไม่เป็นข่าวก็แปลกแล้วครับ”

[อุตส่าห์เลือกที่เหมาะๆ แล้วเชียวดันพลาดท่าให้นักข่าวจนได้] อาทิตย์บ่นไม่จริงจังนักเพราะเขาชินกับเรื่องพวกนี้ไปแล้ว ขนาดไม่ใช่ดารายังต้องอยู่ท่ามกลางสายตาผู้คนขนาดนี้ ถ้าได้เป็นดารามีหวังเขาดับตั้งแต่วันแรกที่เข้าวงการ

“ทีหลังก็มองหน้ามองหลังบ้างสิครับ เดี๋ยวผมจะซวยไปด้วยข้อหาเป็นญาติกับเพลย์บอยในคราบนักธุรกิจ” ตรัยคุณทำเอ่ยแซวฉายาที่คนอื่นพากันเรียกอาทิตย์

[ไอ้นี่! ฉันไม่ทำให้แกเดือดร้อนหรอกโว้ยไม่ต้องห่วง] ถึงเขาจะเป็นข่าวฉาวแค่ไหนแต่อาทิตย์ไม่เคยเอาชื่อของตรัยคุณไปอ้างแม้แต่ครั้งเดียวเพราะไม่อยากให้น้องชายเสียชื่อเสียง

“ขอบคุณที่ยังเป็นห่วงน้องชายคนนี้นะครับ ผมไปเข้ากองก่อนนะครับเจอกันวันงานคุณย่าครับพี่” ตรัยคุณวางสายก่อนจะกลับมานั่งทวนบทอีกครั้ง

“พี่ตรัยคะ” เสียงหวานของวาลินเรียกเขาทำให้ชายหนุ่มรีบหันมอง

“ว่าไงลิน” วาลินมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่ามีแค่เธอกับเขาสองคน

“ลินอยากเป็นข่าวกับคุณแสงค่ะ!” จู่ๆ คนตัวเล็กก็เอ่ยออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

“ลินว่าไงนะ?” ตรัยคุณนึกว่าตัวเองหูฝาดไปแล้ว วาลินเป็นอะไรถึงได้พูคคำนี้ออกมา

“ลินบอกว่าลินอยากมีข่าวกับคุณแสงค่ะ ยิ่งฉาวเท่าไหร่ยิ่งดี” วาลินยังคงพูดซ้ำเรื่องเดิมพร้อมกับเน้นย้ำจนชายหนุ่มที่ได้ยินถึงกับตาค้างด้วยความตกใจ

“ทำไมล่ะลิน เป็นข่าวกับพี่แสงไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะ”

“ค่ะลินรู้ เพราะงั้นลินถึงอยากเป็นข่าวกับเขาไงคะ” เธอแค่อยากหลุดพ้นจากการเป็นดาราที่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อครอบครัวที่คอยแต่จะเกาะเธอ วาลินคิดแค่ว่าถ้าเธอมีข่าวฉาววงการบันเทิงก็ต้องหันหลังให้แล้วเธอก็จะเป็นอิสระ แม้ช่วงแรกของการเป็นข่าวจะต้องรับมือกับคอมเมนต์มากมายก็ตาม

“สิ่งที่ลินจะทำพี่ไม่เห็นด้วยนะ” ตรัยคุณไม่เห็นด้วยเพราะรู้จักนิสัยของอาทิตย์ดีและเขาไม่รู้ว่าวาลินต้องการทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร

“ลินไม่ได้ถามความเห็นของพี่ตรัยค่ะ แต่ลินแค่อยากรู้ว่าลินจะเจอคุณแสงได้ที่ไหนบ้างคะ” วาลินแสดงสีหน้ามุ่งมั่น เด็ดเดี่ยวไม่เหลือคราบหญิงสาวผู้อ่อนแอจนตรัยคุณนึกหนักใจกับสิ่งที่เธอกำลังจะทำเพราะมันแลกกับอนาคตชื่อเสียงของเธอได้เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel