Ep.5
“มาดมัวแซลนิสาชล ผมต้องขอโทษแทนน้องชายของผมด้วยนะ คุณต้องการค่าเสียหายเท่าไหร่”
“เอากองไว้ตรงนั้นแหละ ฉันไม่ต้องการอะไรจากพวกคุณทั้งนั้น และอย่ามาเรียกฉันว่า มาดมัวแซล ฉันไม่ใช่เด็กสาวนะ ฉันยี่สิบสี่ปีแล้ว ด้วย” เธอเชิดหน้าไปอีกทาง กำลังตั้งท่าเตรียมหันหลังกลับแล้วเดินจากไป เธอไม่ต้องการสินไหมจากพี่ชายของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ไอ้บ้ากามไล่ปลํ้าผู้หญิง’
ความจริงเธอไม่ได้แจ้งความหรอก แต่เผอิญว่าตำรวจนายหนึ่งเข้า ไปช่วยเธอจากไอ้เจ้าบ้ากามนั้น ก็เลยได้มาที่สถานีตำรวจแห่งนี้ แล้วก็เจอเพื่อนที่เป็นตำรวจอยู่ที่นี่พอดี เลยได้คุยกัน จึงได้รู้ว่านายเอริคคู่กรณีของเธอเป็นลูกชาของผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในเมืองนีซ หากเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยง
...โชคดีที่เธอหนีเสือมาปะจระเข้และรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ต่อไป คงต้องระวังตัวเองให้มากกว่านี้อย่าไว้ใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะ ‘เพื่อนสนิท’ ที่คิดไม่ซื่อ...
...เธอโดนหลอก! และจะต้องเอาคืนให้ได้!...
“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเจ้าเอริคมันถึงหน้ามืดไล่ปลํ้าเธอได้ หน้าตาอย่างกับเด็กประถม หน้าอกก็อย่างกับกระดานแผ่นเรียบ รูปร่างรึก็ผอมบาง ถ้าสวยกว่านี้อวบกว่านี้ก็ว่าไปอย่าง”
“ไอ้... ไอ้ปากปีจอ มีน้องชายนิสัยตํ่าทรามยังไม่พอ ตนเองยังปากหมาอีก”
ด้วยความโกรธจัดจนควันออกหูที่โดนตำหนิด้วยถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจ ลูกผู้หญิงอย่างแรง ทำให้นิสาชลพ่นคำด่าออกไปแบบไม่กลัวเกรง แม้ว่าเขา จะเป็นลูกเต้าเหล่าใครก็ช่าง
“อืม ไม่สวยแต่ปากเก่ง นี่เช็คสำหรับค่าเสียหาย” เขายื่นกระดาษแผ่นบางให้เธอ แต่หญิงสาวไม่รับ
“ช่วยขยำมันแล้วเอายัดปากนายด้วย จะบอกให้นะเงินซื้อทุกอย่างไม่ได้หรอก”
“เธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ เงินซื้อได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งความรัก” ชั่ววูบหนึ่งเหมือนจะเห็นดวงตาคมสีเข้มเปล่งประกายวาววับน่ากลัวขึ้นมา แต่มันก็วูบหายไปแค่เสี้ยววินาทีโดยที่ใครก็ไม่ทันสังเกตเห็น
“นายนั่นแหละเข้าใจผิด อย่างน้อยความรักจากฉันคนหนึ่งละที่เงิน ซื้อไม่ได้”
“หึ แล้วฉันจะคอยดู มาดมัวแซลนิสาชล”
“บอกว่าอย่ามาเรียกฉันว่ามาดมัวแซลยังไงล่ะ หูแตกรึไง”
“นีซ เบาๆหน่อยสิ นี่สถานีตำรวจนะ อีกอย่างฉันว่าคุณโจฮานกับ คุณเอริคเป็นคนละคนกัน คุณโจฮานเขาเป็นคนดีมากนะ เธอควรเกรงใจเขา” เพื่อนที่เป็นตำรวจเตือนเพื่อนสาวด้วยความเกรงใจบุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้า พลางเหลือบตามองโจฮานด้วยสายตาขอโทษแทนเพื่อนสาว
“คนดีประสาอะไรพูดจาไม่รักษาน้ำใจคน คนดีประสาอะไรเอาเงินฟาดหัวคน คนดีประเภทนี้จะต้องเกรงใจทำไม” เธอมองเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างหยามเหยียด ทันได้เห็นว่าเขาสวมแหวนทองที่แกะสลักเป็น รูปมังกรอยู่ที่นิ้วชี้
‘ท่าจะเป็นคนที่ชอบออกคำสั่งด้วยล่ะสิ’ เธอเดาจากการที่เห็นเขาสวมแหวนที่นิ้วชี้
“นีซ!” แม็กเซสปรามนิสาชลดังขึ้นอีก
“ทำไมล่ะแม็ก คุณกลัวเขาเหรอ”
แม็กเซสไม่ตอบแต่ส่ายหน้าในความมั่นใจเกินร้อยของเพื่อนสาว
“เอ่อ เมอซิเออร์โจฮานขอรับ กระผมต้องขออภัยแทนยัยนีซด้วยนะขอรับ เธอเป็นคนปากจัดแบบนี้เองแหละ แต่จริงๆไม่มีอะไรหรอกครับ” เพราะไม่อยากให้นิสาชลมีเรื่องมีราวกับลูกชายของผู้ทรงอิทธิพล โดยเฉพาะกับโจฮาน ที่เวลาใจดีก็แสนดีแต่ถ้าได้โมโหขึ้นมา น้ำทะเลก็คงจะดับไฟอารมณ์ของเขาได้ยาก
“ไม่เป็นไร ผมถือว่าเป็นคำพูดของเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมก็ แล้วกัน” พูดจบร่างสูงสง่าก็เตรียมจะเดินจากไป แต่...
“เดี๋ยวสิ เมอซิเออร์โจฮาน”
เท้าที่กำลังจะถ้าวออกไปจากประตูเป็นต้องหยุดชะงักแล้วเจ้าของร่างสูงใหญ่ก็หันกลับมามองเจ้าของเสียงหวาน
โดยไม่คาดฝัน ร่างบางในชุดโค้ทตัวใหญ่ที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงราวกับไป ฟิดกับหมาบ้าที่ไหนมา ก็เดินเข้าไปเขย่งปลายเท้าสอดแขนเรียวขึ้นไปเกี่ยวลำคอแข็งแรงโน้มใบหน้าหล่อคมของชายหนุ่มตํ่าลงแล้วจูบเขานิ่งนาน มันเป็นจูบแบบเด็กๆ ที่ไม่ได้เอาลิ้นสอดเข้าไป ก่อนจะผละออก
“เธอกำลังทำอะไรสาวน้อย”
