Ep.4

ทว่าพอตกเป็นของเขาแค่สามเดือนเท่านั้น เมียของเขาก็มา อาละวาดถึงที่ จากนั้นเธอก็หันไปควงธัชเทพที่กำลังมีเรื่องระหองระแหงกับ คนที่เขากำลังคบหาดูใจซึ่งก็คือ ‘นิสาชล’ ภายนอกนางเอกสาวคือเพื่อน สนิท แต่ลึกๆในใจแล้วเธอแอบอิจฉานิสาชลมาโดยตลอด

ตอนแรกธัชเทพดูเหมือนจะมีใจให้กับเธอ แต่พอเอาเข้าจริงเขาก็ เลือกนิสาชล ทั้งๆที่ ‘ยัยนั่น’ ก็ไม่ได้มีใจให้เขาแล้ว เพราะนิสาชลใจเด็ดมาก เมื่อได้หันหลังให้ใครแล้ว ‘นาง’ จะไม่มีวันหันกลับไปอีก

ดังนั้นเมื่อจับได้ว่าธัชเทพเป็นคนโลเล เจ้าชู้ นางเอกสาวก็พร้อมที่จะสวมคอนเวิร์สจากเขาไปทันที

แต่เธอสิ... ต้องตกเป็นข่าวฉาว เพราะลูกเมียหลวงของไผทเล่นงาน ไม่พอ พวกนักข่าวที่เข้าข้างนิสาชลก็เขียนโจมตีว่าเธอเป็นมือที่สามที่ทำให้ ธัชเทพกับนิสาชลเลิกกันอีก มันบ้าชัดๆ

ด้วยความที่นิสาชลสนิทสนมกับเธอ ทั้งคู่จึงได้ตกลงจะมาเที่ยว ฝรั่งเศสด้วยกันหลังจากปิดกล้องละครเรื่องล่าสุด และนี่คือโอกาส แล้วเธอก็ ได้ใช้โอกาสนั้นกำจัดคู่แข่งอย่างนิสาชลไปแล้ว

ต่อจากนี้ไป ผู้หญิงอย่างเจนสุดา หากมาที่ฝรั่งเศสแล้วไม่ได้ดี กลับไป เธอก็จะยังไม่กลับไปเมืองไทยให้มีข่าวฉาวๆขึ้นมาอีก แต่ถ้ามีข่าว ออกมาว่า

‘เจนสุดา นางร้ายหมายเลขหนึ่ง กำลังจะประกาศหมั้นกับเจ้าพ่อ หนุ่มอภิมหาเศรษฐีแห่งนีซเร็วๆนี้... ’

เธอจะรีบบินกลับประเทศไทยทันที เพื่อกอบผู้ชื่อเสียงของตนเอง กลับคืนมา ด้วยการเป็นผู้หญิงของเอเลียสที่ผู้หญิงทั้งโลกจะต้องอิจฉา เพราะข่าวเศรษฐกิจที่ออกมา บอกว่าผู้ชายคนนี้ยังโสดสนิท หากใครได้ แต่งงานด้วยคงเป็นเจ้าสาวที่โชคดีที่สุด

‘สำหรับเธอ แค่ได้ออกงานกับเขาสักครั้ง ข่าวดีนี้ก็คงจะแพร่สะพัดไปทั่ว’

“เชิญค่ะมาดาม”

เจนสุดาหลุดออกจากภวังค์เมื่อสาวใช้มาเชิญเธอออกไปจากห้อง ของเอเลียส เพื่อไปพักผ่อนในห้องพักส่วนตัวชั่วราวของเธอ เธอหันมามองเขาแวบหนึ่ง แต่ชายหนุ่มก็ยังอยู่ในท่าเดิม หญิงสาวจึงจำใจเดินตามสาวใช้ ไปยังห้องของตนเอง

ตื๊ดๆ! ตึ๊ด ๆ!

พอคล้อยหลังเจนสุดาไม่กี่วินาที ก็มีสายเรียกเข้า

“ว่าไงไคซัส”

“เกิดเรื่องแล้วครับเจ้านาย ”

“มีอะไร ใครก่อเรื่องอะไรอีก”

“คุณเอริคครับเจ้านาย ตอนนี้ลูกจับใส่กรงรอเจ้านายไปประกันตัวอยู่ครับ”

เอเลียสส่ายหน้าอย่างระอาน้องชายต่างมารดาคนนี้เต็มทน

“ข้อหาอะไรอีกล่ะ ขับรถชนคนหรือเปล่า”

“เปล่าครับ เรื่องผู้หญิง”

“จ้อ ไม่ต้องอธิบายแล้ว ฉันพอจะรู้แล้วว่าเอริคโดนข้อหาอะไร จะ รีบไปเดี๋ยวนี้แหละ”

จบประโยคก็วางสาย ชายหนุ่มแต่งตัวลวกๆ และแค่หยิบเสื้อนอกมาสวมก็เป็นอันเสร็จ จากนั้นก็สั่งให้ไคซัสเอารถออก

เมื่อไปถึงโรงพัก เอเลียสก็เดินไปหาน้องชายที่กรงขังทันที

“ข้อหาทำอนาจารเด็กตํ่ากว่าสิบแปดอีกแล้วใช่ไหม”

“ไม่ใช่สิบแปดนะโจ หล่อนเกินสิบแปดแล้ว” เอริคเรียกเอเลียสว่า โจ ซึ่งมาจากชื่อเต็มว่า โจฮาน’ เสมอ และเขามาที่นี่โดยไม่สวมหน้ากาก

และมีเพียงเอริคและคนในครอบครัวของเขาเท่านั้นที่รู้ว่าเอเลียสมี อีกชื่อคือ ‘โจฮาน ชื่อนี้เป็นชื่อของนักธุรกิจหนุ่มที่'ทำงานด้านสว่างๆ ใครก็รู้จักดี’ แต่สำหรับชื่อ ‘เอเลียสเป็นชื่อที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตน’ ทุกคน รู้จักเขาแค'เพียงชื่อเท่านั้น นานๆทีเขาถึงจะออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณชนภายใต้หน้ากากาปีกค้างคาว

“หล่อนสวยมากนักหรือไง นายถึงได้ลงทุนขนาดนี้”

“หล่อนยังสด”

“ของสดมีตั้งมากตั้งมายมาให้นายเลือก ทำไมจะต้องหาเรื่องใส่ตัวด้วยเรื่องพรรค์นี้ด้วย”

“ก็หล่อนขัดขืน ทั้งที่...”

“พอๆแล้ว ไม่อยากเถียงกับนายแล้ว ฉันมาประกันตัวให้แล้วก็ไปซะ แล้วอย่าก่อเรื่องอีกล่ะ”

เอริคไปแล้ว เอเลียสจึงเดินไปหาคู่กรณีของน้องชาย แล้วก็ต้องส่าย หน้าอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ

‘ผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตามอมแมมเหมือนเด็กสิบสองขวบเนี่ยนะ ที่ทำให้เอริคหน้ามืดไล่ปล้ำ ไม่อยากจะเชื่อเลย’