บท
ตั้งค่า

4.ยอมจำนน

*** ทักทายคร้า ***

รัชชายิ้มแล้วจรดปลายปากกาลงไปอย่างไม่ลังเล พอเซ็นเสร็จทั้งสองใบก็วางปากกาลงบนมือบาง

จันทร์เจ้าก้มมองปากกาในมืออย่างไม่แน่ใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ไม่คิดว่าเรื่องที่เธอคิดว่าง่าย จบงานแล้วก็จบกันจะทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้

“เอาน่าคุณ เซ็นแล้วค่อยว่ากัน เห็นไหมแขกมองกันใหญ่แล้ว” รัชชากระซิบเบาๆ พอได้ยินกันสองคน

จันทร์เจ้าหันมองร่างสูงสง่าที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วตัดสินใจจรดปลายปากกาเซ็นชื่อลงบนเอกสารสำคัญ และในอนาคตจันทร์เจ้าไม่รู้หรอกว่าหลังจากนี้ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปชั่วนิรันดร์

เมื่อพิธีต่างๆ เสร็จสิ้นลงก็ได้ฤกษ์ส่งตัว คุณมณีและคุณประกอบพาโรมและปินปีเข้าไปที่ห้องหอซึ่งจัดเตรียมไว้ รัชชาและจันทร์เจ้าคลานเข่าเข้าไปกราบคนทั้งสี่และนั่งพับเพียบฟังคำอวยพรที่กลั่นออกจากใจของผู้ให้กำเนิดจนกระทั่งครบทุกคน และก่อนออกจากห้อง ปินปีมองลูกสะใภ้ด้วยสายตาอ่อนโยน

“ถึงแม่กับพ่อจะไม่รู้สาเหตุของการแต่งงานในครั้งนี้ แต่ก็ยินดีและดีใจมากที่สุดที่ได้หนูมาเป็นลูกสาวอีกคน”

จันทร์เจ้าพนมมือไหว้อย่างขอบคุณ ดวงตาคมสวยคลอไปด้วยน้ำตา ปินปียิ้มให้เข้าไปสวมกอดและลูบแผ่นหลังบางอย่างปลอบประโลม

“ขอบคุณนะคะ และจันทร์ต้องกราบขอโทษที่ทำให้ต้องวุ่นวายไปด้วย”

ปินปีคลายอ้อมแขนออกและดันร่างเล็กออกห่างนิดหนึ่ง

“ลูกชายของแม่อาจจะเอาแต่ใจและดื้อไปสักนิด แต่แม่เชื่อว่าความน่ารักและจิตใจที่ดีงามของหนูจะทำให้เขาไปไหนไม่รอด” ประโยคท้ายปินปีกระซิบข้างหูลูกสะใภ้เบาๆ พอได้ยินกันสองคน ทำเอาจันทร์เจ้ารู้สึกผิดมากขึ้นไปอีกที่ไม่ได้บอกความจริงกับท่านทั้งสอง

คุณมณีและคุณประกอบรู้ว่าตระกูลวาเนอร์ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจบุตรสาวของตนก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ ก่อนจะพากันเดินออกจากห้องหอ ทิ้งให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่ด้วยกันตามลำพัง

“เอาล่ะคุณรัช หมดเวลาเล่นละครแล้ว เราต้องคุยกัน” จันทร์เจ้าลุกขึ้น

รัชชายิ้มกว้าง ยกมือถอดพวงมาลัยออกจากคอแล้วแกล้งเดินเฉียดเธอไปนั่งบนเตียง จันทร์เจ้าถอยไปยืนมองเขาอยู่กลางห้องเพื่อความปลอดภัย รัชชาถอดเสื้อนอกวางพาดไว้บนหัวเตียงอย่างใจเย็น จันทร์เจ้ามองร่างสูงแก้มแดงระเรื่อ

“ผมขออาบน้ำก่อนได้ไหม แล้วเราค่อยมาทบทวนเงื่อนไขและข้อตกลงใหม่ของเรา”

“แต่เราไม่ได้คุยกันถึงเรื่องข้อตกลงใหม่นะคะ เรามีแค่เงื่อนไขว่าคุณช่วยฉันแล้วฉันต้อง...เอ่อ นอนกับคุณครั้งเดียว” เธอบอกอย่างอายๆ เมื่อคิดถึงเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับเขาตั้งแต่แรกว่าจะเป็นของเขาเพียงครั้งเดียว แลกกับชื่อเสียงและหน้าตาของผู้ให้กำเนิด แต่ทุกอย่างดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว เพราะแทนที่เขาจะอยู่คุยกับเธอต่อ กลับเดินถือผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำหน้าตาเฉย โดยที่ไม่สนใจเธอสักนิด

จันทร์เจ้าเดินไปนั่งริมขอบเตียงพลางถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ ถ้าเขาไม่ยอมหย่าเธอจะจัดการกับชีวิตตัวเองอย่างไรต่อไป ชวนคนมาแต่งงานด้วยก็ไม่รู้จักดูให้ดี ได้เจ้าบ่าวมาเฟียมาอีกต่างหาก

เฮ้อ หญิงสาวถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำยังไง เพราะจะย้อนเวลากลับไปก็ไม่ได้

หลังจากแยกไปอาบน้ำอีกห้อง จันทร์เจ้าก็เดินเข้าไปนั่งรอรัชชาในห้องหอ สายตามองประตูห้องอาบน้ำด้วยใจเต้นระทึก พอประตูเปิดเธอก็สะดุ้งลุกขึ้น ตาคมโตมองร่างบึกบึนสวมเสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มยาวครึ่งเข่าเดินเช็ดผมออกมาจากห้องอาบน้ำ พอเห็นเธอก็ยิ้มบางๆ แล้วเดินไปจับมือเธอพาไปนั่งริมขอบเตียง

“เช็ดผมให้หน่อย” เขายัดผ้าขนหนูผืนเล็กใส่ในมือเธอ จันทร์เจ้าหน้าแดงแต่ก็แกล้งทำปั้นปึงกลบเกลื่อน

“หันหลังมาสิคะ”

“ต้องหันหน้าชนกันสิคุณ แบบนี้” ว่าแล้ววงแขนแข็งแรงก็รวบเอวบางเข้าไปชิดจนหน้าผากนูนชนกับปลายจมูกโด่ง ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นก้มหลบสายตาคม พานให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงระรัวและหวาดหวั่นในหัวใจ จมูกโด่งไม่ยอมหยุดแค่หน้าผากมน แต่ละเลื่อนไปตามพวงแก้มอิ่ม แล้วไปหยุดที่ริมฝีปากนุ่ม กดคลึงแผ่วเบาและบดขยี้แรงขึ้นเรื่อยๆ จนเธอเผลอครางออกมาอย่างวาบหวาม มือบางจับแขนเขาแน่นอย่างทำอะไรไม่ถูก ปล่อยให้เขาพรมจูบทั่วดวงหน้าตามอำเภอใจ

“อุ๊ย...” จันทร์เจ้าสะดุ้งสั่นไปทั้งตัวเมื่อมือหนาร้อนลูบไล้แผ่นหลังบาง เลื่อนไปตามสีข้าง แล้ววกขึ้นไปไล้เบาๆ ที่ทรวงอกอวบอิ่ม

“อย่าค่ะ ขอเวลาฉันหน่อยได้ไหมคะ” บอกเขาเสียงสั่น ยกมือดันไหล่หนาออกห่าง

รัชชาผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างขัดใจ แต่ก็ยอมถอนใบหน้าออก สายตาคมวับวาวอย่างพอใจอยู่ลึกๆ เมื่อรู้ว่าเจ้าสาวที่ได้มาโดยบังเอิญนั้นไม่ประสา แม้แต่จูบยังอาจจะไม่เคยด้วยซ้ำ

“นานแค่ไหน คุณอย่าลืมสิเงื่อนไขคุณคืออะไร ผมช่วยคุณ คุณตกลงจะอยู่กับผมทั้งคืน”

“แต่ฉันยังไม่พร้อม”

ริมฝีปากได้รูปกดลึกอย่างเอ็นดู มือไล้ไปบนแก้มนวลปลั่ง ดวงตาคมเข้มเป็นประกายวับวาว

“คุณไม่ยอมทำตามเงื่อนไข พรุ่งนี้ผมก็ไม่ยอมหย่าให้เหมือนกัน” เขาบอกเสียงเข้มเตรียมจะลุกขึ้นยืนแต่มือบางจับแขนเขาไว้ ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มอย่างถูกใจและก้มมองสบตาคมโตที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นฉายชัดออกมาให้เห็น

“ตกลงค่ะ และฉันหวังว่าคุณก็คงจะรักษาสัญญาเช่นกัน” เธอบอกเขาอย่างหวั่นๆ

รัชชายิ้ม จับมือบางไปกุมไว้แล้วนั่งลงที่เดิม

“ถ้าผมติดใจคุณขึ้นมาแล้วไม่ยอมหย่า คุณจะทำยังไง”

“ฉันรู้ว่าคุณไม่ทำหรอก เพราะคุณเองก็คงไม่ยอมให้ฉันเป็นห่วงรัดคอคุณเหมือนกัน”

รัชชายิ้มไม่ยอมตอบคำถามนั้น แต่คำตอบมีอยู่ในใจของเขาแล้วว่าจะจัดการกับห่วงแสนสวยและน่ารักอย่างเธอยังไง ปลายนิ้วแข็งแรงเลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อนอนสีหวาน แต่มือบางก็กำสาบเสื้อไว้แน่น

“ทำไม? หรือจะเปลี่ยนใจ ผมจะได้เปลี่ยนตาม”

“เอ่อ ปิดไฟก่อนได้ไหมคะ เปิดแค่ไฟหัวเตียงก็พอ”

รัชชายิ้ม ก้มลงไปจูบเธอผะแผ่วที่มุมปากแล้วเดินไปปิดสวิตช์ไฟ จันทร์เจ้าขยับตัวเมื่อร่างสูงเดินกลับมา

“คราวนี้คงไม่หาเรื่องถ่วงเวลาอะไรอีกนะคุณ เพราะผมจะไม่ยอมเสียเวลาอีกแล้ว” เขาบอกเสียงพร่า โน้มไปพรมจูบทั่วใบหน้านวลเนียน ก่อนจะค่อยๆ ดันร่างบอบบางนอนราบกับที่นอนนุ่มที่โรยด้วยกลีบกุหลาบหอมอบอวลไปทั่วห้อง

**** ****

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel