รับข้อเสนอ
“หรือบางทีคุณริชาร์ดก็อยากให้คุณไปนอนคุก”
“ไม่ๆ ไม่ค่ะ กรุณาด้วยนะคะ ฉันไม่ยังไม่อยากติดคุก ให้ฉันทำงานก็ได้นะคะ ได้ข่าวว่าขาดช่างไม่ใช่เหรอคะ ฉันทำงานนี้ได้นะคะ” ก่อนขึ้นเรือเธอลองหาตำแหน่งงานในเรือมาก่อนแล้ว และก็ขาดช่างหลายอัตราเพียงแค่ต้องการช่างผู้ชายเธอเลยไม่ตรงกับคุณสมบัติข้อนี้
ริชาร์ดกุมขมับทันทีเธอมาโกงเขา ยังกล้ามาขอทำงานแลกแล้วเขาจะไว้ใจได้อย่างไร แต่แผนกช่างคนไม่พออย่างหนักได้มาไม่ถึงครึ่งที่รับสมัครเลยด้วยซ้ำ กว่าเรือจะเทียบท่าก็อีกสี่วัน ซึ่งจุดที่เทียบท่ามีช่างขึ้นมาเพิ่มแต่ในระหว่างนี้ก็ต้องการคนงานเพิ่มเช่นกัน เมื่อสองวันก่อนห้องเครื่องมีปัญหาและช่างไม่พอ เมื่อคิดทบทวนดูแล้วการรับเธอเพิ่มอีกคน อาจจะช่วยเบางานของส่วนช่างได้บ้าง
“คุณริชาร์ดตัดสินใจรับคุณเข้าทำงาน แต่...เราจะจับตาดูคุณอย่างใกล้ชิด”
“ขอบคุณมากค่ะ ฝากขอบคุณคุณริชาร์ดด้วยค่ะ เป็นเจ้านายที่ใจดีมีเมตตามาก” จะว่าเธอยกย่ออวยเขาเต็มที่ก็ได้ เพราะเธอไม่ต้องติดคุกแถมยังได้งานทำอีก
“คุณจะได้เงินเดือนในตำแหน่งช่าง ส่วนเงินที่คุณโกงไปจะริบคืนทั้งหมด”
“ตกลงค่ะ”
เธอไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ปานฟ้าต้องการเงินเพื่อเอาไปซื้ออิสรภาพจากแม่เลี้ยงของเธอ ที่เป็นหนี้ก้อนโตใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที นี่จึงเป็นสาเหตุที่เธอต้องเข้ามาโกงเกมเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ และเธอจะได้ไปให้พ้นๆ จากแม่เลี้ยงใจร้าย แต่ทว่าการที่เธอทำงานบนเรือพวกเจ้าหนี้ก็ตามไม่ได้ และแม่เลี้ยงของเธอก็ไม่สามารถติดตามมาได้เช่นกัน ฉะนั้นตราบใดที่เธอยังทำงานอยู่บนนี้เธอก็มีอิสระ ไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะมีเจ้าหนี้มาข่มขู่หรือไม่ เธอเสียดายอย่างเดียวคือบ้าน
เป็นบ้านที่พ่อกับแม่ของเธอเก็บเงินซื้อ มันคือสมบัติชิ้นเดียวที่เธอมี แต่หลังจากพ่อเสียบ้านก็ไม่ได้กลายเป็นของเธออีกต่อไป เพราะแม่เลี้ยงเอาโฉนดไปค้ำประกันกู้เงินนอกระบบมาจากหลายแห่ง และในโฉนดมันเป็นชื่อเธอพวกเจ้าหนี้ทั้งหลายเลยมาทวงที่เธอ ที่ผ่านมาปานฟ้าพยายามไกล่เกลี่ยและใช้หนี้ เพราะไม่อยากให้บ้านถูกยึด แต่ครั้งนี้คงต้องยอมเพราะเธอต้องทำงานที่นี่อีกหลายเดือน
“ถ้าคุณตุกติกแม้แต่น้อย คุณได้นอนคุกแน่ผมสัญญา”
“ฉันจะตั้งใจทำงานค่ะ และต้องขอโทษจริงๆ ในความผิดครั้งนี้” ปานฟ้ารู้สึกผิดจริงๆ แต่หากย้อนกลับไปได้เธอก็ทำมันอีกอยู่ดี เพราะมันเป็นทางเดียวที่ได้เงินเร็วมาก นี่หรือเปล่าที่เขาบอกกันว่า ‘รู้ว่าผิดก็ยังทำ’
“สตีฟ พาเธอไปที่พักและบอกสิ่งที่เธอต้องรู้เกี่ยวกับงาน” ริชาร์ดหันไปบอกเลขาคู่ใจ ฟังจากที่เธอสารภาพผิดน่าจะมีฝีมือเรื่องงานช่าง หวังว่าเขาคงคิดไม่ผิดที่รับเธอเข้าทำงาน
“ครับนาย”
เลขาหนุ่มรับคำแล้วเดินเข้าไปในห้องสอบสวน เพื่อพาปานฟ้าไปยังส่วนที่พักของแผนกงานช่าง เขาลองสังเกตเธอไปด้วย หน้าตาของเธอไม่เหมือนคนอเมริกันทั่วไป แถมตัวก็เล็กนิดเดียวดูแล้วไม่น่าจะรับมือกับงานช่างไหว แต่เอาเถอะเจ้านายรับมาแล้ว ขอแค่เธอไม่สร้างปัญหาให้ก็พอ
“เอ่อ คุณ..?”
“ผมสตีฟ เลขาของคุณริชาร์ด ผมจะพาคุณไปที่พัก ระหว่างนี้ก็แนะนำไปด้วยว่างานของคุณมีอะไรบ้าง” สตีฟแนะนำตัวบอกกล่าวระหว่างพาเดินไป
“ค่ะ คุณสตีฟ”
“คุณมีของส่วนตัวมาหรือเปล่า”
“มีแค่กระเป๋าใบเดียวค่ะ” เธอตอบพร้อมเดินไปหยิบกระเป๋าที่อยู่ตรงมุมห้อง กระเป๋าของเธอถูกตรวจค้นอย่างละเอียด และไม่พบเจอสิ่งที่เป็นอันตรายใดๆ เลยอนุญาตให้เธอนำติดออกมาด้วย
สตีฟประหลาดใจอยู่พอสมควร กว่าเรือจะเทียบท่าจอดพักก็อีกประมาณสองเดือน แล้วเธอมีของติดตัวมาแค่กระเป๋าใบเดียวเท่านั้น ซึ่งเขาตรวจค้นดูแล้วมีแค่เสื้อผ้าไม่กี่ชุด เธอช่างต่างจากผู้หญิงทั่วไปที่มักจะกังวลในเรื่องการแต่งกาย แต่มันก็ไม่ใช่งานของเขาที่จะต้องไปสงสัยหรือตั้งคำถามใดๆ เขามีแค่หน้าที่พาเธอไปส่งให้ถึงที่พัก
ซึ่งที่พักของฝ่ายงานช่างอยู่ที่ชั้นล่าง บริเวณโดยรอบของชั้นนี้เป็นส่วนของพนักงานทั้งหมด บนเรือมีส่วนของพนักงานกับแขกแยกกัน และบางโซนก็ไม่อนุญาตให้พนักงานเข้าถึงถ้าไม่ใช่พนักงานในหน่วยนั้นๆ อย่างเช่นพนักงานบริการจะเข้ามายุ่งกับส่วนของฝ่ายช่างไม่ได้ หรือฝ่ายช่างก็ไม่สามารถขึ้นไปเพ่นพ่านบนส่วนบริการได้ หากไม่ได้ขึ้นไปซ่อมบำรุงงาน
สตีฟพาเธอมายังด้านหน้าสุดของหัวเรือ ซึ่งเป็นที่พักของฝ่ายช่างที่พนักงานทั้งหมดเป็นผู้ชาย ดังนั้นโซนนี้มีเธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ถนัดออกไปอีกฝั่งเป็นส่วนพักของพนักงานบริการ โดยพนักงานบริการก็จะได้รับที่พักแตกต่างกันไปตามหน้าที่ ปานฟ้าไม่กลัวการทำงานกับผู้ชาย เพราะตอนเรียนเพื่อนเธอก็เป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ และเธอก็พอมีฝีมือเรื่องศิลปะป้องกันตัวอยู่บ้าง ฉะนั้นจึงคิดว่าสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้
“นี่ห้องของคุณ” ปานฟ้าได้ห้องที่อยู่ด้านนอกสุด อันที่จริงยังมีห้องว่างอีกมาก แต่ห้องที่เธอได้นั้นอยู่ห่างจากห้องที่มีเจ้าของมากพอสมควร
“ขอบคุณค่ะ ฉันเริ่มงานได้เลยไหมคะ” ไม่ใช่ว่าเธอกระตือรือร้นอยากทำงานใจจะขาด แต่กลัวเจ้าของเรือจะเปลี่ยนใจพาเธอจับเข้าตาราง
“วันนี้หัวหน้าช่างจะพาคุณไปเรียนรู้งานก่อน เริ่มงานจริงวันพรุ่งนี้”
“รับทราบค่ะ”
“ถ้างั้นผมขอตัวก่อน” เมื่อเขาทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ไม่มีเรื่องที่ต้องอยู่ต่อ สตีฟต้องกลับไปรายงานให้เจ้านายทราบ และหวังว่าเธอจะอยู่รอดปลอดภัยบนเรือนี้
เมื่อสตีฟเดินไปแล้วเธอจึงเปิดประตูเข้าไปในห้อง ที่พักของเธอเล็กแต่ทว่ามันพอดีกับเธอ มีเตียงนอนกับโต๊ะอเนกประสงค์ที่พักเก็บได้ ห้องของเธอไม่มีหน้าต่างเพราะเป็นส่วนด้านล่างสุด ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ไม่ว่างานจะหนักแค่ไหนเธอก็ต้องทน เพราะไม่มีทางให้เลือกแล้ว
เดิมทีเธอแอบขึ้นมาและทำตัวเร่ร่อนไม่มีหลักแหล่ง สิงอยู่ในคาสิโนเธอจึงเอาแต่ของที่จำเป็นเพราะคิดว่าจะอยู่แค่เพียงสิบวัน เรือลำนี้ล่องทะเลสิบวันสิบคืน จึงเอามาให้น้อยที่สุดนั่นก็คือกระเป๋าหนึ่งใบ เธอมีเสื้อผ้ามาด้วยประมาณห้าถึงหกชุด แล้วก็ของใช้ที่จำเป็นอีกนิดหน่อย เธอสำรวจเรือมาพอสมควร มีร้านค้าที่ขายของใช้ มีร้านเสื้อผ้าที่แพงหูฉี่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งบางโซนเธอก็ไม่ได้เข้าไปเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราอยู่
ครั้งแรกที่ปานฟ้าโกงเงินจากคาสิโนมาได้ เธอคิดว่าจะไปใช้สอยฟุ่มเฟือยเสียหน่อย แต่ทว่ามันยังไม่ครบเท่ากับจำนวนที่เธอต้องการเลยกลับไปโกงอีกครั้ง เพราะอีกสี่วันเรือจะเทียบท่า จะได้หลบอยู่ส่วนของโรงหนังซึ่งไปดูลู่ทางเอาไว้แล้วแต่เธอดันโดนจับได้ เป็นที่มาให้ชวดเงินทั้งหมดแต่เธอก็ยังได้งานทำ แถมยังได้เงินเดือนอีกต่างหาก ความจริงเธอควรทำงานให้เขาฟรีๆ เยี่ยงทาสก็ยังได้ เพราะเธอทำผิด เธอมาโกงเขา มาหาผลประโยชน์จากเขา ไม่โดนฆ่าหรือเข้าคุกก็ดีเท่าไหร่แล้ว
ปานฟ้าหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า เอาไปใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้าเล็กๆ ที่อยู่ข้างประตู เธอพอมีเงินติดตัวมาอยู่บ้างกะว่าเทียบท่าแล้วจะขึ้นไปซื้อของเพิ่ม เธอศึกษาเส้นทางของเรือลำนี้มาแล้ว แต่มันผิดแผนตรงที่โดนจับ ดังนั้นเธอจึงต้องอยู่บนเรือลำนี้ไปอีกสามเดือน ซึ่งเรือจะเทียบท่าทุกสิบวันเมืองละสามรอบ เท่ากับว่าเทียบท่าเมืองละเดือนด้วยเหตุนี้เองน่าจะทำให้ต้องการช่างเทคนิคหลายอัตรา
เธอกะว่าระหว่างที่รอหัวหน้าช่างมาเรียก จะนอนเอนหลังสักหน่อยหลังจากผ่านเรื่องน่าตื่นเต้นมาได้ แต่คงไม่ทันเพราะมีคนเคาะประตูอยู่หน้าห้องของเธอ คงเป็นหัวหน้าช่างที่จะพาเธอไปดูงาน ปานฟ้าเอื้อมมือไปเปิดประตู เธอพบกับเทพบุตรสุดหล่อเหมือนมีแสงเจิดจร้าออกมาจากตัว เขาหล่อจนเธอแทบเป็นลม
นี่หัวหน้าช่างแน่เหรอ?
