แนะนำตัวอีกครั้ง

กว่าจะมาถึงออฟฟิศก็เกือบจะสามสิบนาทีเมื่อมาถึงการ์โลยืนรออยู่ที่ด้านล่างเรียบร้อยเตรียมพาคามิล่าขึ้นไปด้านบน ซึ่งเธอถูกพาไปยังที่ทำงานซึ่งอยู่หน้าห้องของเฟเดริโก้เมื่อมองเข้าไปก็ไม่เห็นใครอยู่ในนั้นแต่เธอไม่ได้ถาม ยังคงรักษาภาพลักษณ์เลขาสาวจอมเนี้ยบไว้อย่างดีเยี่ยม

“ขอบคุณมากค่ะ” เธอเอ่ยขอบคุณคนของเฟเดริโกที้พามายังโต๊ะ

ส่วนบอดี้การ์ดหนุ่มไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยก็จะเดินหายไปในทางโค้ง เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้วเธอจึงนั่งลงแวะดูเวลาเห็นว่าอีกห้านาทีจะถึงเวลาเข้างาน ซึ่งเมื่อเช้าเธอออกมาก่อนเพราะต้องการให้เขาเตรียมตัวไปประชุมในวันนี้ และเมื่อยังพอมีเวลาเธอจึงหยิบกล่องอาหารออกมาทานเพื่อเพิ่มกำลังในการสู้รบกับเจ้านายหนุ่มผู้เอาแต่ใจ

“ใครให้กิน” ยังไม่ทันที่คามิล่าจะหยิบแซนวิชเข้าปาก เสียงเข้มวางอำนาจก็ดังขึ้นจะเป็นเสียงของใครไปไม่ได้นอกจากเจ้านายของเธอ

เลขาสาววางแซนวิชลงด้วยสีหน้าเรียบเฉยจากนั้นก็ยืนขึ้นยืดตัวเชิดหน้าขึ้นจ้องไปที่ประตูลิฟต์อย่างเอาเป็นเอาตายก่อนจะตอบด้วยเสียงที่นิ่งเฉยเหมือนหน้าตา “ยังไม่ถึงเวลาเข้างานนี่คะเจ้านาย ดิฉันไม่เห็นมีกฎข้อไหนห้ามไว้ค่ะ”

การต่อปากต่อคำของเลขาผู้มาใหม่แบบไม่เต็มใจรับทำให้เฟเดริโก้ไม่พอใจ เธอวางท่าใส่เขาทำตัวเย่อหยิงจองหองราวกับว่าเธอมีสิทธิ์นั้น เขาเป็นผู้นำที่ไม่ชอบให้ใครอยู่เหนือการควบคุมโดยเฉพาะผู้หญิง

“ใครสั่งให้กิน”

คามิล่าสะกดอารมณ์เอาไว้ในใจอยากจะข่วนหน้าเขานัก เป็นเจ้านายที่เอาแต่ใจที่สุดเธอเคยรู้มาว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษกับสุภาพสตรีเสมอ แต่สงสัยเธอจะกลายเป็นข้อยกเว้นไปแล้วสั่งเก่งซะเหลือเกิน

“ถ้าอย่างนั้นดิฉันขออนุญาตทานแซนวิชได้ไหมคะเจ้านาย”

“ตามฉันมา แล้วหยิบกล่องด้วย”

เฟเดริโก้ผลักประตูเข้าไปในห้องทำงาน คามิล่าเลยรีบคว้ากล่องแซนวิชและไม่ลืมหยิบแฟ้มเอกสารตามเข้าไปติด ๆ เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มนั่งลงที่เก้าอี้ทำงานตัวใหญ่เรียบร้อยแล้ว เธอจึงวางกล่องแซนวิชและแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะอย่างเรียบร้อยก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ฝั่งตรงข้าม เลขาสาวเปิดฝากล่องแต่ยังไม่หยิบแซนวิชขึ้นมากินในทันที เธอสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเบลเซอร์สีขาวเรียบกริบเพื่อหยิบขวดอะไรบางอย่างออกมา จากนั้นก็เดินไปที่ตู้กดน้ำข้างประตูเพื่อรินน้ำดื่มใส่แก้ว

คามิล่ากลับมาที่โต๊ะอีกครั้งพร้อมน้ำดื่มสองแก้ว เธอเปิดขวดแล้วเทแคปซูลออกมาสองเม็ด ซึ่งการกระทำของเธออยู่ในสายตาของเจ้านายหนุ่มตลอดเวลา

“นี่ค่ะ”

“อะไร?”

“วิตามินค่ะ ฉันรู้ว่าคุณไม่ค่อยทานอาหารเช้า คุณจึงจำเป็นต้องเสริมด้วยวิตามินค่ะ”

เฟเดริโก้เบนสายตาไปยังแคปซูลในมือของเลขาสาวคนใหม่ที่นอกจากจะมาจัดตามองเขาแล้ว ยังเจ้ากี้เจ้าการเรื่องการกินของเขาอีกด้วย มันมีเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ค่อยทานอาหารเช้าก็เพราะว่าต้องดีลงานกับประเทศในโซนเวลาที่ไม่ตรงกัน จนเกิดเป็นความเคยชินที่กินก็ได้หรือไม่กินก็ได้เขาขอแค่กาแฟดำหนึ่งแก้วก็ทำงานได้สบายแล้ว

เขาทำเป็นไม่สนใจหันไปหยิบแฟ้มงานมาเปิดดูซึ่งคามิล่าก็ยังคงยื่นวิตามินให้ค้างไว้อย่างนั้นและจ้องมองเขาด้วยแววตากดดัน แน่นอนว่าสายตาแบบนั้นไม่ได้ทำให้หินผาอย่างเขาหวั่นไหวได้ แต่เป็นเสียงร้องโคกครากที่มาจากท้องของเธอต่างหากทำให้เขาต้องจำใสรับแคปซูลมากินเพราะไม่อยากเห็นเด็กใหม่เป็นลมไปต่อหน้าเพราะหิวข้าว

“แล้วจะเตรียมให้ทุกวันนะคะ”

แม้จะอายอยู่หน่อย ๆ ที่ท้องร้องให้เขาได้ยินแต่ก็ต้องเก็บสีหน้าทำเป็นไม่ใส่ใจ ปกติแล้วก่อนออกจากบ้านแม่จะเป็นคนเตรียมอาหารเช้าเอาไว้ ส่วนพ่อและพี่ชายของเธอจะรีบออกไปก่อนเป็นประจำทำให้เธอพกขวดวิตามินติดตัวเอาไว้ เพราะคนในครอบครัวของเธอก็มีพฤติกรรมเดียวกันกับเจ้านายป้ายแดง ซึ่งเธอก็เข้าใจดีว่าการทำธุรกิจนั้นค่อนข้างยุ่งวุ่นวายแค่ไหน

“ครับ รีบกินเถอะฉันจะได้ทำงานต่อ”

“ค่ะ ฉันขอเวลา 3 นาที”

เธอใช้เวลาสามนาทีในการกินจริง ๆ ด้วย!

คามิล่าดื่มน้ำครึ่งแก้วแล้วจากนั้นก็ยัดแซนวิชเข้าปากเธอไม่ได้ทานมูมมาม ดูเรียบร้อยแต่รวดเร็วใช้เวลาไม่เกินหนึ่งนาทีเธอก็จับชิ้นที่สองยัดตามไป เจ้านายหนุ่มมองเธออย่างทึ่งในความสามารถปกติแล้วสาว ๆ ที่อยู่ต่อหน้าเขามักจะรักษาท่าทีกว่าจะกินแต่ละคำช้ายิ่งกว่าวัวเคี้ยวเอื้องเสียอีก แต่กับเลขาสาวตรงหน้าเธอไม่กลัวว่าภาพพจน์จะเป็นอย่างไรแถมยังกล้าจ้องหน้ากับเขาเวลากินอีกต่างหาก เมื่อแซนวิชหมดแล้วเธอดื่มน้ำที่เหลือจนหมดแล้วจากนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดเรียวปากสวยก่อนจะจัดเสื้อผ้าให้ตึงเรียบเพื่อพร้อมทำงาน

นี่คนหรือหุ่นยนต์วะ! เป๊ะเกินไปแล้ว

เฟเดริโก้ก็แค่คิดในใจพอลองคิดดูดี ๆ แล้ว คามิล่าเป็นคนที่แม่เขาส่งมาฉะนั้นลักษณะท่าทางของเธอคงถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี คงเป็นหนึ่งในลูกสาวของเพื่อน ๆ แม่ที่เขาแทบจะไม่ได้สนใจเพราะเขาแน่ใจว่าไม่เคยเห็นเธอมาก่อนไม่คุ้นเลยสักนิด

“ถึงเวลาที่ต้องแนะนำตัวแล้ว?” เขาไม่ได้อยากรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน แต่สนใจในเรื่องงานมากกว่า ว่าเธอมีความสามารถพอที่จะเป็นเลขาเขาได้รึเปล่า