ตอนที่ 4
เจ้านายร้ายรัก ๑ / ตอนที่ 4
“ฉันว่านะ คนสัมภาษณ์ตาแชแหมแน่เลย ที่รับแกเข้าทำงาน ยายกุ้ง”
นรวิชญ์พูดอย่างไม่ถนอมน้ำใจ เมื่อเธออุตส่าห์นำข่าวดีไปบอกในเย็นวันเดียวกันกับวันที่รู้ผล
“เขาเรียกคนมีความสามารถจ้า!”
นอกจากอวดด้วยวาจายังทำท่ายืดอกอย่างภาคภูมิ
“ความสามารถในแผ่นกระดาษ นี่ ถ้าฉันรู้นะว่าแกมีส่วนในการออกแบบก่อสร้างตึกหลังไหน สัญญาด้วยเกียรติลูกชาวสวน ว่าจะไม่ขึ้นไปเหยียบเป็นเด็ดขาด กลัวพังลงมาทับตายว่ะ”
ว่าที่นักออกแบบสร้างตึก มองเพื่อนรักด้วยสายตาฉายรังสีตั้งแต่เอ็กซ์ ถึง แซด พร้อมจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า
ก็ดูปากมันซี...
“ไอ้... นายวิช.... ปากปลาร้าอย่างนี้ อด!”
“เฮ้ย! เลี้ยงฉลองใหญ่เลยเหรอ เมื่อไหร่เจ๊?”
ร่างสูงโปร่งรีบกระโดดลงจากรั้วเตี้ยๆ ที่นั่งอยู่ ทำท่ากะลิ้มกะเหลี่ย
“ใสเจีย แปลว่า เสียใจ! งานนี้นายไม่มีเอี่ยว ฉันเลี้ยงคุณสุคนเดียว นะคะคุณสุ”
กุลชาดาหันไปทางเด็กสาวที่ยืนยิ้มกริ่ม นึกอยู่ในใจว่า นี่ ถ้าเธอเป็นคนคิดมาก ชอบคิดสกปรกมองคนในแง่ร้าย คงได้หึงนรวิชญ์กับเพื่อนสาวคนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะทั้งสองสนิทกันอย่างที่เธอไม่เคยเห็นเพื่อนต่างเพศคู่ไหนจะสนิทกันได้เท่านี้ โดยไม่มีความใคร่เข้ามาเกี่ยวข้อง
“เดี๋ยวเราไปกันเลยนะคะ คุณสุ”กุลชาดาทำเป็นไม่มองหน้าคมคายที่ทำประจบ“ กินให้พุงกางไปเล๊ย เพราะไม่มีคนคอยแย่ง!”
“ไม่ได้โว้ย! เรื่องอะไร เลี้ยงคุณสุคนเดียว ไม่ยอมจริงๆ ด้วยอ่ะ!”
ผู้ถูกกันไปเป็นคนคอยแย่ง ราวกับเปรตขอส่วนบุญ รีบโวยวาย
“ไม่ยอมแล้วจะทำยังไงไม่ทราบ?”
“ฉันเก๊าะ จะสั่งเรือทุกลำที่วิ่งเข้าออกในคลองนี้ ไม่ให้รับแกไปส่งที่ตลาด” ทำเสียงเข้ม
“อุ๊ย! น่ากลัว อิทธิพลมืด”
เสียงหัวเราะคล้ายขบขัน บอกให้รู้ว่าไม่กลัวคำขู่ ตามที่พูด
“น่า...”
นรวิชญ์เห็นลางแพ้ จึงรีบเปลี่ยนท่าทีจากขู่เป็นประจบ
“เราไปด้วยคนนะ รับรองว่าจะทำตัวเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน ไม่กวนใจให้ต้องรำคาญ เป็นผู้ย่าผู้หญิงไปกันตามลำพังไม่ดีหรอก รู้เปล่า”
เรียกว่าใช้ทั้งลูกอ้อนและลูกปลอบ สุดแต่จะนึกออกในขณะนั้น
“ได๊... แต่มีข้อแม้”
“ตกลงเลยเพื่อนรัก ข้อแม้กี่สิบข้อก็รีบๆว่ามา จะได้ไปกัน”
ตลอดเวลาสุวพิชชามองคนโน้นคนนี้ทีอย่างขันๆ
“ข้อเดียวแหละ”
“ยิ่งสบายใหญ่” รับคำแข็งขัน “ว่าแต่ข้อแม้อะไร”
“นายเป็นเจ้ามือ”
“หา!”
“ไม่ต้องหา”
“จะบ้าเหรอ? ฉันไม่ใช่คนได้งานซะหน่อย แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ จะต้องเป็นคนจ่าย”
กุลชาดาทำท่าไม่ยี่หระ ที่ผู้เป็นเพื่อนอยากโดดเตะสักป้าบ แต่ต้องสะกดใจ เพราะมีดวงตาแจ่มแจ๋วคู่หนึ่งคอยมองอยู่
“ไม่จ่ายนายอด... ไปค่ะคุณสุ เราไปกันเถอะ จะทานอะไรสั่งได้เลย ไม่อั้น แต่สำหรับคุณสุคนเดียวนะ คนอื่น... หมดสิทธิ์แหงมๆ!”
พูดจบก็ชำเลืองหางตาไปทางเพื่อนรัก ที่กำลังจะกลายเป็นเพื่อนแค้น แกล้งฉุดมือเด็กสาวให้ออกเดิน
นรวิชญ์ขยับตาม เลยถูกตวาดแว๊ด
“ห้ามตาม!”
ชายหนุ่มเกาศีรษะทั้งๆ ที่ไม่รู้สึกคัน
“เออ เออ เป็นอันตกลง” เขายอมแพ้ “แม๊... แกนี่ ลูกไชล็อกมาเกิดแท้ๆ แถมยังเลือกเกิดฤกษ์ดาวไถเคลือบเกลืออีกแน่ะ ว่าแต่เงินเดือนออกเมื่อไหร่ อย่าลืมเลี้ยงคืนด้วยละกัน ... ไม่น่าเลยตู ไม่น่าเกิดมาเป็นเพื่อนมันเล๊ย ให้ตายชัก!”
“ห้ามบ่น!” เสียงสั่งเข้ม
“จ้ะ แม่”
นรวิชญ์ขานรับ ทำให้สุวพิชชาหัวเราะคิก อย่างอดกลั้นไว้ไม่อยู่จริงๆ
“มีด้วยหรือคะคุณวิช ดาวไถเคลือบเกลือ สุไม่เคยได้ยิน”
นรวิชญ์เดินเคียงข้างไปกับเด็กสาว ทำหน้าจะดูว่าบึ้งก็ไม่ใช่ จะหัวเราะก็ไม่เชิงกับคำถามที่ได้รับจากหวานใจ
กุลชาดาแกล้งเดินเร็วนำหน้าไปก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนรักได้มีโอกาสพูดคุยตามลำพังกับเด็กสาว
“คุณกุ้งเธอน่ารักนะคะ สุอยากมีพี่สาวอย่างเธอจัง”
“คุณสุอย่าไปชมให้เจ้าตัวได้ยินล่ะ ยายนั่นมันชอบเป็นโรคหลงตัวเองไม่รู้หรือ ยกหางได้ซะที่ไหน๊ เป็นน้องเป็นนุ่ง สงสัยบ้านแตกเพราะทะเลาะกันทุกวัน อาจถึงขั้นสามเวลาก่อนและหลังอาหารนั่นเลย”
เด็กสาวหัวเราะยิ่งหัวเราะ แต่ก็อดแก้แทนผู้ถูกกล่าวถึงไม่ได้
“คุณวิชอย่าไปว่าคุณกุ้งอย่างนั้นซีคะ คุณกุ้งเธออารมณ์ขันดีออก คุยก็สนุก เวลาที่สุคุยด้วยยังคิดเลยว่าโลกทั้งโลกมีแต่เสียงหัวเราะ”
“ไอ้กุ้งเนี่ยนะ มีอารมณ์ขัน? อารมณ์ผันผวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายซีไม่ว่า แถมเวลามันร้ายขึ้นมา ยิ่งกว่าระเบิดลง ผมละ อดสงสารคนที่จะมาเป็นแฟนยายนี่ไม่ได้เลยจริงๆ สงสัยถูกยายกุ้งทั้งกดขี่ข่มเหงให้ยอมอยู่ใต้อำนาจไปทั้งชาติ”
“แหม...ไม่หรอกค่ะ คนอย่างคุณกุ้ง ไม่มีวันทำอะไรอย่างนั้นเด็ดขาด เธอแฟร์ดีออกค่ะ และใครก็ตามที่เธอรัก สุว่าโชคดียิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่เลขชุดรางวัลที่หนึ่งอีกนะคะ”
“คุณสุนี่ ศรัทธาแรงกล้าจริงๆ นี่ถ้ายายนั่นมาได้ยิน คงเป็นปลื้มไปทั้งเดือน”
นรวิชญ์ชำเลืองมองแก้มใสๆ อย่างเอ็นดูคนมองโลกในแง่ดี
แต่ก็คุณสมบัติในข้อนี้ของเด็กสาวไม่ใช่หรือ ทำให้เขามองข้ามหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันไปหมด แม้ว่าจะมีมาชอบเขาเป็นหลายคน
แต่จะว่าไป เขาก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับแนวความคิดของสาวน้อยหวานใจเขา เพราะใครก็ตามที่อยู่ใกล้กุลชาดา จะมีแต่เสียงหัวเราะ แต่มีข้อแม้ว่าอย่าทำให้แม่เจ้าประคุณไม่สบอารมณ์โก๋ขึ้นมาละกัน
