เจ็ดวันก่อนสิ้นเดือน

18.0K · จบแล้ว
พันสิงห์
16
บท
3.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาเป็นสามีที่น่ารักของเธอ คอยช่วยกันสร้างฐานะและครอบครัวที่มีความสุข และยังทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันรักแรกพบโรแมนติกรักหวานๆ

1

อีกเจ็ดวันจะสิ้นเดือนเป็นประโยคที่วาทิตกับมนัสนันท์ตระหนักและมองสบตากันเพื่อให้กำลังใจต่อกัน

“พี่วา”

“ครับ”

“อีกเจ็ดวันจะสิ้นเดือนแล้วค่ะ” เธอกับเขาเป็นพนักงานเงินเดือนในบริษัทแห่งหนึ่ง ในแต่ละเดือนต้องบริหารจัดการค่าใช้จ่ายของตัวเอง ช่วยกันทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อไม่ให้เงินรั่วไหลไปไหน เพื่อลบคำดูถูกต่างๆ นานา ที่ทุกคนได้พูดเอาไว้

“นี่เลยครับพี่เตรียมเมนูในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเอาไว้แล้ว” เขาส่งรายการอาหารให้เธอดูด้วยรอยยิ้ม

“ว้าว... อาหารน่ากินทั้งนั้นเลย” แม้จะใกล้สิ้นเดือนแต่เธอกับเขาก็ไม่เคยต้องบริโภคมาม่า ปลากระป๋องนอกจากอยากกินกันจริงๆ

“ซอสปรุงมี น้ำปลาพร้อม น้ำตาลพร้อม รับรองว่าไม่ลำบากแน่ๆ ครับ” เธอช่วยเขาคำนวณงบประมาณเพื่อบ้านหลังแรกในชีวิตของทั้งเขาและเธอ

“เราต้องซื้อไข่ 1 แผง หมูบด ส่วนผักเรามีแล้ว พี่วาปลูกพืชผักสวนครัวเอาไว้เยอะมาก รับรองไม่อด ข้าวสารอีกถุงใหญ่ๆ ก็รอดไปอีกอาทิตย์” เธอจดรายการอาหารที่ต้องซื้อและคำนวณเงินที่มีอยู่ในเจ็ดวันด้วยรอยยิ้ม การเอาตัวเองให้รอดด้วยเงินจำนวนน้อยนิดไม่ได้ทำให้ทั้งสองเครียดแต่อย่างใด แต่กลับสนุกกับการเอาตัวรอดและการบริหารเงิน เพราะรู้ดีว่า

“เราเหลือเงินอยู่ห้าร้อยค่ะพี่วา” เธอหยิบธนบัตรมูลค่าห้าร้อยบาทขึ้นมาตรงหน้าเขา

“รอดแน่ๆ เชื่อพี่สิ” เขากับเธอประหยัดกันมานานหลายปีแล้ว แม้เพื่อนที่ทำงานจะหาว่างกแต่เพราะความจำเป็นล้วนๆ พนักงานเงินเดือนที่รายได้ไม่เยอะหากใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนอกจากจะใช้เงินไม่พอแล้ว ยังจะทำให้เป็นหนี้ท่วมหัวอีกด้วย ดังนั้นเขากับเธอจึงขยันทำงานนอกเวลาและลงทุนเล็กๆ เพื่อเก็งกำไรอีกด้วย โดยวาทิตนั้นจะเล่นหุ้น ในขณะที่มนัสนันท์รับตรวจสอบบัญชีซึ่งเป็นงานนอกเหนือจากงานประจำ

“สิ้นเดือนนี้เราก็จะเป็นไทแล้วนะคะพี่ยศ” เธอมองกระปุกออมสินที่หยอดเอาไว้จนเต็มอย่างมีความสุข มีการแยกแบงก์ยี่สิบ แบงก์ห้าสิบ เหรียญหนึ่งบาท เหรียญสองบาทไปจนถึงเหรียญสิบบาทและเงินส่วนนี้เขากับเธอไม่เคยเอามาใช้จ่ายเลย เป็นเงินในแต่ละวันที่ต่างเหลือใช้ก็เอามาหยอดกระปุกเอาไว้

“ดีใจจังเลยค่ะ ในที่สุดก็จะเป็นไทแล้ว” เธอพูดซ้ำๆ โผเข้ากอดเขาอย่างมีความสุข เพราะผ่อนที่ดินปลูกบ้านมานานหลายปีแล้วพยายามเก็บหอมรอมริบประหยัดและไม่เคยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยกันเลย กินข้าวที่บ้าน ทำอาหารไปกินที่ทำงานเอง ปลูกพืชผักสวนครัวกินเอง ส่วนรถที่ใช้นั้นเป็นรถมือสองที่เธอกับเขาเก็บเงินซื้อสดไม่อยากผ่อนเพราะดอกเบี้ยสูง ในทุกเดือนเธอต้องสะกดกลั้นอารมณ์ความอยากชอปปิงและอะไรอีกหลายอย่างซึ่งเป็นกิเลสที่ผู้หญิงอยากได้เอาไว้และคิดถึงอนาคตของตัวเองกับวาทิตเอาไว้ให้มากๆ

“พี่ทำให้นันท์ลำบากรึเปล่าครับ” เขาดึงเธอมากอดแนบอกจุมพิตหน้าผากนูนเกลี้ยงของเธอเบาๆ อย่างแสนรัก มนัสนันท์เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว บ้านของเธอมีฐานะกว่าเขา แต่เธอยอมทิ้งทุกอย่างมาอยู่กับเขาด้วยความรัก ยอมอดทน ยอมเก็บหอมรอมริบ เขาเลยตอบแทนเธอด้วยความรักความซื่อสัตย์ ไม่เคยนอกกายนอกใจและพยายามทำทุกอย่างให้เธอมีความสุขมากที่สุด

ใช่ว่าเขาจะทำให้เธอฝ่ายเดียว เธอก็พยายาททำให้เขามีความสุขเช่นกัน ทั้งเธอและเขาต่างเติมเต็มให้กันและกัน ยิ่งอยากทำให้อีกฝ่ายมีความสุข ยิ่งแคร์กันมากขึ้น ยิ่งถนอมน้ำใจกันมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ความสุขเกิดขึ้นในทุกๆ วัน

“ไม่เลยค่ะ นันท์มีความสุขที่สุดที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับพี่วา มีความสุขที่สุดในชีวิตที่ได้เป็นภรรยาของพี่” เธอหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ ซบหน้าที่อกกว้างแสนอบอุ่นที่ไม่ว่าวันใดก็ทำให้เธอสุขใจได้ทุกครั้งที่อิงแอบแนบชิด

“พี่วาเป็นผู้ชายที่ดี ไม่เจ้าชู้ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขแล้วก็ทำอาหารอร่อยที่สุดในโลกเลยค่ะ” เธอยอมขัดใจบิดามารดาไม่แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนสนิทที่ฐานะทัดเทียมกันด้วยว่า เลอยศนั้นทั้งเจ้าชู้ เสเพลย์แถมยังใช้เงินฟุ่มเฟือยอีกด้วย แม้เธอจะเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ก็มีแนวคิดว่าการใช้เงินไปกับเรื่องไร้สาระหาประโยชน์อะไรไม่ได้นั้นนั้นมันไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง คนเรารวยได้ก็จนได้ จนได้ก็รวยได้ หากรู้จักทำมาหากินและใช้เงิน เราจึงไม่ควรประมาทกับชีวิต