บท
ตั้งค่า

สู่ดินเเดนตะวันตก

ฟงรุ่ยทันทีที่ก้าวออกจากเขตของตระกูลหลู ก็วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปตามทางที่เบื้องหน้า สายตาของเขาพลันเหลือบเห็นพ่อค้าผู้หนึ่งกำลังจูงม้าเดินผ่านมา เขาไม่คิดมากความ พลันโยนเศษเงินให้พ่อค้าคนนั้น ก่อนจะกระตุกสายจูงกระโดดขึ้นม้าควบออกจากเมืองโยวโจวไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากขี่ม้าออกนอกโยวโจวจนเข้าเขตชนบทไปซักพัก ฟงรุ่ยค่อยชะลอฝีเท้าม้าลง

{เห้ย เราขี่ม้าไม่เป็นนี่หว่า ทำไมเราถึงขี่มาได้ไกลขนาดนี้} ฟงรุ่ยพลันนึกได้ว่าตัวเขาไม่เคยขี่ม้ามาก่อน เเต่ช่วงยามคับขัน กลับทำให้เขาละทิ้งความกลัวจนสามารถควบคุมบังเหียนของม้าได้

"เหอะ จริงๆม้าก็ขี่ไม่ยากนี่นา สงสัยเมื่อก่อนเราคงจะกลัวเกินไป" ฟงรุ่ยกล่าว

จากนั้นเขาก็ลงจากหลังม้า เเล้วจูงม้าไปเดินพักกินหญ้าใต้ต้นไม้ข้างทางชนบทเเห่งหนึ่ง

"โอ้ย เเย่ละ เราวิ่งจนรองเท้าผ้าใบขาดเลยเหรอเนี่ย" ฟงรุ่ยยกพื้นรองเท้าผ้าใบสีดำขึ้นมาดูอย่างหงุดหงิด

"เป็นเเบบนี้เดินต่อไปไม่ได้เเน่ๆ อีกอย่าง นี่เราขี่ม้ามายังทิศทางไหนกัน เราจะไปหุบเขาเหมยซานทางตะวันตกยังไงต่อล่ะเนี่ย"

ระหว่างที่กำลังบ่นกับตัวเองนั้น หูของฟงรุ่ยก็ได้ยินเสียงล้อลากของเกวียนน้อยดังเข้ามาอย่างช้าๆ พร้อมด้วยชายชราเเละบุรุษหนุ่มท่าทางยากไร้ผู้หนึ่ง

"นี่พวกท่าน" ฟงรุ่ยร้องเรียกทั้งสองคนนั้น จนพวกเขาค่อยๆลากเกวียนเดินเข้ามาหา

"เจ้ามีอะไรเหรอ" ชายชราถาม

"ข้าขอซื้อรองเท้าของท่านหน่อยสิ" ฟงรุ่ยกล่าวพลางหยิบยื่นเงินก้อนหนึ่งให้

"โอ้ว พ่อหนุ่ม ข้ายินดีเลยๆ" ชายชรากล่าว

"พี่ชายท่านนี้ เอารองเท้าข้าไปเเทนเถอะ ข้าไม่อยากให้พ่อข้าเดินเท้าเปล่า" ชายหนุ่มท่าทางยากไร้นั้นกล่าว

"เจ้ากตัญญูจริงๆ ก็ได้" ฟงรุ่ยพลันยื่นเงินให้ชายชรา ก่อนที่เขาจะคว้ารองเท้าจากชายหนุ่มผู้นั้นที่ถอดไว้ให้

"พ่อหนุ่ม ข้าขอบคุณเจ้าจริงๆ เจ้ารู้ไหมเงินจำนวนนี้ สามารถประทังชีวิตพวกเราได้เป็นเดือนๆเลย" ชายชราก้มหัวคารวะ

{เว่อร์ไปป่าววะ เงินเเค่นี้เนี่ยนะ} ฟงรุ่ยสงสัย

"ไม่เป็นไรๆ พวกท่านคงลำบากมากสินะ" ฟงรุ่ยกล่าว

"ตอนนี้มีภัยพิบัติทางธรรมชาติอยู่เนืองๆ เเต่ทางการก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรพวกเราชาวบ้านตาดำๆเลย" ชายชราทอดถอนใจ

"เอาน่าท่าน ยังไงท่านกับลูกก็ต้องสู้ต่อไปนะ" ฟงรุ่ยยิ้มกล่าว

"ขอบคุณท่านมาก ที่เมตตา" ชายหนุ่มท่าทางยากไร้ประสานมือขอบคุณ

"เออจริงสิ พวกท่านรู้ไหม ภูเขาเหมยซานไปทางไหน" ฟงรุ่ยรีบถาม

"เหมยซานเหรอ ข้าไม่เคยได้ยินเลยนะ" ชายชรากล่าว

"คือ ...เอางี้ข้าจะไปทางทิศตะวันตกน่ะ สุดเมืองทางตะวันตกเลย ข้าต้องไปทางไหน"

"ตอนนี้เจ้ามาผิดทาง ทางนี้คือทิศเหนือ เจ้าต้องไปทางด้านนั้น" ชายชราชี้นิ้วไปยังทางซ้ายมือ

"ทางนั้นเหรอ" ฟงรุ่ยถามย้ำ

"ใช่เเล้ว ซักสามล้อยลี้ก็จะถึงเสฉวนเเล้ว นั่นคือเมืองที่อยู่สุดทางตะวันตก"

"จริงสิ ทำไมเรานึกไม่ถึงนะ เสฉวนคือชายเเดนทางตะวันตกนี่นา" ฟงรุ่ยครุ่นคิด

หลังจากร่ำลาบรรดาชายชราพ่อลูกเเล้ว ฟงรุ่ยก็นั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ซักพักนึงก่อนที่เขาจะควบม้าเดินทางต่อ

......

เสฉวน

เมืองหน้าด่านทางตะวันตกของราชวงศ์ถัง

ตอนนี้เป็นเวลากลางวัน ท้องถนนจึงปรากฏผู้คนเดินกันอย่างขวักไขว่

ทางด้านประตูเข้าเมือง ที่มีชาวบ้านเเละบรรดาพ่อค้ามากหน้าหลายตาเดินเข้าๆออกๆเป็นว่าเล่น ก็ปรากฏบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งหน้าตาทรุดโทรมอ่อนล้า ใบหน้าที่คมสันของเขาเริ่มมีหนวดเคราขึ้นประปราย ค่อยๆจูงม้าตัวหนึ่งเดินเข้ามายังประตูเมืองอย่างช้าๆ

ฟงรุ่ยหลังจากตรากตรำมาหลายวัน ในที่สุดเขาก็มาถึงเมืองเสฉวนหรือเฉิงตูเเล้ว

เขาเดินมองซ้ายเเลขวาด้วยท่าทีที่อ่อนล้า ก่อนที่เขาจะเลือกเข้าไปนอนพักยังโรงเตี๊ยมข้างทางเเห่งหนึ่ง

ฟงรุ่ยเมื่อล้มตัวลงถึงเตียง ก็หลับสนิทลงทันที

ไม่รู้เวลานานเท่าไหร่ เขาก็ได้ยินเสียงผู้คนบนท้องถนนโห่ร้องจนทำให้เขาต้องตื่นขึ้นมา

{ค่อยยังชั่ว ได้นอนตื่นนึง มันสดชื่นเเบบนี้นี่เอง}

ฟงรุ่ยรีบเอามือกวักน้ำในถาดทองเหลืองล้างหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะส่องกระจกทองเหลืองอีกครา

"นี่เราโทรมขนาดนี้เลยเหรอ" ฟงรุ่ยกล่าวพลางใช้มือลูบหนวดเคราของเขา

ขณะนั้นเสียงจากภายนอกยังคงดังอย่างครึกครื้น ฟงรุ่ยจึงค่อยๆเดินออกไปดู

{หวังว่าคงไม่ใช่งานหาคู่อะไรนั่นอีกนะ... ไม่รู้ว่ายัยคุณหนูหลูนั่นจะโมโหขนาดไหน...} ฟงรุ่ยเป่าปาก

เสียงกลอง เสียงดนตรี ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ฟงรุ่ยมองเห็นบรรดาฝูงชนพากันเดินไปยังถนนเบื้องหน้าอย่างไม่ขาดสาย เขาจึงลองเดินตามไปดูบ้าง

{เราสะพายกระบี่เดินเเบบนี้ ก็ดูเหมือนจอมยุทธเหมือนกันนะนี่} ฟงรุ่ยยิ้ม

"ลองไปดูหน่อยก็ไม่เสียหาย ไหนๆภูเขาเหมยซานก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เสียเวลานิดหน่อยก็ไม่เป็นไร"

ฟงรุ่ยพอคิดได้ดังนั้นจึงสาวเท้าก้าวไปยังลานกว้างบริเวณที่ผู้คนชุมนุมกันอยู่นั้น

{คนเยอะเเยะเลย มีงานอะไรรึเปล่านะ}

"อ้าว นั่นน้องฟงไม่ใช่เหรอ ฮ่าๆๆ" สุ้มเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น จนฟงรุ่ยหันไปตามเสียง

{เป็นไปไม่ได้ เจ้านี่ยังไม่ตายอีกเหรอ} ฟงรุ่ยขนลุก

"อ้าวพี่หาน ท่านเองก็อยู่ที่นี่ด้วย" ฟงรุ่ยฝืนหัวเราะ

ที่เเท้ผู้ที่เรียกหาเขานั้นกลับเป็นหานอี้นั่นเอง...

"น้องฟง จากกันวันนั้นเจ้าสบายดีเหรอ" หานอี้กล่าว

"สบายดี ท่านล่ะ"

"ฮ่าๆๆ เดี๋ยวนี้เจ้าไว้หนวดเคราเเล้วเหรอ ดูใช้ได้เลย เเละยังสะพายกระบี่อีก ดูท่าวิทยายุทธเจ้าคงก้าวหน้าไม่น้อย" หานอี้ยิ้มกล่าว

"ท่านล้อข้าเล่นเเล้ว จริงสิ วันนั้น ท่านจัดการคนพวกนั้นหมดเลยเหรอ" ฟงรุ่ยถาม

"เเน่นอนสิ พวกสวะเดนพรรนั้นมีหรือจะหยุดยั้งข้าได้" หานอี้หัวเราะ

{สุดยอด นึกไม่ถึง..จะมีคนที่เเข็งเเกร่งอะไรเเบบนี้ ฉันก็นึกว่ามันจะ...}

"ตอนนั้นพอข้าจัดการพวกมันเสร็จ พอข้ามองหาเจ้า เจ้าก็หายไปเลย ข้าว่าจะชวนเจ้าไปดื่มต่อซักหน่อย"

"ฮ่าๆๆ คือตอนนั้น ข้าได้สู้กับพวกคนของมันอยู่ที่ภายในห้องชั้นในน่ะ พอข้าเดินออกมา ก็ไม่พบพี่หานเเล้ว" ฟงรุ่ยกล่าว

"อย่างนี้นี่เอง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะหนีไปซะอีก"

"ลูกผู้ชายอย่างเรา ฆ่าได้หยามไม่ได้" ฟงรุ่ยทุบอก

"ดี พูดได้ดี มิน่าเจ้าถึงมาเข้าร่วมงานประลองในครั้งนี้ เเต่ไหนครั้งนั้นเจ้าบอกว่าเจ้าไม่เป็นวรยุทธล่ะ"

"เเหะๆ คนเราก็ต้องมีการพัฒนากันบ้าง....เดี๋ยวๆ ท่านว่าไงนะ งานประลองเหรอ" ฟงรุ่ยพลันสะดุ้งเฮือก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel