บท
ตั้งค่า

ยมทูตจากขุมนรก

"เจ้าเป็นใคร" เหล่าเยี่ยตวาดใส่บุรุษที่สวมหน้ากากปีศาจ

"ใช่กล้าดียังไง มาขัดขวางพี่ใหญ่ของพวกเรา" เหล่าโจรคนอื่นๆตวาดสมทบ

"ข้าเป็นใครน่ะเหรอ ข้าก็คือยมทูตจากขุมนรกชั้นที่ 41 มาเพื่อลงทัณฑ์พวกโจรชั่วเช่นพวกเจ้ายังไงล่ะ" ฟงรุ่ยซึ่งสวมใส่หน้ากากปีศาจหัวเราะอย่างเหี้ยมเกรียม จนพวกโจรต่างขนลุก

"เอาไงดีพี่ใหญ่ หรือว่าเจ้านี่จะเป็นยมทูตอะไรนั่นจริงๆ" ชายฉกรรจ์หนวดเคราเฟิ้มอีกผู้หนึ่งมากระซิบข้างหูเหล่าเยี่ยด้วยความหวาดกลัว

"เหลวไหล ยมทูตอะไรนั่นมีจริงที่ไหน ถุย วันนี้ข้าจะกระชากหน้ากากมันออกมาเอง" เหล่าเยี่ยเเค่นเสียง พลางเเกว่งดาบหมายจะพุ่งเข้ามา

ทันใดนั้นเหล่าเยี่ยก็ต้องชะงักเท้า เมื่อฟงรุ่ยนั้นพลันชูวัตถุประหลาดอันหนึ่งขึ้นมาอยู่เหนือหัว

"เจ้า... เจ้าคิดจะทำอะไร" เหล่าเยี่ยเริ่มตกใจ

"ธาตุทั้งสี่ สวรรค์ทั้งห้า ขุมนรกทั้งเเปด ขอพลังวิญญาณจงสถิตกับข้า ข้าจะเป็นคนพาดวงวิญญาณเหล่าคนถ่อยพวกนี้เข้าประตูนรก.." ฟงรุ่ยร่ายมืออีกข้างไปมาพร้อมกล่าวราวกับท่องคาถา

"พี่ใหญ่.....เอาไงดี" ชายฉกรรจ์หัวโล้นเริ่มขาสั่น

ในขณะที่เหล่าเยี่ยปากสั่นด้วยความลังเลอยู่นั้น ฟงรุ่ยก็ได้ยื่นวัตถุประหลาดอันนั้นมายังเบื้องหน้าของพวกโจร

เเชะ เเชะ เเชะ เเชะ เเชะ

เสียงประหลาดดังออกมาจากวัตถุชิ้นนั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ฟงรุ่ยเเอบยิ้มภายใต้หน้ากาก ก่อนจะหันหน้าจอโทรศัพท์มือถือมาดูพร้อมพยักหน้าด้วยความพอใจ

"เจ้า.... เจ้าทำอะไร" เหล่าเยี่ยกล่าวอย่างหวาดระเเวง

"ข้าก็เเค่ ดูดดวงวิญญาณของพวกเจ้ามาไว้ที่ข้ายังไงล่ะ" ฟงรุ่ยเเสยะยิ้มพลางยื่นหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เเล้วใช้นิ้วเลื่อนรูปที่ถ่ายติดบรรดาพวกโจรให้ดู

"นี่ๆ...ทำไมตัวข้าถึงไปอยู่ในนั้นได้" เหล่าเยี่ยเสียงสั่นหน้าถอดสี พลางปล่อยอาวุธร่วงหล่นลงกับพื้น

"ไม่นะพี่ใหญ่ ท่านยมทูต....ท่านยมทูตเก็บกักดวงวิญญาณของพวกเราไปเเล้ว" ชายฉกรรจ์หัวโล้นพลันร้องไห้ออกมา

"ท่านยมทูต อย่าทำอะไรพวกเราเลยนะ พวกเรายอมเเล้ว" ชายฉกรรจ์หนวดเคราเฟิ้มรีบคุกเข่าลงอ้อนวอน

{สนุกดีเหมือนกันนี่ เล่นเเบบนี้} ฟงรุ่ยหัวเราะในใจ

"พวกเจ้า ลองเอามือจับบริเวณช่องท้องด้านขวาใต้สะดือสิ เเล้วลองกดลงไป" ฟงรุ่ยกล่าว

เหล่าเยี่ยค่อยๆยื่นมือที่กำลังสั่นงันงกอย่างทำอะไรไม่ถูก ค่อยๆกดลงไปตามตำเเหน่งที่ฟงรุ่ยกล่าว ส่วนเหล่าบรรดาลูกน้องของเขาก็ทำตามเช่นเดียวกัน

"โอ๊ย" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

{ฮ่าๆๆๆ ไปกดตรงลิ้นปี่เเบบนั้นไม่ปวดก็บ้าเเล้ว} ฟงรุ่ยคิดอย่างสนุก

"ชีวิตพวกเจ้าอยู่ได้อีกไม่นานเเล้ว เพราะดวงวิญญาณพวกเจ้า ข้าได้กักเก็บไว้เตรียมมอบให้ท่านซาตานเเห่งความมืดเรียบร้อยเเล้ว...ฉนั้นตอนนี้ยังมีอะไรที่อยากทำก่อนจะตายก็รีบไปทำเถอะ" ฟงรุ่ยค่อยๆเอามือไขว้หลังกล่าวอย่างปลอดโปร่ง

"ไม่นะ ข้ายังไม่อยากตายๆ" เหล่าเยี่ยร่ำร้องเเทบเสียสติ ก่อนจะวิ่งเตลิดเปิดเปิงจากไป

"พี่ใหญ่ ข้าเองก็ไม่อยากตาย ท่านยมทูตไว้ชีวิตพวกเราเถอะ" ชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่งร่ำร้องพลางวิ่งตามเหล่าเยี่ยจากไป

จากนั้นบรรดาเหล่าโจรที่เหลืออยู่ก็พากันสติเเตกกระเจิงวิ่งกันหนีหายไปคนละทิศคนละทาง

"เเม่นาง เจ้าไม่เป็นไรนะ" ฟงรุ่ยค่อยๆหันไปหาสตรีที่คลุมเเพรสีชมพูอ่อนครึ่งหน้านางนั้น

เเต่สตรีนางนั้นกับหัวเราะคิกคิกออกมา สร้างความประหลาดใจให้กับฟงรุ่ยยิ่งนัก

"เจ้าเเต่งเรื่องเก่งจริงๆ" สตรีนางนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สดใส

{ทำไมนางดูไม่คล้ายตื่นตกใจ} ฟงรุ่ยขมวดคิ้ว

"เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็เรื่องของเจ้า เเต่ข้าต้องไปเเล้ว" ฟงรุ่ยเเค่นเสียงกล่าวพลางหมายเดินจากไป

สตรีนางนั้นพลันเชิดปากขึ้นด้วยความขุ่นเคือง ก่อนที่นางจะถลาล้มลงไปกับพื้นพร้อมใช้มือกุมไปที่ข้อเท้าของนาง

"ขาของข้า ฮือๆๆ" สตรีนางนั้นกับร้องไห้ออกมาด้วยความเวทนา

ฟงรุ่ยพอได้ยินดังนั้นจึงหันหลังกับไปมองดูด้วยความตกใจ ก่อนที่เขาจะรีบเดินเข้ามาก้มดูอาการของนาง

"ขาของเจ้าเป็นอะไร" ฟงรุ่ยถามพลางยื่นมือไปบีบนวดให้นาง

"สงสัยข้อเท้าข้าคงเเพลง ข้าคงจะเดินกลับบ้านไม่ได้เเล้ว" สตรีนางนั้นกล่าวสะอื้นอย่างน่าสงสาร

{ให้ตายเหอะ...ทำไมเราต้องเจอเเต่อะไรเเบบนี้ด้วยนะ.....เเต่นี่มันก็ใกล้จะมืดเเล้ว เราพานางไปส่งบ้านเเล้วก็ขอนอนบ้านนางซักคืนละกัน} ฟงรุ่ยคิดในใจ

"เอางี้ละกัน บ้านเจ้าอยู่ที่ไหน ข้าจะพาเจ้าไปส่ง" ฟงรุ่ยกล่าว

"ท่านยมทูตจะไปส่งข้าจริงๆเหรอ" สตรีนางนั้นกล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน

"จริงสิ"

"เเต่ขาของข้า คงเดินไม่ไหวเเล้ว"

"มา ขึ้นหลังข้า ข้าจะเเบกเจ้าไป" ฟงรุ่ยกล่าวอย่างรำคาญก่อนจะโค้งตัวลงต่ำไปยังด้านหน้าของสตรีนางนั้น

สตรีนางนั้นก็ไม่รอช้านางรีบเอื้อมมือไปคว้าไหล่ของฟงรุ่ยเเละกางขาหนีบไว้ที่เอวของเขาทันที

{เห็นตัวเล็กๆเเบบนี้ ทำไมหนักจังวะ} ฟงรุ่ยขมวดคิ้ว

"ท่านยมทูต ตะกร้าของข้าด้วย" สตรีนางนั้นกล่าวอย่างมีรอยยิ้ม

ฟงรุ่ยได้เเต่ถอนหายใจก่อนจะหยิบตะกร้าใบนั้นไปด้วย

หลังจากถามทางกันอยู่นาน ใช้เวลาอยู่หลายชั่วยาม ฟงรุ่ยก็ได้เเบกร่างสตรีนางนั้นเข้าไปในเขตสวนอุทยานไม้ดอกเเห่งหนึ่ง

"นี่ ถ้าหากว่า ขาของข้าใช้การไม่ได้ตลอดชีวิต เจ้าจะยินยอมเเบกข้าขึ้นหลังไปตลอดชีวิตหรือไม่" สตรีนางนั้นพลันถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน

"เหลวไหล ข้าเป็นยมทูตนะ ข้ามีหน้าที่...." ฟงรุ่ยเหลียวหน้าไปกล่าวยังไม่ทันจบประโยค หน้ากากปีศาจของเขาก็ถูกมือข้างหนึ่งกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว

"คิก คิก ท่านยมทูตก็มีหน้าตาเหมือนมนุษย์เหรอ" สตรีนางนั้นหัวเราะอย่างมีความสุข จนฟงรุ่ยต้องหยุดเดินด้วยความตกใจ

"ก็ได้ ข้าไม่ใช่ยมทูต พอใจเจ้ารึยัง" ฟงรุ่ยเเค่นเสียง

"เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของข้าเมื่อครู่เลยนะ" สตรีนางนั้นถามย้ำ

"เหอะ ผู้หญิงที่ข้าจะยินยอมทำให้เเบบนั้น มีเเต่ภรรยาข้าคนเดียวเท่านั้น" ฟงรุ่ยกล่าวอย่างหงุดหงิด

สตรีนางนั้นกลับตาเป็นประกายจ้องมองใบหน้าด้านข้างของฟงรุ่ยราวกับกำลังเจอสิ่งของที่ตนกำลังตามหามาเเสนนาน

"เเต่ตอนนี้เจ้าก็ยังไม่มีภรรยาไม่ใช่เหรอไง"

"ใช่ ตอนนี้ยังไม่มี เเต่..เดี๋ยว นี่เจ้าหลอกถามข้าเหรอ" ฟงรุ่ยกล่าวอย่างไม่พอใจ

"คิก คิก เจ้าก็เเบกข้าเดินมาตั้งไกลเเล้ว เจ้าไม่อยากรู้ชื่อของข้าเหรอ" สตรีนางนั้นหัวเราะกล่าว

"ไม่อ่ะ ข้าไม่อยากรู้" ฟงรุ่ยขมวดคิ้วพลันสาวเท้าเดินต่อไป สตรีนางนั้นพลันเชิดปากด้วยความขุ่นเคืองอีกครา

"เเต่ข้าจะบอก ข้าชื่อโอวหยางชิง" สตรีคลุมเเพรครึ่งหน้าที่มีนามว่าโอวหยางชิงกล่าว

"ที่เเท้ก็เเม่นางโอวหยาง" ฟงรุ่ยตอบกลับอย่างเบื่อหน่าย

"เจ้ายังไม่ได้บอกชื่อของเจ้าเลย" โอวหยางชิงกล่าวเสียงหวาน

"ข้าฟงรุ่ย ยินดีที่ได้รู้จัก........ว่าเเต่เมื่อไหร่จะถึงบ้านของเจ้ากันล่ะเนี่ย"

"ทำไมตอนนั้น เจ้าถึงออกมาช่วยข้าจากพวกโจรกลุ่มล่ะ" โอวหยางชิงเม้มปาก

"ก็เจ้าเป็นผู้หญิงอ่อนเเอ ข้าทนไม่ได้ที่จะ...."

"ที่จะอะไร"

"ช่างมันเถอะ" ฟงรุ่ยบอกปัด โดยไม่รู้ว่าจะกล่าวต่อยังไง

"คุณชายฟงคงจะเห็นหมอกสีขาวจนหลงทางเข้ามาในนี้ใช่ไหมล่ะ" โอวหยางชิงหัวเราะ

ฟงรุ่ยต้องสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ

"เเม่นางโอวหยาง เจ้ารู้ใช่ไหมว่าทางออกไปทางไหน" ฟงรุ่ยกล่าวอย่างมีความหวัง

"ที่นี่ไม่มีทางออกหรอก คุณชายฟงอย่าเสียใจไปเลยนะ คิกคิก" โอวหยางชิงยกมือขึ้นป้องปากหัวเราะ

"เจ้าว่าไงนะ" ฟงรุ่ยพลันยืดตัวขึ้นด้วยความตกใจ จนร่างของโอวหยางชิงกระเด็นตกลงจากหลังของเขา

เเต่เมื่อฟงรุ่ยหันหลังกลับไปกับพบว่า โอวหยางชิงกลับยืนยิ้มเผชิญหน้ากับเขาอยู่

"นี่ ขาของเจ้า....." ฟงรุ่ยอ้าปากอย่างไม่อยากเชื่อ

"คิกคิก ขาข้าทำไมเหรอ" โอวหยางชิงหัวเราะ

"เจ้าหลอกข้า" ฟงรุ่ยกล่าวด้วยความโมโห

"ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ เจ้าอย่าโมโหสิ" โอวหยางชิงกล่าวอย่างน่าสงสาร

"พอเลย ข้าไม่เล่นกับเจ้าเเล้ว ข้าจะหาทางออกเอง" ฟงรุ่ยเเค่นเสียงพลางวางตะกร้าใบน้อยลงก่อนจะหันตัวเดินหนีจากไป

"คุณชายฟง มาถึงบ้านข้าทั้งทีจะไม่เข้าไปหน่อยเหรอ" โอวหยางชิงเชิดปากกล่าว

หลังจากนั้น ฟงรุ่ยพลันรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาอย่างเเปลกประหลาด ก่อนที่เขาจะล้มลงฟุบลงไปยังบริเวณทุ่งดอกไม้เหล่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel