บทที่ 2-2
...วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่วันก็จะครบรอบวันเสียชีวิตของศิระคุณแล้ว
แสนสิวาไม่เคยนับเลยว่าในหนึ่งวันนั้นเธอทำอะไรบ้าง หญิงสาวพยายามทำงานให้มากขึ้นเพื่อที่จะไม่ฟุ้งซ่าน บ่อยครั้งที่เคยคิดจะหลอกตัวเองว่าเขายังอยู่ที่อเมริกา ศิระคุณกำลังงานยุ่งและเรียนหนักจนไม่มีเวลาติดต่อมาหาเธอ
ครั้นสำนึกได้ก็ต้องยอมรับความจริง ชายหนุ่มจากเธอไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ แต่ที่แน่ๆ วิญญาณเขาจะยังอยู่บนโลกใบนี้ เสมือนกับที่หญิงสาวรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าเขายังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เธอไม่เคยจากไปไหน
“ฝันถึงพี่ต้าร์อีกแล้วเหรอแก?” ทรายแก้วได้รับโทรศัพท์ในรุ่งเช้า น้ำเสียงของแสนสิวาดูเนือยๆ ต่างจากที่คุยกันเมื่อคืนก่อนอย่างสังเกตได้ เดาว่าคงจะเพิ่งผ่านฝันร้ายหรืออะไรที่ทำให้จิตใจเธอหดหู่
“เหมือนเดิมอีกแล้วแก้ว ฝันเหมือนเดิมอีกแล้ว” แสนสิวาเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อเช้ามืด อดคิดไม่ได้ว่าวิญญาณของเขายังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เฝ้ารอและพยายามจะหาทางสื่อสารอะไรบางอย่างกับเธอ
“อืมม์ ไม่รู้สินะ แต่ฉันก็ยังคิดว่าเป็นเพราะแกคิดมากอยู่ดี...ฉันเข้าใจนะว่าแกกับพี่ต้าร์ผูกพันกันมาก แต่นี่มันก็จะปีนึงแล้วนะ ฉันกลัวจะกลายเป็นว่าแกกำลังหลอกตัวเองอยู่ บางทีวิญญาณพี่ต้าร์อาจจะไปสู่สุคติแล้วก็ได้ แต่ถ้าขืนแกยังร่ำร้องหาเขาอยู่แบบนี้ ก็เท่ากับว่าทำให้เขามีห่วงไปไหนไม่ได้นะว่าน” ทรายแก้วเตือน แม้จะเคยพูดทำนองนี้หลายครั้งแล้ว แต่แสนสิวาก็ยังอดที่จะคิดไม่ได้
“เชื่อสิว่าน จริงๆ แล้วแกคิดไปเอง พี่ต้าร์เขาไม่ได้ทุกข์ทรมานอย่างที่แกฝันเห็นหรอก พี่ต้าร์เป็นคนดี ป่านนี้ไปอยู่ในภพภูมิที่สบายแล้ว” คนร่างเล็กพยายามปลอบใจ รู้ว่ามันไม่ง่ายนักกับการที่จะทำให้แสนสิวาลืมความอาวรณ์นี้ไปได้
“ฉันก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้นนะแก้ว...เอาละ ฉันจะพยายามไม่นึกถึงเรื่องนี้อีก ฉันจะจดจำแต่เรื่องดีๆ ของเขา จะคิดเสียว่าเขาไปสบายอย่างที่แกว่า บางทีฉันก็อาจจะคิดมากไปทำให้เก็บมาฝันซ้ำฝันซาก”
“แกคิดได้แบบนี้ฉันก็สบายใจ...เออ เอาอย่างนี้ มะรืนนี้ฉันว่าง เดี๋ยวฉันจะไปค้างที่บ้านแกนะ อยากเจอหน้าหลานด้วย คิดถึงจะแย่แล้ว” ทรายแก้วหาทาง บางทีถ้ามีเธออยู่ชวนคุย อาจทำให้แสนสิวาลืมที่จะนึกถึงเรื่องของศิระคุณไปได้บ้าง อย่างน้อยก็คงจะเลิกหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองไปสักพัก ซึ่งก็ถือว่าได้ผล...
ทรายแก้วพกแต่รอยยิ้มและความสดใสมาคลี่คลายความเงียบเหงาภายในบ้าน แม้แต่ร้านแสนหวานฯ ก็ถูกปกคลุมไปด้วยเสียงหัวเราะที่เคยขาดหาย ครั้นเมื่อกลับมาประกบคู่กับพวงชมพู อะไรๆ ก็ดูจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีไปเสียหมด ยิ่งเวลาที่โรงเรียนเลิก เสียงหัวเราะของอทิตยาก็จะช่วยเพิ่มสีสันให้กับบ้านหลังนี้มากขึ้นเป็นเท่าตัว
นับวันทรายแก้วยิ่งรู้สึกสนุกสนานไปกับการเป็นผู้ช่วยแสนสิวาเวลาทำขนม จนเกือบลืมไปเลยว่าทิ้งสามีให้อยู่ดูแลรีสอร์ตคนเดียวมาเกือบอาทิตย์แล้ว
บ่ายวันหนึ่งมีลูกค้าติดต่อเข้ามาที่ร้าน แสนสิวากำลังลุ้นเพราะไม่รู้ว่าลูกค้าจะโทรมาสั่งขนมหรือโทรมาต่อว่าเรื่องที่ทำอะไรพลาดไปกันแน่ เสียงปลายสายเอ่ยทักทายดูสุภาพ เดาว่าเจ้าของคงยังสาวและน่าจะมีอายุไม่เกินสามสิบปีด้วยซ้ำ
“คือดิฉันติดต่อมาจากชมธารารีสอร์ตนะคะ พอดีว่าก่อนหน้านี้เคยให้เด็กไปจ้างทำเค้กแต่งงานน่ะค่ะ ชื่อทินกร เมื่อสักประมาณสองอาทิตย์ก่อน ไม่ทราบว่าพอจะจำได้มั้ยคะ?” ปลายสายดูอัธยาศัยดี แสนสิวาเริ่มใช้ความคิด
“เอ่อ ทินกรเหรอคะ?...ที่สั่งออร์เดอร์เป็นคัพเค้กฟรุ๊ตสลัดเจ็ดชั้นนั่นรึเปล่าคะ?”
“ใช่ค่ะใช่ พอดีว่าตอนนั้นร้านประจำมีปัญหาก็เลยต้องเปลี่ยนร้าน โชคดีที่ถิงไปได้นามบัตรร้านคุณมาจากตลาดน้ำ เลยเพิ่งทราบว่าเป็นเจ้าของเดียวกัน จากคราวก่อนนั้นลูกค้าชมว่าเนื้อเค้กอร่อย แถมไอเดียในการตกแต่งก็ดีด้วย”
“ขอบคุณค่ะ...เอ่อ แล้วไม่ทราบว่าวันนี้มีอะไรอยากให้ว่านช่วยรึเปล่าคะ?”
“คือหวายอยากจะเปลี่ยนร้านประจำน่ะค่ะ จริงๆ แล้วอยากได้ร้านที่รับทำขนมไทยด้วย เพราะเรามีแพ็กเกจรับจัดงานแต่ง ทั้งช่วงเช้ายกขันหมากและงานเลี้ยงตอนกลางคืน ซึ่งโหวตกันแล้วเห็นว่าร้านคุณว่านน่าจะเหมาะ ยิ่งช่วงที่มีงานสัมมนาลูกค้าก็ติดต่อจองห้องจัดเลี้ยงหลายราย ไม่ทราบว่าทางร้านจะสามารถรับออร์เดอร์จากทางรีสอร์ตได้มั้ยคะ?”
แสนสิวาเริ่มยิ้มได้ ตอนนั้นทรายแก้วและพวงชมพูยืนสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ พอเห็นใบหน้าแช่มชื่นของแสนสิวาก็เดาได้ว่าเป็นเรื่องดี
เจ้าของร้านคนสวยไม่ติดปัญหาจึงนัดคุยรายละเอียดกันอีกครั้งที่ร้านในวันอาทิตย์หน้า เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ดูแบบเค้กและโปรโมชั่นที่มีด้วย งานนี้ให้ทั้งสิทธิพิเศษและส่วนลด เมื่อตกลงนัดหมายกันเรียบร้อยแล้วก็วางสายไป แต่ไม่วายถามชื่อและรีสอร์ตให้แน่ใจอีกครั้ง เพราะคับคล้ายคับคลาว่าเคยเห็นป้ายโฆษณารีสอร์ตแห่งนี้แถวท่าเรือ
แสนสิวาแสดงอาการดีใจออกมาเต็มที่ รีบบอกทรายแก้วและพวงชมพูว่ามีลูกค้าจ้างทำขนมประจำอีกรายหนึ่งแล้ว
ผู้ช่วยยิ้มแป้น ตอนแรกนึกว่าลูกค้าจะโทรมาต่อว่า พวงชมพูถามถึงวันเวลานัดหมายเพื่อจดลงตาราง พร้อมถามชื่อของลูกค้ารายนี้ แสนสิวาบอกว่าหญิงสาวชื่อชมหวาย เป็นเจ้าของชมธารารีสอร์ต
