บทนำ 3 รักต้องห้ามคำสาปสวรรค์
ห้องบรรทมเยว์ซิน เทพแห่งจันทรา
“เร็วซือเหยามาช่วยข้า ท่านพ่อ ท่านแม่เรียกหาข้าแล้ว”
“เพคะธิดาเทพ”
ซือเหยาช่วยเยว์ซินแต่งองค์ให้สง่างามสมกับที่เป็นเทพธิดาแห่งจันทราของสวรรค์ แม้นางจะเป็นหญิงตัวเล็ก ๆ แสนซน แต่หน้าที่ของนางนั้นยิ่งใหญ่นัก คำสั่งของสวรรค์นั้นไม่อาจละเลยได้
“ธิดาเทพแห่งจันทราเจ้าไปที่ใดมา ทำไมหมู่นี้ข้าไม่เจอเจ้ามาที่ท้องพระโรงเลย”
เสียงท่านเฮ่าเทียนตี้จุนผู้เป็นบิดาดังขึ้นในห้อง ท่าทางตื่นตระหนกเล็กน้อย
“ท่านพ่อเพคะ ข้าเป็นเทพธิดาตัวเล็ก ๆ จะไปไหนได้เพคะ อยู่ได้แค่สวนในสรวงสวรรค์เท่านั้นเพคะ”
เยว์ซินพูดพลางยิ้ม ตอบคำถามของบิดา
“ท่านพี่ก็อย่าว่าลูกเลย นางก็มีกิจของนาง”
ตี้หย่งเหอกล่าวปกป้องธิดาของตนทันที เยว์ซิน
มองตามารดาแล้วยิ้มอบอุ่นที่เห็นมารดาปกป้องนางจนถึงขนาดนี้
“ท่านแม่เข้าใจลูกที่สุด”
เยว์ซินเข้าไปกอดมารดาของนางอย่างออดอ้อน
“ถ้าท่านพ่อไม่มีอะไรจะตรัสกับข้าแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะเพคะ”
เยว์ซินยกมือประสานคารวะผู้เป็นบิดาและมารดาอย่างนอบน้อม จากนั้นนางหมุนตัวเพื่อเดินจากไปจนถึงประตู
แต่ทันใดนั้นก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อคนที่เดินตรงเข้ามาผู้นั้นคือ จิ่นหลิง
“ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?”
เยว์ซินถามด้วยความตกใจ ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความงุนงง
จิ่นหลิงเองก็มีสีหน้าตกใจไม่ต่างกันเมื่อพบว่าเยว์ซินอยู่ที่นี่
“แล้วเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”
เขาถามกลับด้วยเสียงที่เริ่มไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน
ยังไม่ทันที่เยว์ซินจะได้ตอบคำถาม เสียงทักทายจากเฮ่าเทียนตี้จุน จักรพรรดิสวรรค์ก็ดังขึ้นมา
“เทพแห่งสงคราม มาเร็วๆ ข้ารอเจ้าอยู่พอดี”
จิ่นหลิงยกมือประสานคาระวะองค์เทพทั้งสอง รู้ดีว่ามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ
เยว์ซินยืนอยู่ตรงนั้น รอเวลาที่จะได้พบกับจิ่นหลิง ทันทีที่จิ่นหลิงเข้าเฝ้าเฮ่าเทียนตี้จุนผู้ปกครองสวรรค์ เสร็จเขารีบออกมาหานางทันที
“เมื่อครู่ข้าต้องรีบเข้าเฝ้าจักรพรรดิต้องขอโทษเจ้าด้วย ข้าดีใจที่เจอเจ้า”
เขาพูดพลางยิ้มเล็กน้อยเหมือนจะขอโทษจากใจ
“แต่ข้าไม่ดีใจที่เจอเจ้าที่นี่! ที่นี่คือสวรรค์! เจ้าคิดถึงกฎแห่งสวรรค์บ้างหรือไม่?”
เสียงเยว์ซินดังขึ้นพร้อมกับความกังวลที่ซ่อนอยู่ภายใน แววตาของนางแฝงไปด้วยความวิตกกังวลจากกฎแห่งสวรรค์ที่นางเองก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
จิ่นหลิงยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาคิดอย่างจริงจังและก็ต้องชะงัก เพราะทั้งสองต่างมีความรักให้กัน แต่กฎแห่งสวรรค์ห้ามไว้
“ข้าคือเทพแห่งจันทรา เป็นธิดาของเฮ่าเทียนตี้จุน ข้ามีหน้าที่ดูแลความสงบและรักษาความสมดุลของจักรวาล รวมถึงการคุ้มครองโลกมนุษย์
"ส่วนท่าน... เทพแห่งสงคราม มีหน้าที่รักษาความแข็งแกร่งและการปกป้องในสนามรบ พลังของเรานั้นขัดแย้งกัน หากเราผูกพันเป็นความรัก... จะผิดกฎแห่งสวรรค์เพราะมีข้อห้ามไม่ให้เทพที่มีพลังที่ขัดแย้งกันมาอยู่ร่วมกัน เพื่อรักษาสมดุลของจักรวาล แล้วเราจะครองรักกันได้อย่างไร?”
เยว์ซินพูดออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ความรู้สึกที่ท่วมท้นในใจทำให้นางไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้
จิ่นหลิงมองนางตาไม่กะพริบ ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงที่หนักแน่นและมุ่งมั่น
“เจ้าใจเย็นๆ ก่อนนะ ทุกสิ่งย่อมมีทางออก...”
เขาเอื้อมมือไปจับมือของนางเบาๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหวัง
น้ำตาของเยว์ซินเริ่มเอ่อล้นขึ้นมา ความหวังที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขาทำให้หัวใจของนางเต้นแรง แต่กฎแห่งสวรรค์จะยอมให้พวกเขามีความรักได้จริงหรือ?
ท่ามกลางสวนแห่งสวรรค์ที่โปรยปรายด้วยละอองเมฆสีทอง ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์เบ่งบานส่งกลิ่นหอมอบอวล ต้นไม้แห่งชีวิตสั่นไหวราวกับรับรู้ถึงโชคชะตาของผู้ที่ยืนอยู่ใต้ร่มเงาของมัน
ร่างของทั้งสองกอดกันแนบแน่น หัวใจเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ก่อนที่เสียงอึกทึกจะดังขึ้น เทพสูงศักดิ์หลายองค์เสด็จลงมา พร้อมแววตาเข้มงวด
"เทพแห่งจันทรา! เทพแห่งสงคราม! พวกเจ้ากล้าละเมิดกฎสวรรค์เช่นนั้นหรือ?"
เสียงของเทพอาวุโสดังก้องไปทั่วสวน
ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วชั้นฟ้า ราวกับสายลมพัดกระจายประกาศถึงความผิดบาปอันใหญ่หลวง ทั้งสองถูกเรียกเข้าสู่ท้องพระโรงสวรรค์ วิหารทองคำเจิดจรัส
แต่บรรยากาศกลับเย็นยะเยือกจนน่าอึดอัด เทพเจ้ามากมายรายล้อมเป็นพยาน สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่พวกเขาราวกับรอคอยบทลงโทษ
"เสด็จพ่อ เสด็จแม่เพคะ ข้ากับเทพแห่งสงครามรักกันด้วยใจบริสุทธิ์ "
เสียงของเทพแห่งจันทราสั่นเครือขณะคุกเข่าลงเบื้องหน้าบัลลังก์สวรรค์ ทว่าในดวงตากลับเปล่งประกายแน่วแน่ มิได้หวาดหวั่นต่อโชคชะตาใด ๆ
จักรพรรดิสวรรค์ทอดพระเนตรนางนิ่ง ก่อนมีรับสั่งด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ
"พวกเจ้ารักกันด้วยใจบริสุทธิ์ก็จริง แต่สรวงสวรรค์และสงครามมิอาจดำรงอยู่ร่วมกันได้ หากพวกเจ้าปรารถนาจะรักกันจริง จงลงไปยังโลกมนุษย์! ใช้ชีวิตในสามภพสามชาติ เรียนรู้ถึงรักแท้และความเสียสละ หากสามารถผ่านบททดสอบด่านเคราะห์แห่งโชคชะตาได้ พวกเจ้าจึงจะมีสิทธิ์ครองคู่กัน พวกเจ้ายอมรับเคราะห์กรรมนี้หรือไม่?"
เทพแห่งสงครามและเทพธิดาแห่งจันทราสบตากันอย่างเข้าใจ รักที่พวกเขามีต่อกันบริสุทธิ์เกินกว่าจะปล่อยมือจากกันไปง่าย ๆ
"ท่านว่าอย่างไร... ท่านพร้อมจะด่านเคราะห์โชคชะตาร่วมกับข้าหรือไม่?"
เยว์ซินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงด้วยความมุ่งมั่น
"แน่นอน เยว์ซิน"
จิ่นหลินตอบกลับโดยไม่ลังเล
"ข้ารักเจ้า ต่อให้ต้องเผชิญด่านเคราะห์ยากเย็นแสนเข็ญเพียงใด ข้าก็จะหาทางกลับมารักเจ้าอีกครั้ง"
"หากพวกเจ้าตัดสินใจแน่วแน่แล้ว... ต่อจากนี้ ไม่ว่าพวกเจ้าจะเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเซียน หรือแม้แต่เป็นมาร พวกเจ้าต้องยอมรับมันให้ได้ เพราะนี่คือเส้นทางที่พวกเจ้าเลือกเอง ด่านเคราะห์ของพวกเจ้าหนักหนานักหวังว่าพวกเจ้าจะฝ่าฟันได้"
เทพอาวุโสเอ่ยเสียงเคร่งขรึม
มเหสีแห่งจักรพรรดิทอดถอนพระทัย ก่อนเอื้อมมือโอบกอดธิดาของตนเป็นครั้งสุดท้าย
"เยว์ซิน ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว แม่จะไม่ขัดเจ้า ขอให้เจ้ามีสติ ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง เพราะต่อจากนี้ ไม่มีใครคอยปกป้องเจ้าอีกแล้ว"
มืออ่อนโยนของมารดาลูบศีรษะเยว์ซินเบา ๆ แฝงด้วยความรักอันเปี่ยมล้น นางกอดมารดาแน่น ดื่มด่ำกับไออุ่นที่อาจเป็นครั้งสุดท้าย
"ข้ารักท่านพ่อและท่านแม่มาก ลูกคนนี้ต้องขออภัยที่ไม่สามารถอยู่รับใช้ท่านพ่อกับท่านแม่ได้"
น้ำเสียงของนางสั่นเครือ
"หากชาติภพหน้ายังมี ขอให้ลูกได้เกิดเป็นธิดาของท่านอีกครั้ง"
เยว์ซินปาดน้ำตาด้วยใจแน่วแน่ ขณะที่เทพแห่งสงครามก็ร่ำลาบิดามารดาของตนเช่นกัน
ณ วินาทีนั้น ทั้งสองกอดกันแน่น ดั่งจะจารึกสัมผัสสุดท้ายนี้ไว้ในหัวใจ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเมื่อเกิดใหม่ พวกเขาจะเป็นคู่รัก หรือเป็นศัตรูที่ต้องทำลายกันเอง
"จิ่นหลิน... สักวันข้าจะกลับมารักท่าน"
เยว์ซินกล่าวก่อนที่ทั้งสองจะจากกัน
"ไม่ว่าภพชาติใด ข้าจะปกป้องเจ้าเสมอ หากวันใดข้าทำร้ายเจ้าขอให้ข้าเจ็บไม่น้อยกว่าเจ้า ดูแลตัวเองแล้วสักวันเราจะกลับมารักกัน"
จิ่นหลิน กล่าวด้วยดวงตาที่อาลัยรักยิ่ง
ทันใดนั้น พลังแห่งสวรรค์ก็แปรเปลี่ยนเป็นสายลมกรรโชก พัดร่างของทั้งคู่ร่วงหล่นจากฟากฟ้า พวกเขาสบตากันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทุกอย่างจะจมหายไปสู่ห้วงมืดมิดแห่งโลกเบื้องล่าง...
ภพชาติแรก: เงามารแห่งดอกโบตั๋น
มู่หลิน หญิงสาวผู้ถือกำเนิดจากดอกโบตั๋นอันศักดิ์สิทธิ์ ด้วยพลังแห่ง มุขจันทรา อันล้ำค่าจากการภาวนาของ นักพรตอี้เซียน นางมีพลังพิเศษที่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตและทำให้ผู้ครอบครองเป็นอมตะ
ไป๋เทียนหลง บุตรชายแม่ทัพผู้ต้องสูญเสียมารดาจากความอยุติธรรม เขาหนีออกจากบ้านและใช้ชีวิตเร่ร่อนจนกระทั่งถูกชักนำให้เข้าสู่เส้นทางแห่งอธรรม กลายเป็นบุตรบุญธรรมของ จอมมาร และได้รับการฝึกฝนให้เป็นผู้สืบทอดพลังมาร
เมื่อไป๋เทียนหลงได้พบกับมู่หลิน เขารู้ว่านางเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เขากลายเป็นจอมมารผู้ไร้เทียมทาน เขาจึงแสร้งทำดีกับนาง หลอกล่อให้นางมอบพลังให้แก่เขา แต่กลับกลายเป็นว่าความใกล้ชิดทำให้ทั้งสองตกหลุมรักกันจริง ๆ
ทว่าเส้นทางแห่งความรักของพวกเขากลับเต็มไปด้วยขวากหนาม เพราะหากไป๋เทียนหลงรับตำแหน่งจอมมารเต็มตัว โลกมนุษย์จะต้องล่มสลาย ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงร่วมมือกันวางแผนสังหารจอมมารเพื่อทำลายพลังอำนาจ แต่แผนกลับผิดพลาด ไป๋เทียนหลงถูกครอบงำด้วยพลังมารจนไม่อาจหวนคืนได้
สุดท้ายแล้ว ความรักของทั้งคู่จะลงเอยเช่นไร?
? ติดตามได้ใน...: เงามารแห่งดอกโบตั๋น ?