บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 เจ้าไม่มีวันเข้าใจ

หุบเขาจอมมาร…

“พี่มู่หลิน!” เสียงใสของไป๋เยี่ยนดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มดีใจ เมื่อเห็นสหายที่คุ้นเคย

“ไป๋เยี่ยน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง มาที่นี่นานแล้วหรือยัง?”

มู่หลินถามพลางจับไหล่นางเบาๆ

ไป๋เยี่ยนถอนหายใจแล้วเล่าเสียงแผ่ว

“ข้ากำลังจะไปแจ้งข่าวกับอาจารย์ของท่าน แต่ระหว่างทางเจอโจรป่า ดีที่องครักษ์ของพี่ใหญ่ช่วยไว้ แต่ว่า...พวกเขากลับจับข้ามาที่นี่แทน”

มู่หลินขมวดคิ้วแน่น ความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้น

“ป่านนี้อาจารย์และศิษย์พี่ทั้งหลายต้องเป็นห่วงข้าแล้ว”

สายตาของนางตวัดไปมองไป๋เทียนหลงที่ยืนสงบนิ่งอยู่มุมห้อง ราวกับไร้ความรู้สึก

“ท่านจอมมาร! ท่านจับน้องสาวตนเองมาทำไม? นี่หรือคือหัวใจของพี่ชาย ช่างอำมหิตนัก!”

น้ำเสียงของนางแข็งกร้าว ขณะที่ไป๋เยี่ยนรีบสะกิดแขนมู่หลินเป็นเชิงปราม

ไป๋เทียนหลงมองนางนิ่ง ก่อนจะกล่าวเรียบ ๆ

“ที่ข้าพาเจ้ามารักษาที่นี่ เจ้ากลับว่าข้าอำมหิตหรือ?”

“ใช่! ต่อให้ท่านช่วย แต่ไม่ยอมให้คนติดต่ออาจารย์ข้า ป่านนี้อาจารย์ของข้าต้องตามหาข้าทั่วแล้ว”

มู่หลินกล่าว

ไป๋เทียนหลงแค่นเสียงเย็นชา

“ไม่ต้องห่วง ข้าให้คนไปส่งพวกเจ้าพรุ่งนี้”

ไป๋เยี่ยนลังเลก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา

“พี่ใหญ่... ท่านพ่อสำนึกผิดแล้ว ท่านให้อภัยท่านพ่อได้หรือไม่?”

ไป๋เทียนหลงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนมองไป๋เยี่ยนด้วยสายตาเยือกเย็น มู่หลินสังเกตเห็นว่าภายใต้แววตานั้นแฝงไว้ด้วยความปวดร้าว

“เจ้าไม่เป็นข้า เจ้าจะไม่มีวันเข้าใจ” เสียงของเขาเย็นเฉียบ ราวกับมีดที่บาดลึกเข้าไปในหัวใจไป๋เยี่ยน

“และต่อไป อย่าเรียกข้าว่าพี่ใหญ่อีก ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลไป๋อีกแล้ว”

ไป๋เยี่ยนตัวสั่น น้ำตาเอ่อคลอ นางพยายามฝืนใจไม่ให้เสียงสั่นไหว

“ไม่เกี่ยวข้อง? แต่ท่านยังใช้ชื่อไป๋เทียนหลง! นี่เรียกว่าตัดขาดแล้วจริงหรือ?”

ไป๋เทียนหลงหลับตาลงเล็กน้อย ก่อนเปิดออกอีกครั้งราวกับตัดสินใจแน่วแน่

“ไป๋เทียนหลง... เป็นชื่อที่ท่านแม่ตั้งให้ เป็นสิ่งเดียวที่ข้าจะรักษาไว้”

“พี่ใหญ่...”

ไป๋เยี่ยนเอื้อมมือไปหาเขา แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นเพียงแผ่นหลังที่หันเดินจากไปอย่างเย็นชา

มู่หลินเห็นไป๋เยี่ยนยืนกำมือแน่น น้ำตาร่วงเงียบๆ นางจึงก้าวเข้ามาลูบไหล่ปลอบเบาๆ

“ไป๋เยี่ยน... พอเถอะ ไว้ค่อยเป็นค่อยไป”

ไป๋เทียนหลงไม่หันกลับมาอีกเลย ร่างสูงเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบงัน ทิ้งไว้เพียงความเย็นเยียบของความสัมพันธ์ที่แตกสลาย...

“ไว้เราออกจากที่นี่ได้เมื่อไร เราค่อยมาหาทางแก้ไขเรื่องนี้ไปด้วยกันนะ”

มู่หลินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ไป๋เยี่ยนเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ

“พี่มู่หลิน… ข้ากลัวเหลือเกิน กลัวว่าพี่ชายข้าจะกลายเป็นจอมมารอย่างเต็มตัว…จนไม่เหลือความเป็นคน”

มู่หลินยกมือแตะไหล่ของไป๋เยี่ยนเบาๆ ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น

“ตราบใดที่ข้ายังมีลมหายใจ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อฉุดรั้งพี่ชายของเจ้าไว้ ข้าจะไม่ยอมให้เขาตกสู่ความมืดมิดโดยเด็ดขาด”

ไป๋เยี่ยนเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ท่านกับพี่ชายข้า…รู้จักกันมานานแล้วหรือ”

มู่หลินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มจางๆ ดวงตาของนางฉายแววคิดถึง

“เราเคยพบกันเพียงไม่กี่ครั้ง… แต่ข้ากลับรู้สึกเหมือนผูกพันกับเขาอย่างประหลาดมากเสียจนบางครั้งข้าคิดว่า…เขาอาจเป็นคนรักของข้าในชาติก่อน”

ไป๋เยี่ยนเบิกตากว้าง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ข้าว่า…บางที่นี่อาจเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต ที่ทำให้พี่ทั้งสองได้มาพบกัน…และครองรักกัน”

“ข้าหวังว่าจะช่วยไม่ให้เขาเป็นจอมมารได้สำเร็จ เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นโลกนี้ต้องเดือดร้อนเป็นแน่”

เมื่อรุ่งสาง..

"ท่านจอมมารให้ข้ามาพาพวกเจ้าออกจากที่นี่" เฮยเฟิงกล่าวตามคำสั่ง

มู่หลินขมวดคิ้ว นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยใจ

"แล้วทำไมเขาไม่มาบอกข้าด้วยตนเอง?"

"ท่านจอมมารติดภารกิจ ไม่สามารถมาได้" เ

ฮยเฟิงตอบเรียบๆ ก่อนผายมือเชื้อเชิญ

"พวกเจ้าตามข้ามาเถิด"

มู่หลินเม้มริมฝีปาก ก่อนพึมพำเบาๆ

"ขี้ขลาด... แค่จะมาส่งยังไม่กล้าเลย"

แม้นางจะบ่น แต่นางก็ยอมเดินตามไปแต่โดยดี

ที่มุมหนึ่งของหุบเขา ไป๋เทียนหลงยืนมองเงาร่างของมู่หลินที่ค่อย ๆ ห่างออกไป ลึกลงไปในใจ เขารู้สึกใจหาย แต่นั่นจะสำคัญอันใด?

ระหว่างเขากับนาง… คงเป็นเพียงผลประโยชน์ คนเช่นเขาจะใครจะรักได้อีกเล่า? นอกจากมารดาของเขาที่ไม่อยู่บนโลกใบนี้ สุดท้าย… ปล่อยให้ชะตากำหนดทุกสิ่งก็พอแล้ว

วังจ้าวแห่งจอมมาร...

“จอมมาร ที่พ่อเรียกเจ้ามาเพื่อจะคุยเรื่องนางผู้นั้น ข้าสัมผัสได้ถึงมุกพลังจันทราของนาง”

จ้าวแห่งจอมมารตรัสอย่างสนใจ

“จากที่ข้าสัมผัสได้ นางน่าจะมี มุกพลังจันทรา จริง แต่การจะช่วงชิงมา เกรงว่าจะไม่ง่าย”

จ้าวแห่งจอมมารแสยะยิ้ม นัยน์ตาสีโลหิตเปล่งประกายเย็นเยียบ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงเล่ห์กล

“มุกพลังจันทราไม่ใช่สิ่งที่ใครจะแย่งชิงได้ง่ายๆ เว้นเสียแต่ว่า... เจ้าของจะเต็มใจมอบให้ด้วยความยินดี”

เขาหยุดสายตาไว้ที่ไป๋เทียนหลง มองลึกลงไปในดวงตาของบุตรบุญธรรมราวกับจะมองทะลุถึงหัวใจ

“ท่านพ่อหมายความว่าอย่างไร?” ไป๋เทียนหลงขมวดคิ้ว เอ่ยถามด้วยความสงสัย

จ้าวแห่งจอมมารหัวเราะเบาๆ ก่อนกล่าวเสียงเรียบแต่แฝงอำนาจ

“ตัวเจ้าก็มีเสน่ห์ไม่น้อย หากเจ้าทำให้นาง รัก เจ้าแล้วมอบมุกพลังจันทราด้วยความเต็มใจ ก็มิต้องเสียแรงแย่งชิง... เจ้าพร้อมจะร่วมมือกับข้าหรือไม่?”

ไป๋เทียนหลงเม้มปากแน่น ลังเลเพียงครู่เดียว ก่อนจะเอ่ยเสียงหนัก

“ท่านพ่อ... ข้า...”

“เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องสมรสกับธิดามาร ข้าสามารถเลื่อนออกไปได้”

จ้าวแห่งจอมมารกล่าวเสียงเย็น

“แต่มีเงื่อนไขสำคัญ เจ้าต้องห้ามหลงรักแม่นางผู้นั้นเป็นอันขาด!”

ไป๋เทียนหลงกำหมัดแน่น ดวงตาแข็งกร้าว

“ไม่มีทางที่ข้าจะมีใจให้ผู้ใด ในชีวิตนี้ ข้าจะไม่มีรัก!”

“ดีมาก”

จ้าวแห่งจอมมารพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเอ่ยต่อ

“แต่อย่างไรเสีย เจ้าก็ต้องแต่งงานกับธิดามาร เพื่อให้กำเนิดทายาทแห่งมาร เวลาของข้าเหลือไม่มาก... ข้าต้องมั่นใจว่ามารรุ่นต่อไปจะแข็งแกร่งเหนือกว่าผู้ใด”

ไป๋เทียนหลงก้มศีรษะต่ำ

“ข้าจะพยายาม ท่านพ่อ”

จ้าวแห่งจอมมารยิ้มมุมปาก ก่อนทอดเสียงเรียบ

“นอกจาก มุกพลังจันทรา ที่สามารถทำให้มารเป็นอมตะ ยังมี หอกสวรรค์จันทรา อาวุธศักดิ์สิทธิ์ ที่จะทำให้ไม่มีเทพหรือมนุษย์หน้าไหนสังหารเจ้าได้”

ไป๋เทียนหลงเงยหน้าขึ้นทันที

“แล้วมันอยู่ที่ใด ท่านพ่อ?”

“หุบเขากระดูกขาว” จ้าวแห่งจอมมารตอบ

“แต่เจ้าต้องพาแม่นางผู้นั้นไปด้วย นางจะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดผนึกหอกสวรรค์จันทรา”

ไป๋เทียนหลงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงของจ้าวแห่งจอมมารจะกดต่ำลง

“...แต่หากเจ้าขัดคำสั่งข้า เจ้ารู้ดีว่าข้าจะทำเยี่ยงไรกับคนทรยศ”

ร่างสูงชะงักงัน ก่อนกล่าวเสียงหนักแน่น

“ข้าไม่มีวันทรยศท่าน! ท่านเป็นผู้ให้ชีวิตแก่ข้า!”

รอยยิ้มพึงพอใจแต้มบนใบหน้าของจ้าวแห่งจอมมาร เขากวักมือเรียก

“มาใกล้พ่อสิ... จอมมารของพ่อ”

ไป๋เทียนหลงก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเล จ้าวแห่งจอมมารเสก ยาโอสถสีชาดขึ้นมา ก่อนยื่นให้

“ยาบำรุงพลัง จงกินเสีย”

ไป๋เทียนหลงรับมาอย่างเชื่อฟัง ดื่มลงไปในคราเดียว

เขาไม่เคยสงสัยในตัวจ้าวแห่งจอมมาร เพราะนอกจากแม่ของเขาแล้ว ก็มีเพียงบุรุษตรงหน้าเท่านั้นที่รักและเลี้ยงดูเขามาแต่เด็ก

...แต่หารู้ไม่ว่า ยาที่เขากลืนลงไปนั้นคือ พิษกลืนวิญญาณ

พิษร้ายที่มัดขังดวงจิตของผู้ที่กินเข้าไป หากฝืนคำสั่ง เจ้าของพิษสามารถกระตุ้นให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะสับสน หลงลืมตัวตน... และสุดท้าย กลายเป็นเพียง หุ่นเชิด ที่ไร้จิตวิญญาณ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel