บทที่ 2 ตอนที่ 5
"ใช่สิ...ทำไมฉันจะจำไม่ได้ เธอคือพเยีย...ไม่มีอะไรที่ไม่เหมือน ทุกรายละเอียด...พเยียคือเธอ..." ร่างใหญ่ของศิขราเดินไปยืนตรงหน้าของหล่อน
ช่อเอื้องยืนขึ้นรับรู้ถึงภัยย่อมๆ ที่กำลังคืบคลานเข้ามา แต่หล่อนก็ไม่คิดจะหาทางหนี คงเผชิญหน้ากับความไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายกำลังพยายามพูดสื่อถึงอะไรบางอย่าง
"ฉันคือช่อเอื้องค่ะ...ถ้าพเยียคนนั้นเคยมีอดีตกับคุณก็คงเป็นเรื่องบังเอิญมากที่เธอหน้าตาเหมือนฉัน แต่ขอยืนยันว่าฉันไม่ใช่ คุณสืบประวัติได้เลยนะ อีกอย่าง...นี่เป็นคืนแต่งงานของฉันกับพ่อของคุณ...กรุณาให้เกียรติด้วย มันคงไม่เหมาะถ้ามีผู้ชายอื่นเข้ามาในห้องนอกจากเจ้าบ่าว"
หล่อนยืนยันตัวตนพร้อมทั้งออกปากเตือนชายหนุ่มกรายๆ ร่างเล็กขยับเดินออกห่างเล็กน้อยเพื่อคลายความอึดอัดของบรรยากาศในห้องหอ
"ไม่จริง..." เขาจดจ้องมองทุกความเคลื่อนไหวของร่างเล็ก พร้อมทั้งส่ายหน้าปฏิเสธทุกสารจากหล่อน
ศิขรามั่นใจเหลือเกินว่าผู้หญิงในชุดเจ้าสาวคนนี้คือคนคนเดียวกับพิณพเยีย...หญิงสาวที่เคยพัวพันด้วย และมีบางอย่างที่เขายังคงค้างคาไม่ได้สะสาง และคิดว่าชาตินี้คงไม่มีวันได้ทำมันอีกแล้ว
"จะเชื่อหรือไม่ก็เรื่องของคุณ ฉันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมายืนยันอะไรกับคุณในตอนนี้ เชิญออกไปก่อนดีไหมคะ เกิดใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี"
"ไม่พเยีย...เธอจะเข้าหอกับพ่อฉันไม่ได้ถ้าหากเรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง"
"คุณต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง เลิกบ้าซะที เราเพิ่งจะเจอหน้ากันแค่สองครั้งเท่านั้นเองคุณจะมารู้อะไรดีเกี่ยวกับตัวฉันได้ยังไง"
"เชื่อเถอะว่า...ฉันจะมีไม่มันยอมให้พ่อมีเมียคนเดียวกับฉันหรอก นั่นต่างหากที่เป็นเรื่องบ้าชัดๆ!"
"ว้าย! นี่คุณ ปล่อยฉันนะ!" ร่างของช่อเอื้องถูกลากไปตามแรงของคนตัวใหญ่กว่า เขาจงใจจะดึงให้หล่อนเดินตามโดยไม่มองเหลียวหลัง และมันก็ง่ายดายเพราะกำลังที่ต่างกันแม้อีกฝ่ายจะขืนตัวและพยายามแกะมือเขาออกการมัดจับเอาไว้แน่นก็ตาม
"นี่คุณ! จะได้เวลาที่พ่อคุณจะเข้ามาแล้วคุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยคุยกันก็ได้นี่"
"คุยกัน...ตอนที่ทุกอย่างมันสายไปแล้วนะเหรอ หึ...ไม่มีทาง" ใบหน้าคมสันเข่นเขี้ยวกัดฟันกรอด เขามีความในใจอีกมากมายที่ต้องได้รับการชำระล้าง แต่มันจะดำเนินการใดๆ ไม่ได้เลยหากขาดผู้หญิงที่ชื่อพิณพเยียไปสักคน
เพราะหล่อน...คือต้นตอ ของความคั่งค้างใจทุกสิ่งทุกอย่าง
ศิขรารู้ดีว่าตนเองไม่ได้มีเวลามากพอในการเท้าความกับเจ้าสาวคนสวยของบิดาในค่ำคืนนี้ เขาจ้องรอคอยโอกาสที่หล่อนจะพำนักอยู่เพียงลำพังเพื่อการนี้โดยเฉพาะ จึงไม่รีรอเลยเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวคนสนิทและพนักงานของทางโรงแรมออกจากห้องหอไปก่อนหน้าที่เขาจะตัดสินใจบุกเข้ามา
หากรอให้ถึงวันพรุ่ง...ใจเขาคงระเบิดออกเป็นเสี่ยงเล็กเสี่ยงน้อยไปเสียก่อนเป็นแน่แท้...
"คุณปั้น! นี่..."
"หุบปากซะพเยีย...ถ้าคิดจะร้องให้คนรู้แล้วเข้ามาช่วยก็บอกไว้เลยว่าเธอคิดผิด เพราะลองถ้าฉันตั้งใจเอาไว้แล้วไม่มีใครมาขัดขวางฉันได้ง่ายๆ หรอก ยิ่งโวยวายก็มีแต่เธอนั่นแหละ...ที่จะต้องเจอปัญหาหนักไปกว่านี้อีก" เสียงทุ้มหนักแน่นเอ่ยในขณะที่ลากจูงหล่อนไปตามทางเดินซึ่งทอดยาวไปยังด้านหลังของโรงแรม สถานที่แรกที่หล่อนและเขาได้พบกันเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน
ช่อเอื้องไม่รู้จุดประสงค์ของเขา ไม่รู้ว่าลูกชายของว่าที่สามีคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่ แต่หล่อนก็ยอมนิ่งสงบเชื่อฟังในคำขู่นั้น เพราะเห็นแล้วว่าศิขราบ้าบิ่นจริงๆ ขนาดหล่อนสวมชุดเจ้าสาวและเข้าพิธีวิวาห์กับบิดาของเขาแล้ว ชายหนุ่มยังไม่สนใจเลยว่าควรจะปฏิบัติตัวกับหล่อนอย่างไร
"คุณจะพาฉันไปไหน!"
"ไปคุยกันให้รู้เรื่องไง หรือจะให้นอนคุยกันในห้องหอกันสามคนงั้นเหรอ"
ช่อเอื้องหายใจเหนื่อยหอบในขณะที่ถูกลากให้เดินด้วยความรีบร้อน โดยอีกฝ่ายไม่ได้สนใจเลยว่าหล่อนกำลังฝืนอย่างหนักจากอาการเจ็บระบมตรงข้อเท้าจากอุบัติเหตุก่อนหน้า โชคดีที่ได้เปลี่ยนรองเท้าเป็นแบบพื้นธรรมดาแล้วไม่อย่างนั้นกว่าจะคุยกันรู้เรื่องหล่อนคงพิการไปเสียก่อน
"โอ๊ย! ช้าๆ หน่อยได้ไหม ฉันเจ็บเท้า..." ในที่สุดหญิงสาวก็ไม่อาจทานทนต่อพิษความเจ็บปวดได้ไหว หล่อนกัดริมฝีปากของตัวเองในขณะที่ร่างใหญ่หยุดเดิน และหันมามองสำรวจแต่มือนั้นก็ยังไม่ยอมปล่อยจากการจับล็อกเอาไว้
"ฉันจะพาเธอไปที่แห่งหนึ่ง...หวังว่าที่นั่นจะทำให้เธอยอมรับความจริงแล้วอธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้น..." ศิขราอธิบายคร่าวๆ ถึงจุดประสงค์ที่ลากตัวหล่อนออกมาจากเรือนหอ ราวกับลืมไปแล้วว่าคืนนี้มันมีความสำคัญต่อหล่อนและบิดาของเขาอย่างไร
อาจจะไม่ลืม...แต่ไม่ได้สนใจไปกว่าความต้องการของตนเอง...
"อุ้ย! ว้าย!" ร่างเล็กลอยลิ่วโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามายกอุ้มพาดบ่า จบปัญหาข้ออ้างเรื่องความเจ็บปวดตรงข้อเท้าของหล่อน เขาใช้มือเพียงข้างเดียวในการประคองจับร่างทั้งร่างเอาไว้ราวกับไม่รู้สึกรู้สาต่อน้ำหนักที่ต้องแบกรับเพิ่มขึ้น
เขายังคงก้าวเดินเร่งเร็วดังเช่นปกติ ในขณะที่ช่อเอื้องนั้นจับชายเสื้อด้านหลังของเขาเอาไว้เสียแน่นด้วยความหวาดกลัว
เจอหน้ากันเพียงสองครั้ง...เขาก็สร้างวีรกรรมที่เกินความคาดหมายให้หล่อนได้ทั้งสองครา
