บทที่ 2 ตอนที่ 2
"ขอบคุณมากนะคุณมณี นี่ช่อเอื้องเจ้าสาวของพี่ เอื้องครับ...นี่คุณมณีเพื่อนรุ่นน้อง เป็นเพื่อนที่แสนดีที่สุดของฉัน" เจ้าบ่าวเอ่ยแนะนำให้หญิงสาวต่างวัยได้รู้จักกัน ช่อเอื้องยกมือไหว้ตามมารยาทของผู้น้อย อีกฝ่ายก็รับไหว้ยินดี
"เอ...ว่าแต่ตาปั้นล่ะคะ เดินเข้ามานี่ก็ยังไม่เห็นเลย"
"มานั่งทางนี้เถอะ...จะได้คุยกันสะดวกตาปั้นยังมาไม่ถึง แต่ก็คงมาทันเมื่อกี้โทร.มาบอกว่ากำลังเดินทาง" กฤษณะเจ้าบ่าวเอ่ยบอกกับแขกคนสำคัญพร้อมผายมือเชื้อเชิญให้หล่อนเดินตามเขาไปยังโต๊ะรับรอง
"มีอะไรกันหรือเปล่าคุณพี่...น้องเป็นห่วงตาปั้นเหลือเกิน" เนตรมณีถามด้วยตนเองค่อนข้างสนิทกับครอบครัวนี้พอสมควร แม้ว่าหล่อนจะมีความรู้สึกพิเศษกับกฤษณะแต่ก็ไม่เคยคิดก้าวล่วงเข้าไปในชีวิตเขาหากเจ้าตัวไม่มีใจให้ การไปมาหาสู่จึงดำเนินอยู่ภายใต้ขอบเขตคำว่าเพื่อนเสมอ
"ไม่มีอะไรหรอก ตาปั้นเข้าใจดีเราคุยกันแล้ว คงมีเหตุจำเป็นแหละถึงมาสาย ก็รู้ๆ กันอยู่ลูกชายพี่คนนี้มันเอาแน่เอานอนได้ที่ไหน"
"อ๋อค่ะ...ถ้าอย่างนั้นน้องก็วางใจ" คุณเนตรมณียิ้มพร้อมกับพยักหน้าในขณะที่ก้าวเท้าไปข้างหน้าตามคำเชิญ
"คุณกฤษคะ...เอื้องขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ" เจ้าสาวชุดขาวเอ่ยขึ้นในขณะที่กฤษณะกำลังจูงหล่อนเดินตามคุณเนตรมณีไปยังโต๊ะรับรองเพื่อดูแลแขกคนพิเศษ หล่อนรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศและสายตาในงานนี้เหลือเกิน แม้เจ้าบ่าวผู้แสนดีจะปลอบใจอย่างไร แต่ความรู้สึก...มันบีบบังคับกันไม่ได้
หล่อนรู้ที่มาของตัวเอง...รับรู้ความคิดความอ่านจากการถูกจ้องมองเป็นอย่างดีว่าคนในงานนี้คิดอย่างไร กับการที่หล่อนยอมมาเป็นเจ้าสาวของผู้ชายซึ่งมีอายุรุ่นพ่อ แต่ก็นั่นแหละในเมื่อได้ตัดสินใจไปแล้วหล่อนก็ไม่คิดจะถอยหลังหรอก
เป้าหมาย...และความอยู่รอดของคนในครอบครัวรวมถึงตัวหล่อนขึ้นอยู่กับหล่อนเพียงคนเดียวเท่านั้น
"ให้ฉันไปเป็นเพื่อนหรือเปล่า..."
"ไม่ต้องหรอกค่ะคุณท่าน เอ่อ...คุณกฤษเอื้องไปเองได้ คุณกฤษอยู่ดูแลแขกในงานดีกว่าค่ะ" ช่อเอื้องกล่าวพร้อมยิ้มให้กับเจ้าบ่าวของหล่อนและเพื่อนสาวคนสนิทของเขา จากนั้นก็ขอตัวเดินออกไปจากห้องจัดงานเลี้ยง
หญิงสาวถอนหายใจด้วยความปลอดโปร่งเมื่อสามารถพาตัวเองออกมาจากความบรรยากาศชวนอึดอัดนั้นได้ หล่อนไม่ได้ไปห้องน้ำอย่างที่บอกกับกฤษณะหรอก เพียงแต่อยากหลุดพ้นจากวงโคจรสังคมชั้นสูงของฝั่งเจ้าบ่าวสักพักสักครู่ เพื่อให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย
