1-5
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป พลอยวารินทร์ก็ทำอาหารเสร็จ อาหารที่พลอยวารินทร์ทำนั้นมีหลายอย่างทั้งมัสมั่นไก่ ผัดผักสามสหาย ปลาแซลมอนอบเกลือ ซุปไก่ใส่มันฝรั่ง ทั้งหมดเธอทำโดยมีแม่บ้านช่วยเป็นลูกมือ เธอทำเยอะพอที่จะเผื่อให้บอดี้การ์ด รวมไปถึงแม่บ้านและนีน่าได้กินด้วย
บนโต๊ะอาหารที่มีอาหารวางอยู่ครบครัน เธอทำอาหารเสร็จก็ไปตามคนที่เป็นเจ้าของทุกอย่างในห้องเพนต์เฮาส์หลังนี้มากิน เขาเดินมาถึงตอนที่เธออุ้มลูกสาวมานั่งโต๊ะเด็กแล้ว ไข่มุกร้องจะกินทุกอย่างจนคนเป็นแม่ปวดหัวไปหมดเพราะรั้งตัวของแม่หนูน้อยไว้แทบไม่ไหว แม่หนูน้อยจ้ำม่ำเพราะกินเก่งมากยื่นมือไปคว้าจานโน้นจานนี้วุ่นวายไปหมด ทั้งปากเล็กจิ้มลิ้มก็พร่ำบอก
“กินปลา กินปลา”
“เดี๋ยวแม่ตักให้”
“เอาอีก ๆ”
แม้พลอยวารินทร์จะเหนื่อยใจที่ต้องคอยจับลูกไม่ให้ยื่นมือไม้ลงไปกลางวงแต่เธอก็มีความสุขที่ได้ป้อนอาหารให้ลูกกิน เฮย์เดนเพิ่งเคยกินข้าวกับสองคนแม่ลูกเป็นครั้งแรกเขายังต้องเหงื่อตกที่เห็นฤทธิ์น้อย ๆ ของลูกสาวอาละวาดบนโต๊ะกินข้าวเพราะต้องช่วยพลอยวารินทร์คว้าจานที่ลูกสาวยื้อแย่งกลัวว่าจะหล่นจากโต๊ะ
“ผมช่วยจับลูกไว้ ส่วนคุณตักปลาให้ไข่มุกดีไหม” หลังจากผ่านศึกบนโต๊ะมาสักระยะ เฮย์เดนจึงเสนอขึ้น
พลอยวารินทร์มองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ คิ้วเรียวงามเลิกขึ้นสูง “เอ่อ คุณจะดูแลไข่มุกได้หรือคะ แกวุ่นมากเลยตอนกินข้าว”
“จะยากอะไรกับเด็กเล็ก ๆ คนเดียว ส่งไข่มุกมาเถอะ ไม่งั้นอาหารบนโต๊ะนี้คงเละเพราะฝีมือไข่มุกเทรวมกันหมด”
“ก็ได้ค่ะ” พลอยวารินทร์ยิ้มแหย ๆ ส่งแม่หนูน้อยจ้ำม่ำไปให้เขาอุ้ม
เฮย์เดนรับมาแล้วก็หยอกล้อด้วยการเอาช้อนให้ถือเพื่อให้แม่หนูสงบเพื่อที่เขาจะตักอาหารอย่างอื่นให้ลูกกินขณะที่พลอยวารินทร์ตักปลาแซลมอน แต่เขาคิดผิดที่ส่งวัตถุสีเงินนั้นไปให้ เพราะมันเป็นเหมือนอาวุธของแม่หนูที่ใช้มาทำร้ายเขา ช้อนสีเงินยาว ๆ ตีแหมะลงบนดั้งจมูกเขาเต็มรัก
“โอ๊ย” เฮย์เดนยกมือกุมดั้งจมูก ขณะที่แม่หนูน้อยหัวเราะคิกทันที เขาไม่เจ็บแต่เขาแค่ตกใจเพราะไม่ทันระวังตัวจากอาวุธที่เพิ่งส่งให้ “แด๊ดเจ็บนะครับ แกล้งแด๊ดทำไม งั้นต้องโดนแกล้งคืนบ้าง”
ระหว่างที่พลอยวารินทร์กำลังตกใจที่เห็นไข่มุกเอาช้อนตีจมูกเฮย์เดน เธอวางปลาแซลมอนที่ตักแล้วลงอย่างเร็ว ปราดเข้าไปจะอุ้มลูกคืนแต่เฮย์เดนกลับทำให้ไข่มุกกลับมาหัวเราะได้อีกครั้ง เขาแกล้งเอาไรเคราที่เป็นตอแข็ง ๆ ไปถูไถกับแก้มยุ้ยจนไข่มุกหัวเราะคิกคัก ดิ้นตัวหนี
“ไม่เอา ไม่เอา จั๊กจี๋”
เฮย์เดนจึงได้หยุดพร้อมรอยยิ้มกว้างที่ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูอบอุ่นทั้งยังดูใจดีขึ้นอย่างประหลาด มือหนาเอื้อมไปหยิบจานที่พลอยวารินทร์ตักปลาไว้แล้วมาวางตรงหน้า “มามี้ตักปลาให้แล้ว ไข่มุกกินปลาจานนี้หมดก่อนแล้วแด๊ดจะพาไปเล่นตัวต่อ”
“กิน กิน ปลา” ไข่มุกอ้าปากกว้างท่าทางอยากกินมาก
พลอยวารินทร์เห็นว่าเฮย์เดนปราบยัยตัวเล็กได้แล้วจึงเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม มองเฮย์เดนป้อนข้าวกับปลาแซลมอนให้ลูกสาว คนเป็นแม่ได้แต่กะพริบตามองปริบ ๆ เฮย์เดนป้อนไปคำหนึ่งก็หกออกมาอีกสองคำ
“...” พลอยวารินทร์เงียบขณะที่เสียงใสร้องโวยวายขึ้น
“กิน กิน” ไข่มุกร้อง มือก็ยื้อแย่งเอาช้อนจากคนเป็นพ่อ
เฮย์เดนไม่คิดว่าการป้อนข้าวลูกยากกว่าการช้อนซื้อหุ้นเมื่อเช้านี้เสียอีก เขาหน้าเสียแต่ก็พยายามหลอกล่อลูกสาวต่อ “แด๊ดป้อนไม่ทันใจหรือครับ”
แม่หนูน้อยไม่สนใจแย่งช้อนไปตักเข้าปากเอง “อาหย่อย เอาอีก เอาอีก”
พลอยวารินทร์ที่นิ่งเงียบอยู่นานแล้วต้องอดขำพรืดออกมาไม่ได้ เฮย์เดนทำหน้าเหลอที่เห็นท่าทางกินจุของไข่มุก นี่ลูกสาวเขาอดอยากได้กินอาหารครบทุกมื้อหรือเปล่าถึงได้กินราวกับหิวโหย
เฮย์เดนรู้สึกงุนงง “หิวมากเหรอครับ” เขาจับช้อนจากมือสาวน้อยแย่งเอามาจะจิ้มเนื้อปลาป้อนให้ ลูกสาวก็เอามือไปหยิบชิ้นปลาคว้าใส่ปาก เขาว่าตัวเองทำอะไรว่องไวแต่เด็กน้อยไวกว่าเขา
“มือเลอะไปหมดเลย”
ไข่มุกยิ้มหวานหัวเราะแหะ ๆ ที่พ่อบอกว่าเธอมือเปรอะ จากนั้นแม่หนูน้อยก็เอามือเลอะ ๆ ป้ายเสื้อเชิ้ตอาร์มานีราคาแพงระยับของเขาทันที เฮย์เดนตกใจกับการกระทำของลูกจนมองตาค้าง นี่คือผลแห่งการกระทำที่เขาไม่เคยดูแลลูกอย่างใกล้ชิดหรือเปล่า
“แย่แล้ว! ทำไมทำแบบนั้นคะไข่มุก” พลอยวารินทร์หน้าเสีย มองหน้าเฮย์เดนด้วยความรู้สึกผิด เขาจะคิดว่าเธอสอนลูกไม่ดีหรือเปล่า
ขณะที่หนูน้อยหัวเราะชอบใจราวกับตั้งใจจะแกล้งผู้เป็นพ่อ ถึงไข่มุกจะซนเกินเด็กวัยเดียวกันไปบ้างแต่ปกติแล้วหนูน้อยไม่เคยทำแบบนี้ พลอยวารินทร์ขึงตาดุใส่ลูก
“อย่าดุแกเลย” เฮย์เดนห้ามแต่สีหน้ายังไม่หายเหวอเท่าไร แต่พลอยวารินทร์ยังไม่หายรู้สึกผิดเพราะเมื่อไล่สายตาลงมาตามเสื้อผ้าเขา ก็เห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อดีมีเม็ดข้าวกับเนื้อปลาแซลมอนเกาะอยู่ เธอทนมองสภาพของเขาไม่ไหวเลยลุกไปขอไข่มุกมาป้อนข้าวเอง
“คุณทานอาหารเถอะค่ะ คุณยังไม่ได้ทานเลย อีกอย่างไข่มุกก็ทำอาหารเลอะเสื้อผ้าคุณหมดแล้ว ให้ฉันป้อนแกเอง ส่วนคุณไปล้างตัวก่อนดีกว่า”
เฮย์เดนก้มมองเสื้อผ้าตัวเองแล้วส่ายหน้ายิ้ม ๆ “ไม่เห็นเป็นไร เลอะก็ซื้อใหม่สิ”
‘อวดรวย’
พลอยวารินทร์ลอบว่าเขาในใจ “ฉันลืมไปค่ะว่าคุณคงมีเสื้อผ้าเยอะแยะ แค่เสื้อตัวเดียวคงไม่เสียดาย” พลอยวารินทร์อดแขวะเบา ๆ ไม่ได้
“ผมว่าอย่าไปสนใจเรื่องนั้นเลย ผมมีเรื่องอื่นที่น่าสนใจกว่าแค่เรื่องเสื้อผ้า”
“ฉันก็ไม่ได้อยากสนใจ แค่บอกเฉย ๆ ว่ามันเลอะ เผื่อคุณกลับออกไปข้างนอกแล้วใครเห็นว่าเสื้อผ้าของซีอีโอใหญ่เลอะเทอะจะเสียภาพลักษณ์ได้ เห็นคุณต้องเนี้ยบตลอด” ท้ายประโยคพลอยวารินทร์บอกเสียงอ่อนลง แล้วเอียงแก้มก้มหน้ามองลูกที่เคี้ยวปลาตุ้ย ๆ อย่างเอร็ดอร่อย
“นี่คุณจะบอกว่าผมมีนัดกับผู้หญิงงั้นหรือ”
พลอยวารินทร์หันกลับมามองเขา สีหน้าว่างเปล่า “เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิง แต่หมายถึงคู่ค้าทางธุรกิจของคุณ ส่วนเรื่องผู้หญิงคุณคงมีนัดเป็นประจำอยู่แล้วฉันไม่สนใจหรอกค่ะ”
ท่าทางเฉยเมยของแม่ของลูกทำให้เฮย์เดนรู้สึกอยากแกล้ง “คุณไม่สนใจผู้หญิงของผมแต่ผมสนใจเรื่องผู้ชายของคุณ วันนี้ผมเห็นนะสายตาของเรย์มอนที่เขามองคุณ”
หรือว่าการถูกโยกย้ายสายฟ้าแลบของเพื่อนร่วมงานที่มาแจกขนมจีบเธอจะเป็นฝีมือของเขาจริง ๆ
“คุณเฮย์เดนฉันมีอะไรจะถามคุณอย่างหนึ่งได้ไหมคะ”
เฮย์เดนหรี่ตามองก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ “วันนี้เรย์มอนด์ถูกย้ายไปที่พอร์ตแลนด์ เรื่องนี้เกี่ยวกับคุณหรือเปล่าคะ เขาเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ฉันเลยค่อนข้างสงสัยกับการไปของเขา มันกะทันหันเกินไปเหมือนถูกสั่งด่วนเดี๋ยวนั้นมากกว่าจะเป็นการโยกย้ายงานตามปกติ” เธอถามเพราะที่ผ่านมาเรย์มอนด์ดีกับเธอมากจนเธอไม่อยากเป็นสาเหตุให้เขาต้องถูกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม
เฮย์เดนวางผ้าเช็ดปากลงกับโต๊ะอาหารอย่างไม่เบามือนักพอนึกถึงสายตาไอ้หมอนั่นที่แอบส่องแอบจ้องแม่ของลูก เขาเห็นหลายครั้งแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้ ใบหน้าหล่อเหลาที่เมื่อครู่ยังยิ้มแย้มอยู่กลับดูกระด้างขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเป็นสีขุ่น ๆ
“แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะ เกี่ยวหรือไม่เกี่ยว”
“ฉันไม่ทราบ ฉันถึงถามคุณยังไงล่ะ คุณเป็นคนสั่งย้ายเขา คุณต้องรู้ดีที่สุดว่าเพราะอะไร”
เฮย์เดนจ้องมองสาวไทยตรงหน้าที่กำลังอุ้มลูกสาวของเขาไว้แนบอก ถึงเธอจะอยู่กับเขาชั่วคราวแต่เขาก็ไม่ต้องการให้เธอไปยุ่งเกี่ยวกับใคร เขาดูแลเธออย่างดีทุกอย่าง เธอควรจะทำหน้าที่แม่ของลูกให้ดีที่สุดเช่นกัน
“อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องสนใจไม่ใช่หรือเอพริล คุณควรสนใจไข่มุกก็พอแล้ว เรื่องอื่นไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะไปรู้”
พลอยวารินทร์เม้มปากแน่น เขาก็เห็นเธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งของเขาที่เขาเลี้ยงไว้และคิดว่าใช้เงินซื้อได้ พลอย
วารินทร์สูดลมหายใจเข้าลึก ข่มโทสะที่อัดแน่นขึ้นมาให้หายลงไป
“ฉันสนใจไข่มุกอยู่แล้วค่ะ ไข่มุกเป็นลูกสาวของฉัน ฉันต้องการแกมากที่สุด และสนใจเรื่องแกมากที่สุดอยู่แล้ว” พลอยวารินทร์ย้ำ
“ผมดีใจที่ได้ยินแบบนั้นถ้างั้นก็เลิกถามถึงมัน...เอ๊ย...เรย์มอนด์”
พลอยวารินทร์คิดว่าเปล่าประโยชน์กับการทะเลาะกับเขา เฮย์เดนไม่เคยคิดว่าตัวเองผิด เพราะคุ้นชิ้นกับการออกคำสั่งจนชิน ส่วนอีกฟากคนที่ถูกมองค้อนก็ไม่อยากทะเลาะต่อหน้าลูก จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “อาหารไทยรสชาติดีมาก ผมไม่ได้กินนานมากแล้ว คิดว่าจะกลับมากินอีก พรุ่งนี้คุณทำให้ผมกินด้วย”
“อะไรนะคะ หมายความว่าพรุ่งนี้คุณจะมาอีกหรือคะ”
พลอยวารินทร์ถามเสียงสูงด้วยความตกใจ
“ทำไมต้องตกใจด้วย ผมบอกแล้วว่าจะมาที่นี่บ่อย ๆ ผมจะมาหาลูกของผมมันแปลกตรงไหน ผมกับลูกจะได้คุ้นเคยกัน” เฮย์เดนบอกพลางก้มหน้าลงไปจูบแก้มยุ้ย ๆ ของลูกสาวที่ยิ้มแย้มไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว
พลอยวารินทร์ไม่ทันตั้งตัวตอนเขาเงยหน้าขึ้นมาจมูกโด่งเป็นสันของเขาจึงชนคางเธอพอดิบพอดี เฮย์เดนเผลอสูดดมกลิ่นหอมหวานจากเนื้อตัวคุณแม่ยังสาวที่ยังดูสวยไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนตอนครั้งแรกที่เจอ เขาจ้องใบหน้าสวยจัดก่อนจะกลับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
พลอยวารินทร์ตัวเกร็งที่ใบหน้าเขาเฉียดผ่านเธอไป เธอเผลอใจเต้นแรงแต่ไม่มีทางที่เขาจะเข้ามาอยู่ในหัวใจของเธอได้เพราะเขามีผู้หญิงอยู่รอบเอวไปหมด
“ไม่ส่งนะคะ ฉันอยากพาลูกไปแปรงฟันเข้านอนแล้ว” พลอยวารินทร์รีบอุ้มลูกเดินหนี เธอไม่อยากให้เขาอยู่ใกล้ชิดอีกถ้าไม่จำเป็น
“พาลูกเข้านอนเถอะ ผมกลับเองได้ อ้อ แล้วพรุ่งนี้ผมจะมาหาลูกอีก”
