บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

ครั้งนี้อีกเช่นกัน เพียงอาจารย์หนุ่มหล่อเจ้าของแกลอรี่ได้สินค้าใหม่เป็นพระพุทธรูปนาคปรก ลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิเครื่องทรงแบบกษัตริย์ประทับด้านหลังเป็นนาคปรกเจ็ดเศียรศิลปะโบราณสมัยละโว้ที่หาจากที่ใดไม่ได้อีกแล้ว และเชื่อกันว่าหากผู้ใดได้ครอบครองจะสามารถเสริมบารมีให้แก่ผู้ครอบครองได้

เจ้าของเดิมเป็นนายพลท่านหนึ่งที่เป็นนักสะสมของเก่ามานานแสนนาน เนื่องจากท่านแก่ชรามากแล้วและลูกหลานที่หลงเหลืออยู่ก็ไม่มีใครรักใคร่ในของเก่าสะสมนี้ ท่านจึงบอกฝากให้เช่าผ่านนักค้าของเก่าด้วยกัน แต่สนนราคาบูชาที่ตั้งไว้นั้นมากกว่า 10 ล้านบาท ถึงราคาจะสูงนักแต่ทว่าความต้องการในอำนาจไม่ปรานีใคร ทำให้มีทั้งนักค้าของเก่าจากต่างประเทศและเจ้าของแกลอรี่ต่างๆ แวะเวียนกันเข้าไปเจรจาขอต่อรองราคาขอเช่าต่อกันหลายรายแล้ว ผู้ว่าจ้างในครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ราคามิใช่สิ่งสำคัญที่สำคัญคือ เจ้าของเขาไม่ปล่อยง่ายๆ ถ้าไม่พอใจคนซื้อ

ผิดกับเจ้าของแกลอรี่แห่งนี้ ข่าวเล่าว่าเพียงแค่ขอเข้าไปเจรจาเท่านั้นเจ้าของเขาแทบจะยกใส่พานขนมาให้เลยทีเดียวแถมราคาบูชาที่ตั้งกันไว้กว่า 10 ล้านบาทนั้นก็เหลือเพียงครึ่งเดียว ต้องบอกว่าเจ้าหนุ่มนี่มันมีบุญวาสนามากทีเดียวที่ได้ครอบครองพระพุทธรูปล้ำค่านี้ แต่ของตามออเดอร์ก็ต้องจัดหาและจัดส่งให้ตรงตามเวลา แม้จะรู้สึกชื่นชมเจ้าของแกลอรี่นี้อยู่มาก แต่งานก็คืองานแม้จะเป็นงานโจรกรรมแต่มันก็เป็นงานของเขา

ร่างเล็กยังคงคลานวนไปวนมาอยู่ในโถงใหญ่ แสงว่อบแว่บจากเครื่องทรงนางอัปสรยังคงให้แสงสว่างเพียงลางเลือน สายตาผ่านวันเวลายังคงเขม่นมองหาสินค้าตามออเดอร์ พลันความรู้สึกหนาวสะท้านตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นไปยังเส้นผมและขนบนใบหน้าแผ่ขยายไปทั้งตัว เส้นขนทุกเส้นทั่วทั้งกายตั้งชันตกใจกับสิ่งที่ประสาทสัมผัสรับรู้

เสียงเพลงไทยเดิมขับขาน เสียงเครื่องแต่งกายกระทบกันตามจังหวะหนักเบาในการร่ายรำ ร่างแว่บแววด้วยเครื่องทรงนางอัปสรตรงหน้าร่ายรำอย่างมีชีวิต ใบหน้าขาวนวลท่ามกลางความมืดให้ความน่าสะพรึงกลัวมากกว่าความงดงาม แม้จะมีเพียงแสงสลัวแต่ชายร่างเล็กยังเห็นได้แม้นเพียงใบหน้าขาวนวลนั้นแย้มยิ้ม รอยยิ้มที่เรียกขนทั่วทั้งร่างกายลุกชันสั่นสะท้าน

“พี่ณุ... พี่ณุ... ชั้นมาแล้ว พี่ณุ.. พี่อยู่ตรงไหน”

เสียงเรียกกระซิบกระซาบดังแว่วมา พร้อมร่างหนาของชายสามคนคลานดุ๊กดุ๊กเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่เมื่อเห็นว่าตัวลูกพี่ไม่ได้อยู่เฝ้าประตูอย่างที่ตกลงกันไว้ คาดว่าคงรอนานจนเข้าไปก่อนแล้ว

“เฮ้ย! มึงหยุดทำไมวะ เข้าไปต่อดิ ป่านนี้พี่ณุแม่งด่าขรมแล้ว รถแม่งก็เสือกไม่เขยื้อนเลย เอาของออกไปได้แล้วจะขนไปยังไงวะ เข็นก็ไม่ไป สตาร์ทก็ไม่ติด”

ร่างหนาตรงหน้ายังคงชะงักงันไม่คลานเข้าไปต่อ ไอ้คนตามหลังสองคนก็กระซิบกระซาบกันต่อเมื่อเห็นคนนำเงียบไป

“กะ...กู....ว่า...พะ...พี่...ขะ...เขา...ไม่ด่า มะ...มึงหรอก”

“มึงว่าไงนะ ไอ้เชี้ย! นี่ แม่งฉี่ เหม็นฉิบเลย”

ร่างหนาตรงหน้าคลานคุดคู้อยู่สั่นเทาด้วยความหวาดกลัว อีกสองคนยืนขึ้นทันทีที่รู้ว่าคนด้านหน้าฉี่ราดโดยไม่รู้สาเหตุ ไอ้คนที่สองโวยวายใหญ่เพราะมือมันเปียกฉี่แฉะไปหมดจนอีกคนต้องเอามือป้องปากมันไว้ไม่ให้เสียงดัง มือก็ป้องปากไปแต่สายตาที่มองไปข้างหน้าชะงักงัน รับรู้ถึงสิ่งที่ไอ้คนหน้าฉี่แตกอย่างฉับพลับ ร่างหนาสั่นเทาอยากจะฉี่แตกเหมือนกันแต่มันก็ทำไม่ได้เพราะเพิ่งฉี่มาเมื่อกี้ สายตาจึงได้แต่เบิกโพรงด้วยความหวาดกลัว ไอ้คนขี้โวยวายถูมือกับกางเกงมอซอขยะแขยงฉี่แต่ไม่กล้าแกะมือเพื่อนออกจากปากเพราะกลัวมือที่เรอะฉี่จะถูกปากตัวเอง ดวงตานักโจรกรรมคนสุดท้ายเบิกโพรงกับภาพตรงหน้าแข้งขาสั่นพับๆ ยืนไม่อยู่ ทั้งสามคนคลานเข้ามากอดกันกลมคุดคู้อยู่ที่พื้นโถง

ณ ชุดรับแขกโต๊ะมุกด้านหน้าสตรีสามนางนั่งประทับนิ่งทุกนางทรงเครื่องนางอัปสรเต็มยศ ร่างนั้นสว่างสุกใสมองเห็นได้ชัดเจน ใบหน้าขาวนวลงดงาม ลำแขนกลมกลึงน่าสัมผัส ทุกสัดส่วนทรวดทรงองค์เอวให้งดงามดั่งที่หญิงพึงมี แต่ทว่าดวงตาที่มองสบมานั้นกลับแดงฉานอย่างกับสีเลือด ริมฝีปากบางแย้มยิ้มยังคงมีหยดเลือดแตะแต้มปะปรายน่าสยดสยองแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก ที่พื้นห้องนั่นเล่าไอ้พี่ณุลูกพี่ใหญ่นอนงอก่องอขิงตาเหลือกโพลนอ้าปากหวออย่างคนตกใจกลัวสุดขีดในชีวิต เจ้าของดวงตาเบิกโพลงนั้นสั่นประสาทลูกน้องที่เหลือเป็นที่สุดไม่รู้ว่าลูกพี่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

แว่บ....แว่บ.....แว่บ…..

เสียงกดชัตเตอร์ของช่างภาพรัวเร็วถ่ายภาพสี่โจรภายในห้องโถงแกลอรี่ชื่อดังที่เคยมีข่าวประฉ่อนไปทั่วกรุงเมื่อปีกลาย เรื่องนักโจรกรรมมืออาชีพที่ถูกจับได้ยกโขยงเพราะไอ้โจรเหล่านั้นขาอ่อนหมดแรงหนีไปไหนไม่ได้ต่างกอดกันกลมนั่งรอตำรวจมาจับ หลังจากเจ้าของแกลอรี่หนุ่มหล่อและเป็นอาจารย์ภาควิชาโบราณคดีมหาวิทยาลัยชื่อดังโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจว่ามีผู้บุกรุกโจรกรรมแกลอรี่ของเขาตั้งแต่ยังไม่ย่ำรุ่ง ตำรวจต่างยกโขยงกันมาทั้งโรงพักเพราะว่านักโจรกรรมกลุ่มนี้เป็นที่ต้องการของแวดวงสีกากีทั้งไทยและต่างประเทศ ตำรวจเฝ้าติดตามดมกลิ่นมันมาตลอดแต่ก็ไม่สามารถจับได้สักครั้ง แต่เหลือเชื่อสิ่งที่ทำให้พวกมันหวาดกลัวหัวหดจนไม่กล้าเคลื่อนกายออกจากที่ที่เกาะกลุ่มกันไว้นั้น ทำให้ตำรวจสามารถจับกุมมันได้อย่างง่ายดาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel