บท
ตั้งค่า

EP.1 คนสวนคนใหม่

‘แก้ว’ หนุ่มบ้านนอกวัย 26 ปี เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าประตูรั้วขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่กำหนดอาณาเขตคฤหาสน์คนรวย ใบหน้ากร้านไปด้วยแดดลมมีเหงื่อซึมออกมาตามขมับและแนวสันจมูก จนต้องใช้ผ้าขาวม้าที่พาดคอมาด้วยซับหยาดเหงื่อที่มีกลิ่นเค็มออก เพราะกว่า 8 ชั่วโมงที่เดินทางรอนแรมนั่งรถทัวร์มาลงที่หมอชิต จากนั้นก็ต่อรถเมล์มาลงที่ปากซอยและเดินมาถึงที่นี่ ก็ทำเอาเหงื่อตกเหมือนกัน

การเดินทางในกรุงเทพฯ แม้ระยะทางจะใกล้กว่าเขาเดินหานกหาหนูที่บ้านนอก แต่กลิ่นไอเสีย ความร้อน และอากาศที่แห้งจากมลพิษ ก็ทำให้เขาเหนื่อยไม่ต่างจากลงนาหว่านไถ หรืออาจจะเหนื่อยเสียยิ่งกว่า

เมื่อเช็ดเหงื่อจนหมาดและคิดว่าหน้าตาของตัวเองคงพอดูสะอาดสะอ้านมากพอที่จะเข้าไปสู่ด้านใน ดวงตาโชนแสงของแก้วก็มองลอดผ่านช่องว่างระหว่างรั้วเข้าไป ที่เห็นนั้นคือคฤหาสน์ขนาดใหญ่ในรูปทรงยุโรปที่ตั้งอยู่ตรงกลางของพื้นที่ ขนาบข้างไปด้วยสวนกว้างใหญ่ซึ่งโอบรอบโดยรั้วอลังการบ่งบอกถึงฐานะของท่านเจ้าของได้เป็นอย่างดี จากสายตาคาดคะเน อาณาเขตนี้คงกว้างกว่า 2 ไร่ และนี่คงเป็นพื้นที่ที่เขาต้องรับผิดชอบ นับจากวันนี้เป็นต้นไป

แก้วถอยหลังออกมามองตำแหน่งของกริ่ง ที่จะให้สัญญาณแก่คนด้านในว่าเขามาตามความต้องการและความกรุณาของท่านเจ้าของคฤหาสน์แล้ว แต่เมื่อคิดอีกทีคงไม่เหมาะสมที่เขาจะทำให้เกิดเสียงในเวลาเช้าตรู่เช่นนี้ แก้วจึงมองลอดเข้าไประหว่างรั้วอีกครั้ง เพื่อหวังอาจเจอใครสักคนที่เดินผ่านมา และชายวัยกลางคนที่ชะเง้อมองเหมือนจะเห็นเขา ก็ทำให้แก้วไม่ลังเลที่จะเอ่ยปาก

“น้า! ฉันแก้วเองจ้ะ”

เพียงก้าวเข้าสู่อาณาจักร แก้วก็ถูกพาไปพบกับท่านเจ้าของคฤหาสน์ แก้วไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองตรงๆ เพราะคนจนอย่างเขาไม่เคยกล้าอาจหาญมองหน้าคนรวย พ่อสอนให้เจียมตนอยู่เสมอ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้ว่าท่านเจ้าของคฤหาสน์นี้น่าจะเป็นคนน้อง ไม่ใช่ท่านนายพลซึ่งเป็นเจ้านายของพ่ออย่างที่เขาเคยได้ยินพ่อบอกเล่าถึงท่านเสมอ นี่คงเป็น ‘คุณตรี’ น้องชายคนเดียวของท่านนายพลเป็นแน่ และท่านก็ส่งคำถามอย่างเมตตามาให้เขา

“เดินทางลำบากมั้ยล่ะแก้ว”

“ไม่ลำบากครับคุณท่าน นั่งรถแค่สองต่อเท่านั้นครับ”

แก้วก้มหน้าตอบคำถาม เขามาทำงานที่คฤหาสน์หลังนี้แทนพ่อที่ล่วงลับไปแล้ว เพราะท่านนายพลกรุณาเมตตาเขากับครอบครัวที่สุด เมื่อพ่อเสียชีวิต ท่านก็ชักชวนให้เขามาทำงานแทนหน้าที่ของพ่อ ซึ่งนั้นก็คือ ‘คนสวน’

“โธ่... ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณท่านหรอกนะ ฉันยังไม่ได้แก่ขนาดนั้น เรียกคุณตรีก็ได้”

“ครับ คุณตรี” แก้วรับคำ แต่ยังคงก้มหน้า

“ตอนแรกฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ คิดว่าแก้วจะมาไม่ถูกซะแล้ว มาเร็วแบบนี้ ที่บ้านเรียบร้อยแล้วเหรอ ฉันบอกแล้วไงว่าอีกหนึ่งอาทิตย์ค่อยมาก็ได้ จัดการเรื่องให้เรียบร้อยซะก่อน”

“ไม่เป็นไรครับคุณตรี ทางนั้นไม่มีอะไรแล้วครับ” แก้วตอบรับอย่างอ่อนน้อม ด้วยน้ำเสียงของคุณตรีเมตตาเขา เขาก็ยิ่งต้องน้อมกายบ่งบอกถึงความเคารพ

“ฉันต้องขอโทษจริงๆ นะที่ไปร่วมงานไม่ได้ ท่านเองก็เสียใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าท่านต้องไปราชการ ท่านคงต้องไปส่งพี่สรให้ได้”

‘พี่สร’ ที่คุณตรีพูดถึงนั้นคือพ่อของเขา พ่อเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยโรคมะเร็งลำไส้ ท่านนายพลกรุณาช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลทุกอย่าง และช่วงสุดท้ายเมื่อหมอบอกให้พาพ่อกลับไปดูใจที่บ้าน ทั้งท่านนายพลก็กรุณาประสานงานกับทางโรงพยาบาลเพื่อนำพ่อไปส่งจนถึงบ้านที่ต่างจังหวัด และเมื่อพ่อจากไป ท่านก็ยังกรุณาส่งเงินช่วยค่าทำศพไปให้อีก แค่นี้ก็เป็นบุญหัวที่สุดแล้ว ยังไม่นับถึงบุญคุณที่ท่านกรุณารับเขาเข้าทำงาน เพราะทั้งหมดที่ท่านทำให้ ชาตินี้เขาคงตอบแทนท่านไม่หมด

“แค่นี้ผมก็ต้องขอบพระคุณท่านนายพลกับคุณตรีมากแล้วครับ ที่กรุณารับผมเข้ามาทำงานแทนพ่อ และถ้าไม่ได้เงินช่วยงานจากท่านนายพลและคุณตรี ผมกับแม่คงจะจัดงานให้พ่อได้ไม่ดีขนาดนั้น”

แก้วพนมมือไหว้น้องชายเจ้าของบ้านอีกครั้ง ซึ่งคุณตรีก็รับไหว้อย่างไม่ถือตัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel