เขยหมอสุดเทพ

715.0K · จบแล้ว
เมฆทอง
356
บท
905.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาเป็นเขยสวะแต่งเข้าที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองจินห่าย ใครจะรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาเแนท่านชายที่ทำให้คนต่างเกรงกลัว! แล้วทำไมเขาต้องมาเป็นเขยแต่งเข้าด้วยล่ะ เบื้องหลังมีอะไรซ่อนอยู่กันนะ......

นิยายจีนพระเอกเก่งหมอเศรษฐี

บทที่ 1 ท่านชาย

ตึกดราก้อนโกลด์ อาคารที่หรูหราที่สุดในเมืองจินห่าย ไม่มีอื่นใดสามารถเทียบได้

มีรถโรลส์รอยซ์คันหนึ่งจอดอยู่ที่ด้านหน้าตึกดราก้อนโกลด์ในเวลานี้ ภายในรถ ไมค์มหาเศรษฐี 10 อันดับแรกของโลกกำลังนั่งฟังเพลงดื่มไวน์อย่างสบายใจ เขา บังเอิญพบเข้ากับใครบางคนที่นอกหน้าต่าง มือสั่นเล็กน้อย แก้วไวน์หล่นลงไปบนกางเกง

ไมค์ไม่มีเวลามาสนใจกางเกงที่เปียกเพราะโดนไวน์ เขาเปิดประตูรถด้วยความตื่นเต้นดีใจ และพุ่งตัวลงจากรถไป

“ท่าน...ท่านชาย เป็นท่านจริง ๆ ด้วยเหรอนี่? ท่านมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

ไมค์กระโจนเข้าหาชายหนุ่มในชุดพราง ชายหนุ่มคนนั้นขี่มอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง ในมือกอดกล่องข้าวที่วิจิตรงดงามเอาไว้

ท่านชาย ผู้นำ ‘องค์กรฮั๋ว’ ที่ลึกลับที่สุดในโลก ชื่อจริงคือหวางเย๋

ว่ากันว่าหวางเย๋ควบคุมเศรษฐกิจครึ่งหนึ่งของโลก ไม่ว่าจะเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งเพียงใด เมื่ออยู่ต่อหน้าของท่านชายหวางเย๋คนนี้ก็ทำได้เพียงก้มหัวเท่านั้น

ว่ากันว่าเมื่อหลายปีก่อน มหาเศรษฐีอันดับสองของโลกฉวยโอกาสตอนที่หวางเย๋ผ่อนคลาย คิดจะแย่งตลาดไป สุดท้ายแล้ววันถัดมากลับถูกหวางเย๋ทำให้บริษัทล้มละลาย วันนั้นหิมะกำลังตก เศรษฐีคุกเข่าร้องอ้อนวอนขอความเมตตาท่ามกลางหิมะ ถึงทำให้หวางเย๋ไว้ชีวิตเขา

เมื่อสามเดือนก่อน จู่ ๆ หวางเย๋ก็หายตัวไป ผู้คนทั่วทั้งโลกต่างก็คาดเดาว่า ‘องค์กรฮั๋ว’ จะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อะไรหรือเปล่า

คิดไม่ถึงว่า จะได้พบกับท่านชายอยู่ที่นี่ ชายที่เป็นตำนานของโลกแห่งความเป็นจริงท่านนี้!

ไมค์ตื่นเต้นดีใจจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว นี่เป็นถึงท่านชายเชียวนะ คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับท่านชายอยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากมายแค่ไหนบนโลกใบนี้ที่อยากพบกับท่านชายสักครั้ง ในนั้นประกอบไปด้วยผู้นำของมากมายหลายประเทศ แต่คนที่ได้พบกับท่านชายได้นั้นมีน้อยมาก ว่ากันว่าในตอนที่ท่านชายประชุมอยู่นั้นได้มีคนแอบเข้าไปในสถานที่ประชุม เสี่ยงที่จะถูกองค์กรฮั๋วประกาศจับ เพียงเพื่อพบท่านชายสักครั้งเท่านั้น

ตัวท่านชายเองก็เป็นตำนานที่มีชีวิต ในตอนที่ก่อตั้งองค์กรฮั๋วแรก ๆ นั้น เพราะมีพวกมาเฟียอยู่ทุกที่ในโลก ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวขององค์กรฮั๋วเป็นอย่างมาก ท่านชายใช้เวลาเพียงหนึ่งปี ก็ได้ทำลายพวกมาเฟียที่อยู่บนโลกไปจนหมด และถูกขนานนามว่าวีรบุรุษของโลก!

ได้ยินคำเรียกของไมค์ หวางเย๋หรี่ตาลงเล็กน้อย ไอสังหารปะปนขึ้นมาบนร่างกายของเขา “นายรู้จักฉัน?”

ไมค์รู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้ยืนอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง รีบอธิบายกับหวางเย๋ทันทีว่า เขาคือประธานผู้บริหารของไมค์กรุ๊ป เมื่อสองปีก่อน เขาได้ไปที่องค์กรฮั๋วพร้อมกับไมค์รุ่นใหญ่คุณพ่อของเขา โชคดีได้เห็นท่านชายอยู่ไกล ๆ วันนี้ได้พบท่านชาย ก็จำได้ในทันที

และที่เขามาจินห่ายในครั้งนี้ เพราะได้มาตามคำเชื้อเชิญของหลงเหม่ยซินแห่งดราก้อนโกลด์กรุ๊ป เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือ แต่ไมค์ไม่อยากจะออกหน้าโดยตรง จึงนั่งอยู่ในรถ รอผลการเจรจาจากด้านบน

หวางเย๋ได้ยินดังนั้นก็วางใจ เหมือนว่าเรื่องที่ตัวเองมาที่เมืองจินห่าย ไม่ได้รั่วไหลออกไป

“ท่านชายครับ นี่ท่าน......” เมื่อเห็นหวางเย๋แต่งตัวอย่างคนขายแรงงาน ไมค์น้ำเสียงสั่นคลอน รวบรวมความกล้าเอ่ยถามขึ้นมา

“เรื่องที่นายไม่ควรรู้ ก็อย่าถาม ถ้าหากนายกล้าแพร่งพรายร่องรอยของฉันออกไป ผลที่ตามมานายน่าจะรู้ดี”

หวางเย๋ตบไหล่ไมค์ และหันหลังเดินไปทางตึกดราก้อนโกลด์

“ท่านชาย มีอะไรให้กระผมรับใช้ไหมครับ......”

“ไสหัวไป ถ้ายังทำให้ฉันเสียเวลาไปส่งข้าวให้ภรรยาฉันอีกละก็ ฉันจะหักขานายซะ” หวางเย๋ถลึงตาใส่ไมค์ ไมค์รีบวิ่งหลบไปด้านข้างทันที มองหวางเย๋เดินเข้าไปในตึกดราก้อนโกลด์

ท่านชายมาส่งข้าวให้ภรรยาด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ? จะต้องรู้ว่า ท่านชายเป็นชายที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ไม่ยังจำได้อย่างเลือนรางว่า ตอนนั้นมีผู้หญิงที่ไม่รักชีวิตมากมายแค่ไหนตามตื๊อท่านชายอย่างบ้าคลั่ง แต่ทว่าท่านชายกลับไม่สนใจเลยสักนิด ตอนนี้......

หรือว่าท่านชายจะหารักแท้เจอแล้ว? ที่แท้ผู้ชายที่ถูกคนบนโลกขนานนามว่าราชา ส่วนตัวแล้วยังมีด้านที่โอนโยนแบบนี้อยู่ พูดได้เพียงว่าสมกับที่เป็นท่านชาย สมบูรณ์แบบทุกอย่างจริง ๆ

ไมค์คิดมาถึงตรงนี้ พลันนึกขึ้นมาได้ว่า วันนี้ตัวเองได้พูดคุยกับท่านชาย! ท่านชายยังไม่เมินตัวเองด้วย!

“ดูเหมือนว่า ฉันมีเรื่องที่สามารถโม้ไปตลอดชีวิตได้แล้ว!” ไมค์ใบหน้าอิ่มเอิบขึ้นมาทันที เขาดีใจจนตัวสั่น

......

ส่วนหวางเย๋ที่อยู่อีกด้านท่ามกลางสายตาดูถูกเหยียดหยามของเหล่าพนักงาน ได้ใช้ลิฟต์สำหรับประธานผู้บริหารโดยเฉพาะขึ้นตรงไปยังชั้นบนสุด

พึ่งจะเดินออกมาจากลิฟต์ หวางเย๋ก็ถูกยามรักษาการณ์สองคนขวางเอาไว้ “หยุดนะ!”

หวางเย๋ชะงัก “พี่ชาย ฉันมาส่งอาหารเที่ยงให้เหม่ยซินน่ะ”

ยามรักษาการณ์ทั้งสองเบ้ปากอย่างเหยียดหยาม และชี้ไปที่มุมด้านล่างของผนังอย่างดูถูก “รอก่อน”

วันนี้ หลงเหม่ยซินมีประชุมร่วมมือที่สำคัญมากกับตัวแทนของไมค์กรุ๊ป ถ้าหากการร่วมมือในครั้งนี้สำเร็จ ดราก้อนโกลด์กรุ๊ปก็จะกระโดดก้าวหน้าไปอีกขั้น

เพราะเหตุนี้ เธอได้กำชับกับยามรักษาการณ์เป็นพิเศษ ไม่ว่าใครก็ห้ามรบกวนทั้งนั้น

ในตอนนี้เอง ชายชาวต่างชาติผมสีทองตาสีฟ้าคนหนึ่งได้เดินออกมาจากห้องประชุมด้วยความโมโห รอยฝ่ามือสีแดงชัดเจนปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา

หลงเหม่ยซินเดินตามออกมาด้วยความตื่นตระหนก “Mr.เรด ฟังฉันพูดก่อน......”

เรดในฐานะตัวแทนที่มีอำนาจเต็มเปี่ยมของไมค์กรุ๊ป ไม่ว่าไปที่ไหน ล้วนถูกยกยอเหมือนดั่งพระเจ้าหลวง

เมื่อเขาเห็นหลงเหม่ยซิน ก็ต้องตะลึงกับความสวยของเธอทันที ดังนั้นจึงใช้ความร่วมมือเป็นการข่มขู่ โอบกอดหลงเหม่ยซินและคิดจะจูบเธอ หลงเหม่ยซินจึงตบเข้าที่ใบหน้าของเขาตามสัญชาตญาณ จึงทำให้เกิดภาพเมื่อสักครู่ขึ้นมา

“ไม่ต้องพูดอีกแล้ว คิดจะร่วมมือ ก็ล้างก้นให้สะอาดแล้วไปหาฉันที่โรงแรม” เรดทิ้งคำพูดเอาไว้โดยไม่หันหลังกลับ

หลงเหม่ยซินเคยได้ยินคำพูดที่ต่ำทรามแบบนี้มาก่อนเมื่อไหร่กัน เฮอดกลั้นจนหน้าแดงก่ำ “Mr.เรด คุณ...คุณอย่าให้มันมากเกินไปนะ”

“แกว่ายังไงนะ?” ไม่รู้ว่าหวางเย๋ได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเรดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน สีหน้าของเขาเคร่งขรึมผิดปกติ

เรดยื่นมือออกมาตบที่ใบหน้าของหวางเย๋เบา ๆ “บนโลกนี้ไมค์กรุ๊ปของพวกเราไม่เป็นสองรองใคร ต่อให้ฉันพูดอีกครั้ง แกจะทำอะไรได้?”

“ให้นังสารเลวนั่นล้างก้นให้สะอาดแล้วไปหาฉันที่โรงแรม ไม่อย่างนั้นละก็ ดราก้อนโกลด์กรุ๊ป.......”

เรดยังไม่ทันได้พูดจบ ฝ่ามือของหวางเย๋ก็ฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของเขา ร่างหนัก 200กว่าปอนด์ของเรดได้ลอยออกไป ฟันเปื้อนเลือดเจ็ดแปดซี่ได้กระเด็นลอยออกมาจากปาก

“ไมค์กรุ๊ป? ดีมาก” หวางเย๋มองดูเรดและพวก เขาหัวเราะอย่างเย็นชา

ผู้ช่วยของเรดคำรามออกมาด้วยความโมโห “พวก...พวกแกกล้าทำร้ายMr.เรด ตัวแทนที่มีอำนาจเต็มของไมค์กรุ๊ปเชียวนะ......”

เรดคลานลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างโอนเอน เขาตวาดใส่หวางเย๋: “แกตายแน่ แกรู้ไหมว่า ไมค์กรุ๊ปของพวกเราเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก”

“ใช่ เสษสวะอย่างแก แค่Mr.เรดของพวกเราเพียงประโยคเดียว ก็สามารถทำให้แกตายโดยไม่มีที่ฝังศพได้ ตอนนี้เข้ามาโขกหัวขอโทษMr.เรดของพวกเรายังพอไว้ชีวิตหมา ๆ ของแกได้” ผู้ช่วยของเรดรีบยืนออกมาตวาดทันที

“ไสหัวไปซะ” หวางเย๋กล่าว และตบเข้าที่ใบหน้าของผู้ช่วยอีกคน หวางเย๋ในตอนนี้ได้โมโหขึ้นมาถึงขีดสุด

อยู่ต่อหน้าของตัวเองไมค์ยังเป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น สุนัขรับใช้พวกนี้ยังกล้าเหยียบย่ำภรรยาของตัวเอง รนหาที่ตายจริง ๆ

ย่าว่าแต่ต่อยพวกมันเลย ต่อให้ข้าพวกมันทั้งหมด ไมค์ก็ไม่กล้าพูดอะไร

คนของไมค์กรุ๊ปคนอื่น ๆ กำลังจะเอ่ยปากพูด หวางเย๋ก็ได้กวาดสายตามองพวกเขาอย่างเย็นยะเยือก คนพวกนั้นพลันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้ถูกเทพเจ้าแห่งความตายจับตามองอยู่อย่างไรอย่างนั้น เหน็บหนาวไปทั้งตัว ต่างต้องหุบปากไป

“หวางเย๋ หยุดนะ เร็วเข้า รีบเรียกรถฉุกเฉินพาMr.เรดไปส่งโรงพยาบาล”

หลังจากที่หลงเหม่ยซินรู้สึกตัวขึ้นมา ก็ได้ผลักหวางเย๋ไปอีกด้าน และรีบพยุงเรดให้ลุกขึ้นมา

“พวก...พวกแกกล้าตีฉัน พวกแกดราก้อนโกลด์กรุ๊ปรอล้มละลายเถอะ” เรดทนความเจ็บปวดและทิ้งคำพูดนี้เอาไว้ และพาพวกไปจากที่นี่ราวกับหนีเอาชีวิตรอด หวางเย๋ในเมื่อสักครู่นั้นทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองได้เผชิญหน้าอยู่กับราชาแห่งโลก แม้แต่พูดยังสั่นสะท้านเล็กน้อย

หลงเหม่ยซินมองหวางเย๋ด้วยสายตาที่ซับซ้อน จากนั้นก็รีบตามไปส่งเรด

จะต้องรู้ว่า ด้วยอิทธิพลของไมค์กรุ๊ปนั้น คิดจะบดขยี้ตัวเองให้ตายก็ง่ายเพียงนิดเดียว ตอนนี้คงได้แต่ภาวนาว่าไมค์จะไม่เล่นงานตัวเองเพราะเรื่องนี้

เมื่อสามเดือนก่อน หวางเย๋ได้นำเอาจี้หยกลายมังกรครึ่งหนึ่งซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนของพ่อผู้ให้กำเนิด และจดหมายลาตาย มาที่บ้านตระกูลหลง และได้กลายเป็นสามีของตัวเอง

เดิมคิดว่าเขาจะโดดเด่นเหมือนดั่งที่คุณพ่อว่าไว้ในจดหมาย เป็นมังกรในหมู่คน แต่สุดท้ายล่ะ เขาเป็นมังกรเสียที่ไหนกัน เป็นแค่หนอนตัวหนึ่งเพียงเท่านั้น

หวางเย๋กอดกล่องข้าวเอาไว้ นั่งยอง ๆ อยู่ที่หน้าห้องทำงานของหลงเหม่ยซินด้วยใบหน้านิ่งสงบ ไม่ได้สนใจคำพูดของคนอื่นเลยสักนิด

หลังจากที่หลงเหม่ยซินกลับมาที่ห้องทำงาน ก็ได้นั่งอยู่บนเก้าอี้สำนักงานด้วยอารมณ์ว้าวุ่น เธอถอนหายใจหนัก ๆ

ปกติแล้วหวางเย๋จะเอาอกเอาใจตัวเองอย่างต่ำต้อย ประจบประแจง ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยสักนิด แม้ว่าวันนี้เขาจะได้ลงมือเพื่อตัวเอง เป็นลูกผู้ชายสักครั้ง

แต่ทว่าฝ่ามือนี้ของเขา ได้ตบจนออร์เดอร์มูลค่าหลายร้อยล้านปลิวลอยไป และได้สร้างศัตรูตัวฉกาจขึ้น

สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือต้องรีบกลับบ้าน แล้วคุยเรื่องนี้กับคุณปู่ให้ชัดเจน