ตอนที่ 6 แรงปรารถณา
ตอนที่ 6 แรงปรารถณา
เจี้ยนหลงเดินออกจากเรือนของตน มุ่งหน้าไปยังเรือนของหลิงเยว่ ระหว่างทางเขาครุ่นคิดถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของภรรยา
เมื่อมาถึงหน้าเรือนของหลิงเยว่ เขาพบว่าไฟในห้องยังคงสว่างอยู่ แสดงว่านางยังไม่นอน
เจี้ยนหลงยืนอยู่หน้าประตูเรือนของหลิงเยว่ เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นเคาะ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เขาเป็นถึงเสนาบดี เป็นสามีของนาง ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตก่อนเข้าห้องภรรยาตัวเอง
เสียงประตูที่เปิดออกทำให้หลิงเยว่สะดุ้ง นางกำลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวอยู่ เสื้อผ้าของนางเปียกชื้นติดเนื้อ เผยให้เห็นเรือนร่างอวบอิ่มที่แม้จะผ่านการมีบุตรมาแล้ว แต่ก็ยังคงงดงามน่าหลงใหล
“ท่านเสนาบดีเหอ” หลิงเยว่เอ่ยเสียงแผ่วเบา ใบหน้าซีดเผือด เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นบนหน้าผาก
เจี้ยนหลงขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกใจและไม่พอใจกับคำเรียกนั้น “เรียกข้าว่าท่านพี่เหมือนเดิม”
หลิงเยว่ไม่ตอบ นางเพียงก้มหน้าลงและวางผ้าชุบน้ำลงในอ่าง มือของนางสั่นเล็กน้อย แม้จะดื่มยาถอนพิษที่หมอจางให้มาแล้ว แต่อาการของนางกลับไม่ดีขึ้น ความร้อนในร่างกายยังคงแผดเผา
“วันนี้เจ้าไปไหนมา?” เจี้ยนหลงถามเสียงเข้ม เขาเดินเข้ามาใกล้ สังเกตเห็นความผิดปกติของภรรยา
หลิงเยว่ยังคงเงียบ นางพยายามควบคุมลมหายใจของตัวเอง ไม่ให้เจี้ยนหลงสังเกตเห็นความผิดปกติ
“ข้าถามว่าเจ้าไปไหนมา!” เจี้ยนหลงเสียงดังขึ้น ความอดทนของเขาเริ่มหมดลง
“ข้าออกไปซื้อของที่ตลาด” หลิงเยว่ตอบเสียงแผว่
“เจ้าโกหก!” เจี้ยนหลงตวาด
หลิงเยว่กัดริมฝีปาก พยายามอดกลั้นความรู้สึกที่พลุ่งพล่านในใจ นางรู้ว่าไม่ควรพูดอะไรออกไปมากนัก เพราะยิ่งพูด ยิ่งอาจทำให้เจี้ยนหลงสงสัย
“เจ้ากำลังปิดบังอะไรข้า?” เจี้ยนหลงเดินเข้ามาใกล้อีก จนยืนอยู่ตรงหน้านาง “บอกข้ามา ไม่เช่นนั้นข้าจะส่งคนไปสืบเอง และถ้าข้าพบว่าเจ้ากำลังทำอะไรที่นำความอับอายมาสู่ตระกูลเหอ ข้าจะลงโทษเจ้าอย่างหนัก”
“งั้นท่านก็เขียนใบหย่าให้ข้าสิ” หลิงเยว่พูดออกไปโดยไม่ทันคิด เพราะทนความกดดันทั้งจากเขาและครอบครัวของเขาไม่ไหว
เจี้ยนหลงตะลึง ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ “หย่า? เจ้าคิดจะหย่ากับข้า? ทั้งที่เจ้าเป็นคนบอกพ่อของเจ้าทูลขอสมรสพระราชทาน เจ้าคิดจะหย่าก็หย่าได้ง่ายๆ งั้นหรือ?”
หลิงเยว่พยายามอดกลั้นอารมณ์ปรารถนาที่กำลังลุกโชนในร่างกาย ความใกล้ชิดของเจี้ยนหลงทำให้พิษในร่างกายของนางยิ่งกำเริบหนัก “งั้นข้ากับท่านก็ต่างคนต่างอยู่”
คำพูดนั้นทำให้เจี้ยนหลงโกรธจัดยิ่งกว่าเดิม เพราะเขาคิดว่าภรรยากำลังจะสวมหมวกเขียวให้กับเขา “เจ้ากำลังจะบอกข้าว่าเจ้ามีชายอื่นแล้วใช่ไหม? เจ้าถึงได้เอ่ยปากหย่ากับข้า?”
ไม่รอให้หลิงเยว่ได้ตอบ เจี้ยนหลงกระชากร่างของนางเข้ามาในอ้อมแขน ริมฝีปากของเขาบดขยี้จูบริมฝีปากของนางอย่างรุนแรง เขาต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ ต้องการให้นางรู้ว่านางเป็นของเขา
หลิงเยว่ที่มีความต้องการอยู่แล้วจากพิษในร่างกาย ไม่อาจต้านทานสัมผัสของเจี้ยนหลงได้ นางตอบรับจูบของเขาอย่างเร่าร้อน มือของนางโอบรอบคอของเขา ร่างกายของนางเบียดเสียดเข้าหาเขาโดยสัญชาตญาณ
เจี้ยนหลงถอนจูบออก ก้มลงมองนางอย่างดูแคลน “หญิงร่านอย่างเจ้า แม้จะพูดว่าอยากหย่ากับข้า แต่ร่างกายของเจ้ากลับตอบสนองข้าอย่างกระหาย ที่เจ้าพูดคงประชดข้าสินะ”
เขาก้มลงจูบไล่ลำคอระหงของนาง ก่อนจะเลื่อนลงไปยังหน้าอกอวบใหญ่ทั้งสองข้างที่กำลังขยับขึ้นลงตามลมหายใจที่หอบถี่ของนาง
“ท่าน...พี่...” หลิงเยว่ครางเบาๆ นางรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังลุกเป็นไฟ ทุกสัมผัสของเจี้ยนหลงทำให้นางรู้สึกเหมือนถูกเผาไหม้
เจี้ยนหลงยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางอย่างรวดเร็ว
“ข้าจะทำให้เจ้าจำไว้ว่าเจ้าเป็นของใคร” เจี้ยนหลงกระซิบข้างหูของนาง ก่อนจะจูบนางอีกครั้งอย่างดุดัน
หลิงเยว่ไม่อาจต้านทานความปรารถนาที่พลุ่งพล่านในร่างกายได้อีกต่อไป นางตอบสนองการรุกเร้าของเจี้ยนหลงอย่างเร่าร้อน มือของนางเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาบ้าง
เจี้ยนหลงประหลาดใจกับความกระตือรือร้นของภรรยา แม้ว่าหลิงเยว่จะเป็นคนที่มีความต้องการสูงอยู่แล้ว แต่คืนนี้นางดูเร่าร้อนกว่าปกติมาก
“เจ้าร้อนแรงเหลือเกิน” เขากระซิบ ขณะที่มือของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างของนาง “เจ้าคงคิดถึงข้ามากสินะ ถึงได้ร้อนแรงขนาดนี้”
หลิงเยว่ไม่ตอบ นางเพียงแต่ดึงเขาเข้ามาจูบอีกครั้ง ร่างกายของนางเริ่มสั่นสะท้านด้วยความปรารถนา
เจี้ยนหลงยิ้มมุมปาก เขาเริ่มจูบไล่ลงมาตามร่างกายของนาง ลิ้นของเขาเลียวนรอบยอดอกของนาง ทำให้หลิงเยว่ครางออกมาด้วยความสุขสม
“ท่านพี่...” หลิงเยว่ครางเรียก มือของนางจิกลงบนแผ่นหลังของเขา
เจี้ยนหลงรู้สึกพึงพอใจกับการตอบสนองของภรรยา เขาเลื่อนมือลงไปสัมผัสจุดอ่อนไหวของนาง พบว่ามันชุ่มฉ่ำด้วยความปรารถนา
“เจ้าคงคิดถึงข้ามากสินะ” เขากระซิบ ก่อนจะจัดท่าทางและเข้าหานางอย่างรวดเร็ว
หลิงเยว่สะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของเขาที่กำลังรุกล้ำเข้ามา นางกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงครางที่กำลังจะหลุดออกมา
เจี้ยนหลงเริ่มขยับตัว แต่ละจังหวะเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและดุดัน เขาต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ ต้องการให้นางรู้ว่านางเป็นของเขาคนเดียว
“อ๊ะ... ท่านพี่...” หลิงเยว่ครางออกมาเสียงหวาน ความรู้สึกเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วร่าง
เจี้ยนหลงยิ่งเร่งจังหวะเร็วขึ้น มือของเขากดลงบนเอวคอดของนาง ดวงตาของเขาจ้องมองใบหน้าที่แดงระเรื่อของภรรยา ริมฝีปากอิ่มที่เผยอออกเล็กน้อย และดวงตาที่หรี่ลงด้วยความสุขสม
“เจ้าชอบแบบนี้ใช่ไหม?” เขากระซิบถามพลางโน้มตัวลงมาจูบซอกคอของนาง “ชอบให้ข้าทำแบบนี้กับเจ้า”
หลิงเยว่ไม่ตอบ นางเพียงแต่ครางรับในลำคอ มือของนางเลื่อนขึ้นไปกอดรัดแผ่นหลังกว้างของสามี ความร้อนจากร่างกายของทั้งสองแผ่ซ่านไปทั่วห้องนอน
เจี้ยนหลงเร่งจังหวะเร็วขึ้นอีก เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องในความเงียบของราตรี หลิงเยว่รู้สึกว่าร่างกายของนางกำลังจะถึงจุดสุดยอด นางกัดริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นเสียงครางที่จะหลุดออกมา
“ร้องออกมาสิ” เจี้ยนหลงกระซิบ “ข้าอยากได้ยินเสียงของเจ้า”
คำพูดของเขาเหมือนคำสั่ง หลิงเยว่ปล่อยให้เสียงครางหลุดออกมาจากริมฝีปาก นางรู้สึกว่าร่างกายของนางกำลังถูกพาขึ้นสู่ที่สูง ก่อนจะตกลงมาอย่างรวดเร็ว ความสุขสมแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ทำให้นางสั่นสะท้านไปทั้งตัว
เจี้ยนหลงยังคงขยับตัวต่อไป เขาต้องการให้ภรรยาของเขาได้รับความสุขสมอย่างเต็มที่ ก่อนที่เขาจะปลดปล่อยความปรารถนาของตัวเอง
“ท่านพี่...” หลิงเยว่ครางเรียกเขาอีกครั้ง นางรู้สึกว่าร่างกายของนางยังคงมีไฟปรารถนาลุกโชน แม้จะผ่านจุดสุดยอดไปแล้วก็ตาม
เจี้ยนหลงชะงักเล็กน้อย เขามองหน้าภรรยาด้วยความประหลาดใจ “เจ้ายังต้องการอีกหรือ?”
หลิงเยว่ไม่ตอบ นางเพียงแต่ผลักร่างของเจี้ยนหลงให้นอนลง ก่อนจะขึ้นคร่อมร่างของเขาตามสัญชาตญาณ ดวงตาของนางฉายแววปรารถนาอย่างชัดเจน
หลิงเยว่ไม่พูดอะไร นางค่อยๆ ประกบร่างของนางลงบนความแข็งแกร่งของเขา เสียงครางแผ่วเบาหลุดออกมาจากริมฝีปากของนาง เมื่อรู้สึกถึงการรุกล้ำอีกครั้ง
“เจ้าช่างร่านนัก” เจี้ยนหลงกระซิบ แต่เขาก็ไม่ได้ห้ามปรามภรรยา เขาปล่อยให้นางขยับตัวขึ้นลงตามจังหวะที่นางต้องการ มือของเขาวางอยู่บนเอวคอดของนาง บางครั้งก็เลื่อนขึ้นไปบีบเคล้นหน้าอกอวบใหญ่ที่กำลังกระเพื่อมตามการเคลื่อนไหว
หลิงเยว่รู้สึกว่าร่างกายของนางกำลังลุกเป็นไฟ ทุกสัมผัสของเจี้ยนหลงทำให้นางรู้สึกเหมือนถูกเผาไหม้ นางขยับตัวเร็วขึ้น ต้องการให้ความร้อนรุ่มในร่างกายได้รับการดับลง
เจี้ยนหลงมองภรรยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา แม้ว่าเขาจะมักพูดจาดูถูกนาง แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขาหลงใหลในเรือนร่างของนาง ในความงดงามที่ยั่วยวนของนาง
“ท่านพี่...” หลิงเยว่ครางเรียกอีกครั้ง นางรู้สึกว่าร่างกายของนางกำลังจะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง
เจี้ยนหลงรู้สึกได้ถึงการบีบรัดของนาง เขาจับเอวของนางแน่นขึ้น และเริ่มขยับสะโพกของเขาขึ้นรับการเคลื่อนไหวของนาง
“อ๊ะ... ท่านพี่...” หลิงเยว่ครางเสียงสูง ร่างกายของนางสั่นสะท้านอีกครั้งเมื่อความสุขสมแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
เจี้ยนหลงไม่อาจทนต่อไปได้อีก เขาปลดปล่อยความปรารถนาของเขาในตัวนางอีกครั้ง เสียงครางต่ำดังออกมาจากลำคอของเขา
หลิงเยว่ล้มตัวลงบนร่างของเจี้ยนหลง หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ความร้อนรุ่มในร่างกายของนางยังไม่ได้ลดลงเลย
“เจ้ายังต้องการอีกหรือ?” เจี้ยนหลงถามอย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าภรรยาของเขายังคงมีท่าทีกระสันอยู่
หลิงเยว่ไม่ตอบ นางเพียงแต่จูบเขาอีกครั้ง มือของนางเริ่มลูบไล้ไปทั่วร่างกายของเขา
เจี้ยนหลงรู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มตอบสนองต่อการสัมผัสของนางอีกครั้ง เขาพลิกตัวให้นางนอนลงบนเตียง ก่อนจะเริ่มจูบไล่ลงมาตามร่างกายของนาง
“ท่านพี่...” หลิงเยว่ครางเรียกอีกครั้ง นางรู้สึกว่าร่างกายของนางกำลังลุกเป็นไฟอีกครั้ง
เจี้ยนหลงขึ้นมาจูบนางอีกครั้ง ก่อนจะสอดตัวตนเข้าไปด้านใน คราวนี้เขาขยับตัวอย่างช้าๆ
“ท่านพี่...” หลิงเยว่ครางเสียงแผว่
เจี้ยนหลงเร่งจังหวะเร็วขึ้น ครั้งนี้กินเวลายาวนานกว่าทุกครั้ง เขาจูบนางอย่างดุดัน ก่อนจะปลดปล่อยความปรารถนาของเขาในตัวนางอีกครั้ง
หลิงเยว่รู้สึกว่าร่างกายของนางเริ่มอ่อนล้า ความร้อนรุ่มในร่างกายเริ่มลดลง นางหลับตาลง พยายามควบคุมลมหายใจที่หอบถี่ของนาง
เจี้ยนหลงนอนลงข้างๆ นาง เขาดึงนางเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน “เจ้ายังจะอยากหย่ากับข้าอีกหรือไม่”
หลิงเยว่ไม่ตอบ นางเพียงแต่ซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ความอ่อนล้าทำให้นางหลับไปอย่างรวดเร็ว
เจี้ยนหลงมองใบหน้าที่หลับสนิทของภรรยา ก่อนจะหลับตามไปด้วย
