ตอนที่ ๑ ร่างใหม่ในยุคเก่า
เจ้าจันทร์ควรเสียชีวิตเพราะหายใจไม่ออกไปแล้ว ทุกอย่างมันควรเป็นแบบนั้น ทว่า!มันกลับไม่ใช่! ในช่วงเวลานั้นเธอรู้สึกถึงสัมผัสบางอย่าง เหมือนมีมือใครสักคนกำลังกอบกุมมือของเธอเอาไว้
ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมาจากฝ่ามือนุ่มที่สัมผัสจนรู้สึกขนลุก ไม่รู้ว่าเป็นใครที่จับมือเธออยู่ แต่ที่เจ้าจันทร์รับรู้ได้ก็คือเจ้าของมือนี้กำลังร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
“ ฮึก! ฮือออ...”
เสียงร้องไห้ที่สะท้อนความเจ็บปวด เหมือนคนกำลังเป็นทุกข์ราวกันคนที่กำลังสูญเสียสิ่งที่รัก เจ้าจันทร์ค่อยๆ หันหน้าไปมองเจ้าของฝ่ามือนั้นช้าๆ
ใบหน้าสวยที่คุ้นเคยแต่ดูอ่อนเยาว์กว่าปรากฏขึ้นข้างกาย เจ้าจันทร์ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาเหมือนกับเธออย่างกับแกะ แต่ดูเหมือนจะอายุจะน้อยกว่า การแต่งกายก็ไม่น่าจะใช่คนในยุคปัจจุบัน
ใบหน้าสวยที่ดูอ่อนเยาว์ เผยรอยยิ้มทั้งน้ำตาให้กับเจ้าจันทร์ ทว่าแววตาที่สื่อออกมามันแฝงไปด้วยความเจ็บปวด เหมือนคนไม่เหลืออะไรในชีวิต
“ ฮึก ฉันฝากหล่อนดูแลคุณแม่มณีแทนฉันด้วยหนา? ”
“ ค..คุณแม่มณี? ”
เจ้าจันทร์ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ ว่าอีกฝ่ายต้องการให้เธอทำอะไร ฝากดูแลคุณแม่มณีเหรอ? แล้วคุณแม่มณีที่ว่าเป็นใคร? เป็นคนใช่ไหม? หรือเป็น... ช่างเถอะ
“ ฮึก! ไม่ว่าจะพยายามทำดีสักแค่ไหน ฉันก็ไม่อาจทำให้เจ้าคุณพี่หันมารักฉันได้เลย ฮึก หวังว่าหล่อนคงจะทำได้ดีกว่าฉันนะ ฮึก ”
“ O_O' ห๊ะ! ให้ฉันทำอะไร? ” คนฟังเบิกตาโตทำหน้างงๆ พลางมองหน้าแล้วถามกลับ
แล้วเจ้าจันทร์ก็ต้องขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม เพราะไม่เคยเจอใครที่มีใบหน้าเศร้าหมองราวกันคนกำลังทุกข์ระทมได้เท่านี้มาก่อน จะปลอบคนก็ปลอบไม่เป็นด้วยสิ
หญิงสาวตรงหน้าฝืนยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนจะยื่นบางอย่างมาให้ เจ้าจันทร์เลื่อนสายตามองที่สิ่งนั้นเธอก็ต้องเบิกตาโต มันคือกำไลทองที่สวยงามมากๆ ลวดลายละเอียดอ่อน ประณีตราวกับเป็นงานศิลปะชิ้นเอก รู้สึกเหมือนเป็นของสะสมชิ้นเดียวในโลกเลย
“ หลังจากนี้ มันเป็นของหล่อน หมดเวลาของฉันแล้ว ฉันคงต้องไป ฉันขอให้หล่อนโชคดีนะ ” พูดจบประโยคสุดท้าย ก็เกิดแสงจ้าจนเจ้าจันทร์ต้องหรี่ตาลง จากนั้นหญิงสาวตรงหน้าก็อันตธานหายไปในทันที
“ เฮ้ย!! ”
เจ้าจันทร์สะดุ้งโหยงพร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะหันไปมามองรอบๆ บริเวณ ที่มีแต่หมอกควันเต็มไปหมด
“ หะ หายไปไหนแล้ววะ? ...ว้าย!!”
ขณะที่เจ้าจันทร์งงงันอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็เกิดลมหมุนวนแรงราวกับพายุ พัดพาตัวเธอให้ปลิวจนลอยละล่อง ร่างเล็กๆ พยายามจะฝืนตัวอย่างสุดชีวิต แต่มันกลับไม่เป็นผล
เธอถูกพัดเข้าไปในกลุ่มหมอกควันหนาที่มองอะไรไม่เห็นเหมือนคนหลงทาง ความหวาดกลัวเข้าครอบงำจนเจ้าจันทร์ต้องหลับตาปี๋กำมือแน่น แต่แล้วเธอจะได้ยินเสียงของใครบางคนที่เอ่ยเรียก
“ เจ้าจันทร์ ”
“.......”
“ เจ้าจันทร์... ตื่นเถิดลูก ” ไม่รู้หรอกว่าเสียงของใคร แต่เธอสัมผัสได้ว่ามันเป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยนและแฝงไปด้วยความห่วงใยเอามาก ๆ แต่เดี๋ยวนะ! ..นั่นมันชื่อเธอนี่!
เจ้าจันทร์พยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก และกว่าจะลืมตาได้ก็กินเวลาไปนานเกือบห้านาที เมื่อลืมตาได้ก็โฟกัสไปที่เจ้าของเสียงเป็นนแรก
“ คุณหญิงเจ้าคะ คุณเจ้าจันทร์ฟื้นแล้วเจ้าค่ะ!”
มีใครสักคนตะโกนเสียงดังขึ้นมา ทำเอาเจ้าจันทร์รู้สึกปวดหัวมาก มองหน้าใครก็ไม่คุ้นเลยสักคน มีหลายคนที่กำลังร้องไห้ดีใจกับการที่เธอฟื้นขึ้นมา
แม้จะรู้สึกแปลกใจและมึนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เจ้าจันทร์ก็พยายามควบคุมสติตัวเองพร้อมกับใช้สมองประมวลผลทุกอย่าง อย่างรวดเร็ว แล้วสมองอันน้อยนิดก็ประมวลผลได้ว่า เธอน่าจะตายไปแล้ว แต่ได้มาเกิดใหม่ในร่างนี้
เธอกวาดสายตามองไปรอบห้องที่ดูหรูหรา แต่ไม่ได้มีความสมัยใหม่อะไร เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นไม้ น่าจะเป็นไม้สักทอง เตียงนอนที่เธอนอนอยู่มีเสาสี่เสามีระบายเป็นม่านลูกไม้ผสานกันสวยงาม
ทุกอย่างภายในห้องนี้ มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเก่าแก่ ทว่ามันกลับเป็นบรรยากาศที่ดูโรแมนติกและให้ความรู้สึกหวานละมุน
แต่! มันใช่เรื่องที่จะมาโฟกัสไหมไอ้จันทร์? เธอควรคิดว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนก่อนสิ?
เวลานานเกือบชั่วโมงที่เจ้าจันทร์ไม่สามารถพูดอะไรได้ นอกจากนอนนิ่งๆ มองทุกคนที่อยู่รอบข้างพูดคุยกัน และดูเหมือนว่าเจ้าของร่างนี้จะเป็นคนสำคัญน่าดู
เมื่อเจ้าจันทร์เริ่มมั่นใจแล้ว ว่าเธอมาเกิดใหม่ในร่างนี้จริงๆ เธอก็แทบอยากจะทึ้งหัวตัวเองแรงๆ ใครมันจะคิดว่านั่งกินข้าวเหนียวไก่ย่างอยู่ดีๆ กระดูกจะติดคอตาย!
ที่บ้าไปกว่านั้นคือ ตื่นขึ้นมาสิ่งรอบตัวดูแปลกตาไปหมด ทั้งผู้คนและภาษาที่พูดคุยแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้จะฟังเข้าใจก็เหอะ เสื้อผ้าก็ดูเหมือนจะอยู่ในยุคโบราณ เจ้าจันทร์คิดว่าน่าจะเป็นสมัย ร.สี่ หรือไม่ก็ ร.ห้า นี่แหละ
แล้วไหนจะเจ้าของร่างนี้อีก ที่มีชื่อกับหน้าตาเหมือนเธอทุกอย่าง นี่มันละครหลังข่าวชัดๆ
แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าจันทร์รู้สึกแปลกใจหนักกว่าเดิม ก็คือผู้ชายหน้าหล่อ รูปร่างกำยำ ดวงตาสีเข้มติดดุ ที่กำลังยืนมองเธออยู่ด้านหลังคุณหญิงอะไรนี่
เขาจ้องมองเธอนิ่งไม่ขยับด้วยสายตายากที่จะอ่านออก แต่เจ้าจันทร์ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวหรอก เธอแค่งงเฉยๆ ว่าเขาจะมายืนจ้องอะไรเธอนักหนา
“ แม่ขออยู่ดูแลเจ้าจันทร์ จนกว่าจะอาการดีขึ้นนะ เจ้าคุณ ” คุณหญิงหันไปพูดกับผู้ชายคนนั้น ก่อนที่เขาจะพยักหน้าให้เบาๆ
“ ขอรับ อย่างไรเสียเจ้าจันทร์ก็เป็นลูกสาวของคุณแม่ กระผมฝากคุณแม่ช่วยดูแลเจ้าจันทร์ด้วยนะขอรับ ”
