บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ร่างที่อ่อนแอ 1/2

“ปัง ๆ ๆ นังหลินหว่านออกมาเดี๋ยวนี้คุณหนู่ใหญ่เรียกหาเจ้า แอบอู้อยู่หลายวันเกินไปแล้วนะเปิดประตูออกมา อย่าให้ข้าต้องใช้ไม้แข็งบุกเข้าไปตามถึงด้านในนะนังหลินหว่าน”

“แอ๊ด กึก เป็นอะไรแหกปากเสียงดังอยู่ได้มันน่ารำคาญนะ เจ้าเข้าใจคำว่าน่ารำคาญป่ะกินนกหวีดเป็นอาหารหรือไง เสียงถึงได้แหลมบาดหูขนาดนี้เรียกปกติเคาะประตูอย่างมีมารยาทน่ะ ทำเป็นไหมหรือทำเป็นแต่ไม่อยากทำงั้นสิ ยัง ๆ จะมองหน้าอีกข้าถามไม่ได้ยินหรือไง คำว่ามารยาทรู้จักมะเจ้านายไม่สั่งสอนเลยเหรอนังฮุ่ยเหมย”

“.........!!??”

“อ้าว ยังจะเงียบอีกถามไม่ตอบจะเงียบอีกนานไหมนังฮุ่ยเหมย ถ้าจะเงียบก็ดีข้าจะได้กลับไปนอนพักต่อ อย่าลืมปิดประตูให้ด้วยล่ะแต่อย่าปิดแรงเดี๋ยวมันจะพังเข้าใจแล้วนะ” มู่หลินหว่านคนใหม่พูดน้ำไหลไฟดับ จนฮุ่ยเหมยยังคงอึ้งกับท่าทางแปลก ๆ เหล่านี้

“จะ จะ เจ้าคือนังหลินหว่านจริง ๆ น่ะหรือเหตุใดถึงได้ไม่เหมือนเดิม เพราะถูกโบยจนสติเลอะเลือนไปแล้วการพูดจาการจาก็ดูแปลก ๆ ฟังไม่รู้เรื่องนกอะไรของเจ้าร้องหวีด ๆ ไม่มีนกตัวไหนส่งเสียงร้องเช่นนั้นหรอกนะ”

“เจ้าไม่รู้จัก อ้อ ไม่เป็นไรเอาเป็นว่าข้ารู้จักดีก็แล้วกัน ว่าธุระของเจ้ามาข้าไม่ว่างมายืนคุยกับบ่าวไม่มีมารยาทเช่นเจ้า”

“ฮึ ได้นอนพักหลายวันเข้าหน่อยทำปีกกล้าขาแข็ง พูดจาดั่งแม่ค้ากลางตลาดก่อนหน้านี้เหตุใดไม่ปากเก่งเช่นตอนนี้เล่า เอาเป็นว่าเจ้ารีบตามข้าไปพบคุณใหญ่ที่เรือนโดยเร็ว เพราะคุณหนูใหญ่มีงานสำคัญรอให้เจ้าไปทำรีบตามมาได้แล้ว เสียเวลาของข้าไปมากถ้าเจ้ายังไม่ยอมขยับเท้าละก็จะโดนอะไรย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจนะ”

“อ้อ หากข้าไม่ยอมทำตามที่เจ้าบอกมาข้าจะต้องเจ็บตัวสินะ แล้วเจ้าเคยเจ็บแบบข้าสักครั้งหรือยัง ถ้าข้าไม่ก้าวเท้าตามเจ้าไปในวันนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง นอกจากจะโดนเจ้าทุบตีเป็นคนแรกเช่นทุกครั้ง”

“นังหลินหว่าน!! อย่ามาต่อปากต่อคำให้มากนักจะได้ไหม พอหายเจ็บก็ปากเก่งกว่าเดิมเชียวนะ แม่ของเจ้ายังไม่กล้าแม้จะต่อล้อต่อเถียงกับข้าเลยได้เจ้าจะยืนนิ่ง ๆ อยู่เช่นนั้นใช่ไหมได้เลยเจ้าอยากเจ็บตัวเพิ่ม ข้าฮุ่ยเหมยยินดีอย่างมากจะสนองให้เจ้าอะ..”

“เพี๊ยะ!! โอ้ย เพี๊ยะ!! โอ้ย หมับ โป๊ก!! โป๊ก!!”

“ข้าบอกว่าอย่างไรที่พูดออกไปมันไม่เข้าหูของเจ้าเลยรึ ห๊ะ!! ชอบรังแกคนอ่อนแอดีนักใช่ไหมวันนี้หากไม่สั่งสอนซะบ้าง เจ้าคงจะลืมตัวไปอีกนานว่าเจ้าคือสาวใช้ไม่ใช่เจ้านายของจวนนี้ โป๊ก!! เพราะข้าคือคุณหนูรองมู่หลินหว่านที่เป็นเจ้านาย สาวใช้เช่นเจ้ากล้าดียังไงมาออกคำสั่งจิกหัวใช้ข้า” มู่หลินหว่านทั้งตบทั้งจับหัวของฮุ่ยเหมยโขกกับขอบประตูกระท่อม

“กรี๊ดดด ปล่อยข้านะอย่าทำอีกเลยข้าเจ็บแล้ว โอ๊ย หัวของข้าปูดบวมถึงเพียงนี้แล้วหยุดมือซะที”

“หึ ทำไมยามที่ข้าร้องขอความเมตตาจากเจ้าล่ะ เคยมอบมันให้ข้าบ้างหรือไม่เคยคิดจะหยุดมือที่ทำร้ายข้าบ้างไหม ไม่เคยมีทั้งเจ้านายทั้งบ่าวสารเลวเหมือนกันหมด ก่อนที่เจ้าจะกลับไปรายงานกับมู่จือหย่าเจ้าต้องไปหาข้าวมาให้ข้ากินซะดี ๆ”

“เพ้ย!! เจ้ากล้าขู่ข้างั้นหรือนังหลินหว่าน สตรีที่โง่ไม่รู้ความเช่นเจ้าคิดจะสังหารข้ามันไม่ง่ายหรอกนะ..”

“งั้นหรือไม่โดนเพิ่มอีกสักทีสองทีคงจะไม่ดีขึ้น เช่นนั้นข้าจะช่วยทำให้เจ้าจดจำข้ามู่หลินหว่านไปตลอดชีวิต”

“ผั๊วะ! ผั๊วะ! อ๊ะ โอ๊ย ตุบ ตุบ อั่ก ปึก! ปึก! อ่ะ แค่ก ๆ ๆ”

“ยะ ยะ ยอมแล้วข้ายอมทำตามที่เจ้าบอก ได้โปรดหยุดมือของเจ้าเถิดข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว” ฮุ่ยเหมยถูกเจ้าจอมที่อยู่ในร่างของมู่หลินหว่าน ตบตีโดยใช้ทั้งมือและเท้าจนสภาพของฮุ่ยเหมยต่างกับตอนมาที่กระท่อมลิบลับ

“ผลัก! ยอมทำตามตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องเจ็บตัวถึงเพียงนี้ รีบไปเอาอาหารมาให้ข้าได้แล้วอย่าได้ชักช้าอีก ไม่เช่นนั้นข้าอาจจะเปลี่ยนใจฝังเจ้าไว้ที่นี่แทน ส่วนคำแก้ตัวที่ข้าไม่ยอมไปเจ้าก็หาทางออกเอาเอง”

“ปะ ปะ ไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะท่านรอไม่นานข้าจะรีบกลับมา อูย”

ฮุ่ยเหมยไม่กล้าสบตากับมู่หลินหว่านอีก นางก้มหน้าวิ่งออกไป เพื่อทำตามที่ถูกข่มขู่ไว้อาหารบำรุงหลายอย่าง ที่วางอยู่บนถาดฮุ่ยเหมยยกไปยังกระท่อมเก่า ๆ อย่างรวดเร็ว นางไม่คิดไม่ฝันว่ามู่หลินหว่านจะเปลี่ยนไปได้เพียงนี้หลังจากถูกโบย สายตาที่มองมาน่ากลัวมากกว่ายามเจ้านายของตนโกรธเสียอีก แต่ฮุ่ยเหมยก็ต้องเจ็บตัวอีกครั้งเพราะตามมู่หลินหว่านไปไม่ได้ ทำให้มู่จือหย่าเสียเวลารออยู่ในเรือนตั้งนานสองนาน จนเกือบทำให้คู่หมั้นที่ตนอุตส่าห์แย่งมาจากมู่หลินหว่านได้ ไม่อยากรอจวนเจียนจะกลับจวนอยู่แล้วมู่จือหย่าถึงได้ออกมาพบ และกล่าวขออภัยกันอยู่ยกใหญ่ฝ่ายบุรุษจึงยอมยกโทษให้ เมื่อรู้ว่าที่มู่จือหย่าออกมาพบตนเองช้าเป็นเพราะถูกมู่หลินหว่าน คอยกลั่นแกล้งขัดขวางนางเอาไว้ไม่ยอมให้มาพบกับคู่หมั้น เพื่อสร้างความเกลียดชังในตัวของมู่หลินหว่านเพิ่มขึ้นไปอีก

“นังหลินหว่านมาได้เสียทีรีบมาช่วยข้าแต่งตัวเร็วเข้า ป่านนี้คุณชายเฉินคงมานั่งรออยู่ที่ห้องรับรองแขกนานแล้ว หากยังชักช้าอยู่อีกข้าจะสั่งให้คนโบยเจ้าเพิ่ม” มู่จือหย่าได้ยินเพียงเสียงเปิดประตูเรือน มิได้หันไปมองว่าคนที่มาใช่มู่หลินหว่านหรือไม่ จนกระทั่งมีเสียงตอบกลับมาถึงได้รู้ว่าเป็นฮุ่ยเหมยแทน

“คะ คะ คุณหนูบ่าวฮุ่ยเหมยเองเจ้าค่ะ ขออภัยคุณหนูที่ปล่อยให้ท่านต้องรอนานเช่นนี้ แต่ว่าบ่าวไม่สามารถพาตัวนังหลินหว่านมาได้ มิหนำซ้ำยังถูกนางทุบตีจนมีสภาพอย่างที่คุณหนูเห็นเจ้าค่ะ อูย เจ็บ”

“ฮุ่ยเหมย!! ฮึ่ย เพี๊ยะ!! โอ๊ย เพี๊ยะ!! โอ๊ย”

“ไร้ประโยชน์แค่กาฝากคนเดียวก็จัดการไม่ได้ แล้วจะให้เจ้าคอยอยู่ดูแลข้างกายข้าได้อย่างไร”

“คุณหนู ๆ ยามนี้อย่าเพิ่งลงโทษบ่าวเลยนะเจ้าคะ ท่านควรแต่งตัวให้งดงามและออกไปพบคุณชายเฉินเสียก่อน หากยังไม่ยอมออกไปบ่าวเกรงว่าคุณชายเฉินจะกลับจวน แทนที่คุณหนูจะได้ออกไปเดินเล่นให้สตรีด้านนอกอิจฉาท่านได้นะเจ้าคะ” ฮุ่ยเหมยรีบขัดอารมณ์โมโหของมู่จือหย่าไว้ด้วยชื่อของเฉินเยี่ยนหมิง

“หึ ถือว่าเจ้ารอดตัวไปก็แล้วกันรีบมาช่วยข้าแต่งตัว คราวหน้าหากยังทำงานไม่ได้เรื่องเช่นนี้อีก เจ้าจะถูกขายออกไปจากจวนหลังนี้อย่างถาวร” มู่จือหย่าพยายามอย่างมากกับการระงับความโกรธที่มี เพื่อปรับเปลี่ยนสีหน้าให้กลับมาเรียบร้อยอ่อนหวาน สำหรับเรียกร้องความสนใจจากบุรุษที่ตนหลงใหลมาตั้งแต่เยาว์วัย

“มู่หลินหว่านท่านพ่อและท่านแม่แย่งทุกอย่างจากมารดาเจ้าได้ ตัวข้าก็แย่งบุรุษที่ควรเป็นของเจ้ามาอยู่ข้างกายของข้า คนไร้ค่าเช่นเจ้าไม่คู่ควรกับตำแหน่งฮูหยินขุนนางชั้นสูง”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel