
บทย่อ
ในชาติก่อนนางถูกคำว่ารักของเขาพันธการเอาไว้ ทว่าก่อนนางสิ้นลมจึงได้รู้ว่าตัวเองช่างโง่เขลา! เมื่อสวรรค์ให้โอกาสเกิดใหม่อีกหน นางขอสาบานว่าสามีผู้นี้นางไม่ขอร่วมผูกผมด้วยเป็นอันขาด แม้ตายก็ไม่ยอม!! 'มู่เสี่ยวชิง' คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลรองแม่ทัพได้ถูกขนานนามว่าเป็นหญิงงามแห่งเมืองเหลียงซาน แต่หลังจากบิดาได้รับพระราชทานให้เป็นแม่ทัพใหญ่ให้มาพิทักษ์เมืองหลวง ครอบครัวจึงต้องย้ายถิ่นฐานมายังเมืองหลวงเพื่อความก้าวหน้าของบิดา สถานที่อันเปรียบเสมือนฝันร้ายของนางในชาติก่อน เมื่อมู่เสี่ยวชิงได้โอกาสให้กลับมาแก้ไขอดีตของตน นางขอสัญญาด้วยชีวิตที่สองนี้ว่าจะไม่ขอกลับไปหาสามีผู้ชั่วช้าเลวทรามผู้นั้นเป็นอันขาด ลูกไม้ใดที่เขาเคยเสแสร้งแกล้งทำมานานกว่า 2 ปี นางจะไม่หลงกลอีกต่อไป!! นาง... มู่เสี่ยวชิงผู้นี้ ได้หายโง่งมแล้ว! ไม่มีอีกแล้วสตรีที่เชื่อฟังสามีราวกับคนโง่ ผู้เห็นสามีประหนึ่งแผ่นฟ้าอันกว้างใหญ่ของตน มีเพียงสตรีที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาคืนสามีชั่วช้าผู้นั้น!!
บทนำ
บทนำ
ภายใต้ศาลาไม้ที่อยู่ใจกลางสวนของตระกูลเฉิง สายฝนได้ตกลงมาอย่างหนักหน่วง จนมีเม็ดฝนบางส่วนตกลงมากระทบกับใบหน้าอันงดงามของมู่เสี่ยวชิง หญิงสาวที่อยู่ในชุดสีขาวอันบริสุทธิ์ทว่ากลับมีเลือดสีแดงฉานเปรอะเปื้อนไปทั่วหว่างขา นางทรุดกายลงนั่งกับพื้นพร้อมเงยหน้ามองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีที่อยู่กินกันมากว่า 2 ปี ด้วยหัวใจอันเจ็บปวดรวดร้าว กระบอกตาทั้งสองข้างร้อนผ่าวจากการร้องไห้อย่างหนักหน่วงด้วยความเสียใจอย่างถึงที่สุด
"ฮือ ๆ ท่านพี่... เหตุใดท่านถึงทำกับข้าและลูกเช่นนี้กัน เหตุใดท่านถึงไม่อยากให้เขาเกิดมาเล่า นี่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านเลยนะ" นางตะโกนถามออกไปทั้งน้ำตา
"จะให้ข้าพูดอีกกี่ครั้งว่าเด็กในท้องของเจ้าไม่ใช่ลูกของข้า เจ้ามันนังแพศยาที่ลอบสวมหมวกเขียวให้กับข้า"
บุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีชี้หน้าใส่ผู้เป็นภรรยาด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด นางยังมีหน้ามาต่อว่าเขาได้อีกหรือ ทั้งที่ตัวนางเองหาใช่สตรีที่ดีไม่
"ท่านพูดอันใด นี่คือลูกของท่าน และข้าก็หาได้ทำเรื่องงามหน้าเช่นนั้นไม่ ข้าเป็นภรรยาของท่านมานานถึง 2 ปี ท่านยังมิเชื่อใจข้าอีกหรือไร" มู่เสี่ยวชิงมองผู้เป็นสามีด้วยความผิดหวัง
"หึ ๆ เจ้าไม่ต้องมาพูดจาโย้เย้ไปมา อย่างไรโทษของเจ้าก็คือความตาย ตระกูลเฉิงของข้าไม่ยอมให้สตรีเช่นเจ้ามาทำลายชื่อเสียงอันดีงามไปได้หรอก เจ้าควรจะขอบคุณในความเมตตาสุดท้ายของข้านะเสี่ยวชิง เจ้าตายไปเงียบ ๆ เพื่อรักษาเกียรติของตัวเองไม่ดีกว่าหรือ ข้าสัญญาว่าข้าจะจัดงานศพของเจ้าอย่างดีเลยล่ะ" เขาเอ่ยอย่างมีน้ำใจ ทว่าในน้ำเสียงนั้นกลับไม่มีความจริงใจเลยสักนิดเดียว
"อันใดคือเมตตา อันใดคือเกียรติ ท่านกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ได้อย่างไร ท่านมันไร้หัวใจสิ้นดี ข้าไม่น่าหลงผิดรักคนเช่นท่านได้เลย"
"ชิงเอ๋อร์... เจ้าคิดช้าไปหรือไม่ คิกคิก"
สตรีนางหนึ่งที่มู่เสี่ยวชิงคุ้นเคยก้าวขึ้นมาด้านหน้า บัดนั้นมู่เสี่ยวชิงจึงรู้ว่าภายในที่แห่งนี้ไม่ได้มีแค่นางกับเขา แต่ยังมีสหายสนิทและด้านหลังยังเป็นพ่อสามีและแม่สามีที่นางเคยให้ความเคารพจากใจจริงด้วย
"เจ้า! เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน" มู่เสี่ยวชิงผินหน้าไปมองสหายด้วยความไม่เข้าใจถึงการปรากฏกายของนาง
"เพราะข้าต้องการมาดูให้เห็นกับตาว่าท่านพี่ตัดขาดเจ้าอย่างไรเล่า ชิงเอ๋อร์... เห็นแก่ความเป็นสหายของเรา และข้าเองก็เคยช่วยเหลือเจ้ามานานหลายปี เจ้าก็ควรจะตอบแทนข้าบ้างสิ"
นางก้าวเข้ามาใกล้พร้อมกับถือถ้วยยาที่ผสมยาพิษมอบให้กับมู่เสี่ยวชิง ใบหน้างามแสยะยิ้มหวานอย่างโหดเหี้ยม
"จะ เจ้า... หมายจะพูดว่าอะไร"
"ข้ากับท่านพี่รักกันมานานแล้ว เจ้าที่เป็นฮูหยินเอกและยังทำเรื่องงามหน้าสมควรจะหลีกทางให้ข้าเสียที ฉะนั้นจงดื่มยาพิษนี่ซะเถอะ!!" สุ้มเสียงแว่วหวานทว่ากลับบาดลึกไปถึงใจคนฟังอย่างเจ็บปวด
"จะ เจ้าเป็นชู้กับสามีของข้าหรือ ทั้งที่เจ้าเป็นสหายสนิทของข้าแท้ ๆ เหตุใดเจ้าถึงได้ทำเรื่องเช่นนี้ได้กัน" จากความเสียใจแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นเมื่อรู้ว่าตนถูกแทงข้างหลัง
"จะพูดว่าชู้ก็ไม่ถูก เพราะข้านั้นมาก่อนเจ้าต่างหากเล่า นังโง่!"
นางหัวเราะขันกับความโง่เขลาของอีกฝ่าย ก่อนจะเดินไปเกาะแขนบุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของสหายอย่างหน้าชื่นตาบาน
"หึ ๆ ข้าเข้าใจแล้ว เป็นข้าเองที่โง่เขลาเบาปัญญาสินะ" มู่เสี่ยวชิงเงยหน้าร้องไห้อย่างเจ็บปวด
ตอนนี้นางกระจ่างแจ้งแก่ใจแล้ว... ความตายของนางคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ!
"เจ้าคิดถูกแล้วล่ะเสี่ยวชิง ส่วนเรื่องสินเดิมของเจ้าพวกเราจะดูแลให้เอง เจ้าอย่าได้เป็นห่วงไปเลย"
แม่สามีก้าวขึ้นมายืนยิ้มราวกับนี่คือสิ่งที่พวกนางควรทำ ทั้งที่ความจริงแล้วสินเดิมพวกนี้จะต้องส่งคืนให้กับตระกูลเดิมของนางหากนางต้องตายเมื่อไม่มีบุตรสาว
"ใช่แล้ว โสมพันปีที่เจ้าเก็บเอาไว้ พวกเราจะถวายแด่ฮ่องเต้แทนเจ้าเอง เมื่อเจ้าตายไปแล้วย่อมต้องได้รับความดีความชอบจากฮ่องเต้อย่างแน่นอน รีบบอกมาเถิดว่าเจ้าเอาโสมพันปีไปซ่อนไว้ที่ใดกันแน่" พ่อสามีเอ่ยขึ้นพลางแสยะยิ้มเหี้ยม
พวกเขาเบื่อที่จะต้องเล่นงิ้วนี้เต็มทีแล้ว เวลาที่ทอดมายาวนานกว่า 2 ปีสมควรจะสิ้นสุดลงเสียที เป้าหมายที่พวกเขาต้องการก็คือโสมพันปีอันเป็นสมบัติของมู่เสี่ยวชิง พวกเขาต้องการนำโสมพันปีไปถวายแด่ฮ่องเต้เพื่อรับความดีความชอบ ในเวลานี้ฮ่องเต้ถูกพิษจำต้องได้รับโสมพันปีเพื่อบำรุงพระวรกายอันล้ำค่า
"พวกท่าน! รู้เรื่องโสมพันปีของข้าได้อย่างไร"
ใบหน้าหวานซีดเผือดด้วยความตกใจ เรื่องโสมพันปีนี้นางไม่เคยกล่าวกับผู้ใดมาก่อน นี่ถือว่าเป็นความลับเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลของนาง
"จะรู้ได้อย่างไรเจ้าไม่ต้องสนใจไปหรอก รีบบอกที่ซ่อนของโสมพันปีมาซะทีเถิด! แล้วเจ้าก็ดื่มยาพิษนี่เพื่อชดเชยความผิดที่สวมหมวกเขียวให้กับข้า"
สามีของนางก้าวขึ้นมาบีบปลายคางจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บปวด ใบหน้างามพลันบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน แต่นี่เทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดทางใจ นี่สินะคือสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุด!
โสมพันปีและชีวิตของนาง!!
"ถุย! ข้าไม่มีวันบอกคนชั่วช้าเช่นพวกเจ้าหรอก ต่อให้ข้าตายข้าก็จะไม่ยอมบอกที่ซ่อนของโสมพันปีเป็นอันขาด!!"
มู่เสี่ยวชิงพ่นน้ำลายใส่ใบหน้าของสามี ตอนนี้ความรู้สึกของนางมันได้แตกสลายไปหมดแล้ว ความรักความเชื่อใจที่นางมีให้ต่อสามีได้มลายหายไปสิ้นจนไม่เหลือชิ้นดี
"ถ้าเจ้าไม่พูด ตระกูลของเจ้าก็จะถูกท่านอ๋องป้ายความผิดจนถูกตัดสินโทษประหารอยู่ดี เจ้าเลือกเอานะว่าจะตายไปแต่เพียงผู้เดียว หรือจะให้คนทั้งตระกูลมาแบกรับความผิดของเจ้าไปด้วย"
"ท่านอ๋อง? หมายความว่าอย่างไร เหตุใดท่านอ๋องถึงมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย"
"เพราะเรื่องทุกอย่างล้วนเป็นแผนการของท่านอ๋อง โสมพันปีนี้จะเป็นบันไดไปสู่อำนาจของท่านอ๋องอย่างไรเล่า เจ้าควรรู้นะว่าจะต้องทำอย่างไร มิเช่นนั้นจะไม่ใช่แค่เจ้าที่จะต้องตาย แต่ยังเป็นทุกคนในตระกูลของเจ้าด้วย"
"สารเลว! ชั่วช้ายิ่งนัก!!"
มู่เสี่ยวชิงด่าทอออกมาด้วยความแค้นใจ เป็นนางที่โง่เขลาไปจริง ๆ เสียด้วย นางน่าจะเชื่อคำเตือนของพี่ชายท่านนั้น แต่เมื่อรู้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว
"บอกมาเดี๋ยวนี้ ข้าไม่อยากจะมาสาวความยาวกับเจ้าแล้ว"
สามีตะคอกใส่มู่เสี่ยวชิงอย่างไร้เยื่อใย ท่านอ๋องทรงต้องการโสมพันปีจนมากดดันกับเขาแล้ว หากยังชักช้าเกรงว่าจะเป็นตระกูลเฉิงของเขาที่จะต้องรับโทสะจากท่านอ๋องเอง
"หากข้าบอก ท่านจะละเว้นครอบครัวของข้าใช่หรือไม่"
"ใช่! ข้าสัญญา"
มู่เสี่ยวชิงสะกดกลั้นความเจ็บใจเอาไว้ นางรู้ดีว่าตอนนี้นางไม่สามารถเลือกทางอื่นได้แล้ว หากอยากให้ตระกูลมู่รอดก็มีแต่ทางนี้เท่านั้น หวังเพียงว่าสามีที่นางร่วมผูกผมจะรักษาคำพูดของตน
"ทะเลสาบชิงชาง ใต้ต้นดอกท้อ... ข้าฝังเอาไว้ที่นั่น!"
"ดีมาก เช่นนั้นเจ้าก็ดื่มยาพิษแล้วเขียนหนังสือลาตายซะ บอกว่าตัวเองเสียใจที่รักษาลูกไม่ได้จึงขอตายตามลูกไป นี่ข้าถือว่าไว้หน้าเจ้ามากเลยนะ"
มู่เสี่ยวชิงมองหน้าสามีด้วยสายตาที่เจ็บปวดเจียนตาย มองไปทางสหายที่ยืนยิ้มหวานด้วยความรู้สึกโกรธแค้น และมองไปทางพ่อสามีกับแม่สามีที่ยืนกอดอกมองดูนางราวกับเป็นเพียงคนไร้ค่าด้วยความรู้สึกสมเพชในตัวเอง มืออันสั่นเทาเขียนจดหมายลาตายเพียงประโยคสั้น ๆ
'ข้า... มู่เสี่ยวชิง ช่างไร้ความสามารถ ไม่สามารถปกป้องดูแลบุตรในครรภ์ได้ และข้าได้สูญเสียของ 'ล้ำค่า' ไปแล้ว ฉะนั้นข้าขอเอาชีวิตของตัวเองเป็นการเซ่นสังเวยให้กับดวงวิญญาณที่ข้าได้ทำผิดพลาดไปเพราะความโง่เขลาของตัวเอง ลาก่อน... ท่านพ่อ อาหราน ลูกนี้ผิดต่อท่าน!'
มู่เสี่ยวชิงนำจดหมายโยนใส่หน้าของสามี แล้วรับถ้วยยาพิษมาดื่มจนหมด จากนั้นร่างกายของนางก็ร้อนผ่าวเพราะถูกยาพิษกัดกร่อนอวัยวะภายในจนแหลกลาญ เพียงไม่ถึงครึ่งเค่อนางก็สิ้นลมไปทั้งอย่างนั้น ดวงตาทั้งสองข้างจับจ้องทุกคนที่อยู่ตรงนี้ด้วยความโกรธแค้น... แค้นในความโง่เขลาของตน และแค้นที่เชื่อใจคนผิด
นางขอสาบาน! แม้นางตาย นางก็จะทำให้ทุกคนที่ทำชั่วกับนางต้องรับกรรมไปด้วยเช่นกัน!!
"จบสิ้นกันเสียทีนะเจ้าคะ ต่อไปข้าก็จะได้แต่งเข้ามาเป็นฮูหยินเอกของท่านพี่ได้เสียที"
"ใช่แล้ว... ที่เหลือก็แค่ไปนำโสมพันปีมอบให้กับท่านอ๋อง"
"แล้วที่ท่านพี่สัญญาว่าจะปล่อยคนตระกูลมู่เล่าเจ้าคะ มิใช่ว่าท่านอ๋องต้องการกำจัดแม่ทัพมู่ที่ซื่อสัตย์เกินไปด้วยมิใช่หรือ"
"ข้าบอกว่าจะปล่อย แต่ก็ใช่ว่าท่านอ๋องจะปล่อยไปนี่น่า"
"ท่านพี่ช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก ฮ่าฮ่าฮ่า"
ทั้งสองหัวเราะให้แก่กันอย่างมีความสุข โดยมีบิดามารดาของเขามาร่วมยินดีกับเรื่องนี้ด้วย ต่อไปนี้ตระกูลเฉิงของพวกเขาก็จะมีแต่เจริญรุ่งเรืองสืบไป!!
การตายของมู่เสี่ยวชิงกลายเป็นการจุดชนวนความแค้นของคนผู้หนึ่งและคนตระกูลมู่ หลังจากได้รับจดหมายบิดาของมู่เสี่ยวชิงอ่านเพียงครั้งเดียวก็รับรู้ถึงความนัยที่ซ่อนอยู่ ที่บุตรสาวของเขาดื่มยาพิษเพื่อฆ่าตัวตายเพราะเสียใจเรื่องลูกนั้นไม่จริงเลย แท้จริงแล้วนางถูกคนตระกูลเฉิงบีบคั้นต่างหากเล่า เรื่องโสมพันปีที่ตระกูลเขาได้ครอบครองได้ถูกคนพวกนั้นล่วงรู้เสียแล้ว ฉะนั้นเพื่อไม่ให้การตายของบุตรสาวต้องสูญเปล่า คนตระกูลมู่จึงได้ชิงนำโสมพันปีที่เก็บไว้ในห้องลับของจวนไปมอบให้กับคนผู้หนึ่ง
หลังจากนั้นการตายของมู่เสี่ยวชิงก็ได้รับการสอบสวน พวกเขาได้คืนความยุติธรรมให้แก่นางพร้อมกับนำร่างของนางมาฝังยังสุสานตระกูลมู่
คนตระกูลเฉิงรวมถึงสหายของนางที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ถูกลงโทษสถานหนัก นี่คือผลจากความโลภของพวกเขาทั้งสิ้น!!
