บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 โอกาสใหม่

ฤดูใบไม้ผลิ ปี 1936 ณ คฤหาสน์นายพล

เพล้ง!

"คุณทำอะไรน่ะ!" ที่มุมบันไดชั้นสาม สาวใช้มองถ้วยยาที่แตกกระจายบนพื้นแล้วกระทืบเท้าตะโกนเสียงดัง "นายหญิงน้อย หากคุณดูแลท่านนายพลน้อยไม่ได้ ก็อย่ามาเกะกะที่นี่ได้ไหมคะ!"

หลี่เสวียนชิงอธิบายอย่างหวาดกลัว "เธอพุ่งออกมากะทันหัน ฉัน...ฉันไม่ทันเห็น..."

สาวใช้ขัดจังหวะเสียงแหลมสูง "หมายความว่าฉันเป็นสาเหตุทำให้ถ้วยยาตกอย่างนั้นหรือคะ!"

"ไม่...ไม่ใช่" หลี่เสวียนชิงตกใจจนตัวสั่น ถอยหลังเล็กน้อย เสียงของเธอค่อยๆ เบาลงจนแทบไม่กล้าอธิบายต่อ

สาวใช้เห็นดังนั้นก็ยิ่งได้ใจ ใช้ปลายรองเท้าจิ้มเศษถ้วยยาแล้วพูดอย่างดูแคลน "ในเมื่อรู้ว่าผิด จะยืนโง่อยู่ทำไม… รีบเก็บสิ! อย่าคิดว่าแต่งเข้ามาแล้วจะกลายเป็นเจ้านายอย่างแท้จริง ตอนนี้ท่านนายพลน้อยยังไม่ฟื้น หากท่านฟื้นขึ้นมาเมื่อไร ท่านคงขับไล่คุณกลับบ้านแน่!"

หลี่เสวียนชิงชะงัก เงยหน้าขึ้นมองสาวใช้ด้วยสายตาตกตะลึง

"มองอะไรคะ เรื่องที่ฉันพูดก็เป็นความจริงทั้งนั้น" สาวใช้เชิดหน้าพูด เธอรู้ดีว่าท่านนายพลนั้นมีคนอยู่ในใจ หากเขาฟื้นขึ้นมาจะต้องไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปเป็นอย่างแรก

"ฉัน..." สีหน้าของหลี่เสวียนชิงซีดเผือด พยายามจะเอ่ยปากโต้ตอบหลายครั้งแต่ก็ไม่กล้าพอ เธอทำได้เพียงหันไปมองทางเตียงในห้องเพื่อขอความช่วยเหลือ

ผู้ชายที่กำลังนอนอยู่บนนั้นคือสามีของเธอ เขาถูกลอบสังหารและหมดสติไปนานถึงสามเดือนแม้จะรู้ว่าเขาไม่อาจปกป้องเธอได้ แต่ในคฤหาสน์ของนายพลแห่งนี้ เธอมีเพียงเขาให้พึ่งพิงเท่านั้น

ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ เธอไม่ได้เห็นร่างที่ยังคงหลับใหลของอีกฝ่าย แต่กลับสบเข้ากับดวงตาคมเข้มดุจหมึกคู่หนึ่ง

หลี่เสวียนชิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ "ท่านนายพลน้อย!"

สามีของเธอ…ที่หมดสติไปสามเดือน... ตื่นขึ้นมาแล้ว!

ในเมืองฉีโจวแห่งนี้ เนื่องจากนายพลใหญ่ต้องออกศึกอยู่ตลอด ทำให้ภายในเวลาหนึ่งปีได้กลับบ้านไม่ถึงยี่สิบวัน เจ้าของอำนาจที่แท้จริงของเมืองฉีโจวกลับเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเขา นายพลน้อยโม่เป่ยตง

โม่เป่ยตงเคยไปศึกษาต่อต่างประเทศ ได้รับการศึกษาสมัยใหม่ พูดภาษาเยอรมันได้คล่องแคล่ว เป็นสุภาพบุรุษเพียบพร้อม ทั้งเก่งกาจด้านบุ๋นและบู๊ เป็นชายในฝันของสาว ๆ ทั่วเมืองฉีโจว

ขณะที่นายพลใหญ่นำทัพออกศึก เขาผู้เป็นลูกชายก็คอยอยู่เบื้องหลังสนับสนุน ส่งเสบียง ควบคุมสถานการณ์ วางกลยุทธ์มากมายช่วยผู้เป็นพ่อพิชิตศัตรูจนนายพลใหญ่ยังอดชมไม่ได้ วางใจให้ดูแลเมืองแทน

แต่แล้วเมื่อสามเดือนก่อน

นายพลใหญ่ยกกองกำลังไปไล่พวกต่างชาติที่มารุกราน พวกคนเหล่านั้นที่รอดชีวิตไม่ยอมแพ้ เมื่อรู้ว่าคนที่วางแผนการรบคือนายพลน้อยโม่เป่ยตง ก็แอบส่งมือสังหารเข้ามาในเมืองฉีโจว และลอบโจมตีในตอนที่ชายหนุ่มไปร่วมงานเลี้ยง

โม่เป่ยตงไม่ทันได้ระวังตัว ก็ถูกยิงบาดเจ็บ โชคดีที่หลี่เสวียนชิงซึ่งอยู่ในงานช่วยปกป้องเขา ทำให้รอดมาได้

หลังจากนั้นพวกมือสังหารก็ถูกล้อมจับตาย โม่เป่ยตงถูกส่งเข้าโรงพยาบาล แต่เนื่องจากเสียเลือดมากเกินไป เขาจึงหมดสติไปไม่ฟื้น

ในขณะเดียวกัน…

คุณนายใหญ่เป็นห่วงลูกชาย นอกจากเฝ้าอยู่ข้างเตียงทุกวันแล้ว ยังไม่รู้ว่าไปได้ยินมาจากที่ไหนว่าการแต่งงานเพื่อเสริมดวง จะช่วยให้ลูกชายฟื้นได้ เธอจึงดูดวง และจับคู่เทียบดวงชะตา ทำให้พบว่าหลี่เสวียนชิงเป็นคู่ที่เหมาะสมและเสริมดวงให้โม่เป่ยตง จึงตัดสินใจให้ลูกชายที่ยังไม่ได้สติแต่งงานกับเธอ

อันที่จริงตระกูลโม่และตระกูลหลี่ เคยมีสัญญาหมั้นหมายปากเปล่ากันมาตั้งแต่ที่ทั้งคู่ยังเด็ก หลี่เสวียนชิงคือคู่หมั้นของโม่เป่ยตง การแต่งงานครั้งนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

หลังจากราชวงศ์เก่าล่มสลาย บรรดานายพลก็มีอำนาจในเขตพื้นที่ปกครองของตนเอง ตระกูลโม่ยิ่งเจริญรุ่งเรือง ส่วนตระกูลหลี่ที่เป็นขุนนางเก่ากลับตกต่ำ สัญญาหมั้นจึงแทบจะเป็นเพียงคำพูดในอดีต ไม่มีความหมายอีกต่อไป กระทั่งตัวโม่เป่ยตงและหลี่เสวียนชิงเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองมีคู่หมั้น

แต่บัดนี้…คุณนายใหญ่กลับเปลี่ยนใจ

เมื่อข่าวนี้ถึงหูตระกูลหลี่ ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก รีบเตรียมสินสอดสมบัติครึ่งหนึ่งของตระกูลให้บุตรสาว และรีบจัดพิธีแต่งงานให้หลี่เสวียนชิงเข้าคฤหาสน์ท่านนายพล

เวลาผ่านไป…

ตอนนี้หลี่เสวียนชิงแต่งเข้าบ้านนายพลมาได้สามเดือนแล้ว

โม่เป่ยตงยังคงไม่ได้สติ คุณนายใหญ่เริ่มลังเลกับความเชื่อเรื่องแต่งงานเสริมดวง ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดที่ตัดสินใจเร็วเกินไป ความเมตตาที่มีต่อหลี่เสวียนชิงในช่วงแรกก็จางหายไป กลับกลายเป็นความเย็นชาและเฉยเมย

หลี่เสวียนชิงจึงไม่มีใครให้พึ่งพิงและตกอยู่ในฐานะต่ำต้อยที่สุดในคฤหาสน์ท่านนายพล

แม้จะได้รับความอับอายมากมาย แต่เธอก็ไม่กล้าไปฟ้องที่บ้านเพราะพ่อของเธอก็พึ่งพาไม่ได้เช่นกัน หญิงสาวจึงได้แต่ดูแลโม่เป่ยตงที่ยังไม่ฟื้นทุกวัน และมองเขาเป็นที่พึ่งพิง

ก่อนแต่งงาน หลี่เสวียนชิงเคยบังเอิญพบโม่เป่ยตง และตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งได้แต่งเข้าคฤหาสน์นายพลและได้ดูแลเขา เธอยิ่งหลงรักอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก

ในตอนนี้โม่เป่ยตงฟื้นขึ้นมาแล้ว…

หลี่เสวียนชิงดีใจเหลือเกิน เธอรีบเดินไปข้างเตียงของผู้เป็นสามีโดยไม่สนใจคนรับใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้าง “คุณฟื้นแล้ว!”

โม่เป่ยตงพยักหน้าเบาๆ เขาสวมชุดนอนผ้าไหมสีดำ ช่วงคอถูกเปิดออกจนเห็นแผงอกสีขาวซีดเพราะไม่ได้เจอแสงแดดเป็นเวลานาน ชายหนุ่มหันศีรษะ ดวงตาสีดำดุจหมึกมองหลี่เสวียนชิงไม่กะพริบ

หลี่เสวียนชิงชะงัก รู้สึกอายขึ้นมา ใบหน้าขาวนวลขึ้นสีแดงจาง ๆ ก้มหน้าหลบสายตาของชายหนุ่ม

“ท่านนายพลน้อย…ท่านฟื้นแล้วหรือคะ!” อีกด้านหนึ่ง คนรับใช้ที่ตกตะลึงได้สติทันที เธอรีบเข้ามาหาโม่เป่ยตง พร้อมกับเบียดหลี่เสวียนชิงออกไปเพื่อจะได้เป็นคนดูแลโม่เป่ยตงเอง

หลี่เสวียนชิงไม่ทันตั้งตัว ถูกกระแทกจนเซไปชนกับราวแขวนเสื้อผ้า จนต้องร้องอุทานเบา ๆ เพราะความเจ็บ

โม่เป่ยตงขมวดคิ้ว ดวงตาคมกริบตวัดมองไปทางคนรับใช้ ก่อนกล่าวเพียงคำเดียวด้วยเสียงแหบเบาแต่ก็ฟังแล้วทรงอำนาจ

“ไสหัวไป!”

คนรับใช้หน้าซีดเผือด ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด แต่ยังคงยืนนิ่งเพราะอยากขอร้องให้เขาเมตตา

โม่เป่ยตงเสียงเย็นชา “ต้องให้พูดซ้ำ?”

ขาของคนรับใช้แทบทรุดลงกับพื้น รีบโค้งตัวคำนับแล้ววิ่งหนีออกไปทันที

หลี่เสวียนชิงมองเขาอย่างตกตะลึง ไม่รู้ว่าตนควรจะออกไปด้วยหรือไม่

โม่เป่ยตงเห็นแล้วก็เข้าใจ เขาจึงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “ไปตามหมอมาให้หน่อย”

หลี่เสวียนชิงรีบตอบ “ได้ค่ะ! ฉันจะไปตามเดี๋ยวนี้” พูดจบก็รีบออกไปทันที

ภายในห้องเงียบลง โม่เป่ยตงลองขยับนิ้วมือเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงพลังในร่างกาย ดูเหมือนว่าหยดน้ำในถ้ำจะมีความเกี่ยวข้องกับสภาวะร่างกายของเขาในตอนนี้

ชายหนุ่มเปิดผ้าห่ม ลุกขึ้นไปห้องน้ำ เพราะนอนสลบมาสามเดือนทำให้เขาอ่อนแรงอยู่บ้าง แต่เขาก็สามารถลุกขึ้นยืนได้

ในขณะที่ถอดชุดออกเขาก็หยุดชะงัก เมื่อเห็นว่าบริเวณต้นแขนของตนมีปานรูปหยดน้ำปรากฏ ชายหนุ่มจึงเอื้อมมือไปสัมผัส...

ทันใดนั้นก็ปรากฏพื้นที่วิเศษขึ้นเบื้องหน้า ในนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากบ่อน้ำที่เปล่งประกายระยิบระยับ

เขาคิดว่าอาจจะเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ นี่เป็นของดีแต่ไม่รู้ว่าจะเอาออกมาดื่มได้หรือไม่

ชายหนุ่มรีบออกไปหยิบแก้วที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมา หลังจากนั้นก็สัมผัสปานรูปหยดน้ำอีกครั้ง เบื้องหน้าปรากฏพื้นที่พิเศษขึ้นมา และเขาก็สามารถตักน้ำออกมาได้

โม่เป่ยตงรีบยกแก้วขึ้นดื่ม และก็เป็นอย่างที่คิดร่างกายที่อ่อนแรงก็ดีขึ้นจริงๆ

ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้มอบพรให้ แต่เขาก็คำนับขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ในอนาคตน้ำจากบ่อวิเศษเขาต้องใช้มันอย่างคุ้มค่าที่สุด

โม่เป่ยตงกลับมานั่งที่เตียง กวาดตามองไปรอบห้อง…

ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา หลี่เสวียนชิงเป็นคนดูแลเขา ห้องนี้จึงเต็มไปด้วยร่องรอยของเธอ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ประดับห้อง ปลอกหมอนหรือผ้าห่มก็เป็นเธอที่เย็บให้เขา

ชายหนุ่มตั้งใจเอาไว้แล้วว่าชาตินี้จะรักและดูแลเพียงภรรยาของเขาเท่านั้น

ส่วนคนอื่นก็ปล่อยไปตามเวรตามกรรมเถอะ!

ในขณะที่อยู่ในห้วงความคิด เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นนอกประตู

โม่เป่ยตงละสายตาไปมอง เห็นหลี่เสวียนชิงเดินนำหมอเข้ามา หน้าผากของเธอมีเหงื่อซึม ท่าทางดูอ่อนล้าและน่าสงสาร

ริมฝีปากของโม่เป่ยตงยกขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว…
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel