บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ซืออี้คนงาม [2/2]

หลังจากวันนั้นเยว่เล่อก็แวะเวียนไปหาเฟินหัวและซืออี้ทุกวันแม้พวกเขาจะดูรำคาญและไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากไล่นางเช่นที่ผ่านมาแล้ว เห้อจริง ๆ แล้วพวกเจ้ารักเยว่เล่อผู้นี้จากตรงไหนกันแน่สตรีที่ขายสามีของตัวเองอีกทั้งยังปล่อยพวกเขาจนมีสภาพเช่นนี้มีตรงไหนให้รักกัน

"เห้อ...ความรัก ทำให้คนตาบอดจริง ๆ สินะ"

เยว่เล่อพึมพำกับตัวเองเบา ๆ นางเท้าคางจ้องมองซืออี้ที่กำลังก้มหน้าอ่านตำราโดยไม่สนใจนางแต่อย่างใด นางได้แต่ชื่นชมรูปโฉมของคนตรงหน้าในใจ เป็นบุรุษที่งดงามจริง ๆ

"ซืออี้"

"....."

"ซืออี้"

"....."

"ซืออี้คนงามจ๋า"

"เยว่เล่อ"

ซืออี้ที่ได้ยินว่าคนตรงหน้าเรียกเขาว่าคนงามก็หมดความอดทน เขาวางตำราที่อยู่ในมือลงก่อนจะเงยหน้ามองเยว่เล่ออย่างคาดโทษแต่ดูเหมือนคนที่ถูกคาดโทษจะไม่สำนึกผิดแต่อย่างใด เพราะนางยังคงส่งยิ้มหวานพิมพ์ใจส่งมาให้เขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

"เจ้าชิมขนมหูปิ่งนี่สิ ข้าตั้งใจนำมาให้เจ้าจากใจจริงเลยนะ"

"เจ้าใส่ยาอะไรเข้าไปหรือ"

"ซืออี้อย่าพูดเช่นนี้สิ แค่เฟินหัวที่ชอบระแวงในความหวังดีของข้าคนเดียวข้าก็ปวดใจจะแย่"

"......."

"คิดว่าพวกเราสนิทกันแล้วเสียอีก"

ซืออี้ที่เห็นคนตรงหน้าแสร้งสีหน้าเศร้าเล่าความในใจก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ทั้งที่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังโกหกเขาก็ยังใจอ่อนยินยอมให้นางหลอกอยู่บ่อยครั้ง มือหนาหยิบขนมหูปิ่นขึ้นมากัดหนึ่งคำ

เยว่เล่อที่เห็นว่าซืออี้ยินยอมกินขนมที่นางนำมาแต่โดยดีก็ยกยิ้มออกมาอย่างลืมตัว แม้ซืออี้จะดูเย็นชาไม่ค่อยพูดแต่เขาก็ยินยอมรับฟังและใส่ใจความรู้สึกของนาง ต่างจากเฟินหัวที่จะคอยพูดจิกกัดนางยามที่เจอหน้าทุกครา

"ซืออี้ข้าชอบเจ้ามากกว่าเฟินหัวเสียอีก"

ซืออี้ที่ได้ฟังคำสารภาพรักจากคนตรงหน้าแบบไม่ทันตั้งตัวก็ถึงกับสำลักขนมที่กินเข้าไป เขาคว้าถ้วยน้ำชาที่อยู่ตรงหน้ามาดื่มอย่างร้อนรนพลางมองเยว่เล่อที่กำลังชี้นิ้วมาที่ถ้วยน้ำชาในมือของเขา

"คือว่า...น้ำชานั่นข้าดื่มไปแล้วเมื่อครู่"

เยว่เล่อพูดออกมาด้วยน้ำเสียงลำบากใจไม่ใช่ว่านางคิดมากหรืออะไร แต่กลัวว่าคนนั่งอยู่ตรงหน้าที่เผลอดื่มน้ำชาต่อจากนางจะกระอักเลือดตายเสียก่อน ดูจากที่ใบหน้าแดงเช่นนั้นคงโกรธข้ามากใช่หรือไม่ข้าควรพูดแก้สถานการณ์ก่อนสินะ

"ตะ...แต่ว่าข้าดื่มไปนิดเดียวน้ำชาสัมผัสริมฝีปากข้าเพียงนิดเดียวเท่านั้นเจ้าไม่จำเป็นต้อง..."

"......."

"ถ้างั้นข้าดื่มน้ำชาของเจ้า แบบนี้ถือว่าเราหายกันดีหรือไม่"

"นี่เจ้า!!!"

ซืออี้เบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าเยว่เล่อกำลังเดิมน้ำชาในถ้วยชาของเขาจนหมดนางคว่ำถ้วยน้ำชาให้เขารับรู้ว่านางได้ดื่มลงไปจริง ๆ นี่ข้าควรทำเช่นไรกับนางดี!!!

"ซืออี้แบบนี้เจ้าก็หายโกรธข้าเถอะนะ"

"โกรธ"?

"ก็ใบหน้าของเจ้ามันแดงไปหมดทั้งหน้าเลย หากไม่ใช่ว่าโกรธข้าแล้วคืออะไร"

"ข้าก็แค่....ช่างเถอะ"

ซืออี้พูดออกมาเสียงเรียบพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ให้รู้สึกหวั่นไหวกับเหตุการณ์ตรงหน้า นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่นางทำให้เขาทำตัวไม่ถูกเช่นนี้

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ข้าคงตกหลุมพรางนางเข้าสักวัน...

"ซืออี้ข้าพึ่งสังเกตว่าแม้แต่นิ้วมือของเจ้าก็งดงาม"

"......."

"ต่างจากข้าดูสิทั้งที่เป็นสตรีแท้ ๆ งดงามสู้เจ้าไม่ได้เลย"

ซืออี้ไม่ได้ตอบอะไรเขาเพียงก้มหน้าอ่านตำราตรงหน้าแม้ตอนนี้จะอ่านไม่รู้เรื่องเลยก็ตาม ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะคนตรงหน้าเอาแต่พูดชื่นชมเขาไม่หยุดปากอย่างไรเล่าข้าจะมีใจอ่านตำราได้อย่างไร

ชื่นชมว่าข้างดงามทั้งที่ตัวนางเองงดงามจนบุรุษยากจะละสายตาด้วยซ้ำ

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าซืออี้ที่ถูกเยว่เล่อหยอดคำหวานมาตลอดหลายวันในยามนี้กำแพงในใจของเขาที่ตั้งไว้อย่างแข็งแรงมั่นคงเริ่มสั่นคลอนลง เขาถอนหายใจออกมาหลังจากที่เห็นว่าเยว่เล่อได้เดินกลับตำหนักไปแล้ว

"หากเป็นเช่นนี้ สักวันข้าคงพ่ายแพ้ต่อเจ้าจริง ๆ"

"เจ้าตกหลุมพรางนางแล้วหรือ"

เฟินหัวที่เฝ้าดูเหตุการณ์มาตลอดหลายวันก้าวเท้าเดินเข้ามาหาสหาย เขามองแผ่นหลังของเยว่เล่อที่กำลังเดินออกไปด้วยสายตายากคาดเดาในใจยังคงรู้สึกกังวลและระแวงต่อการกระทำของนาง

"เฟินหัว บางทีนางอาจเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ "

"ซืออี้หากเจ้าจะตกหลุมพรางที่นางขุดไว้ข้าก็ไม่คิดห้าม แต่ข้าแค่อยากเตือนในฐานะสหายนางคือเยว่เล่อสตรีที่ละโมบอย่าได้ลืม"

"ข้าแค่อยากลองเชื่อใจนางอีกสักครั้ง"

"เอาเถอะ ไว้นางคิดขายเจ้าเมื่อไหร่ข้าจะช่วยเจ้าสังหารนางเอง"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel