ตอนที่ 2 ผลตอบแทนของความรัก
ตอนที่ 2 ผลตอบแทนของความรัก
ทว่าความฝันนั้นต้องมืดสนิทราวกับโลกทั้งใบสูญเสียแสงสว่าง เมื่อจู่ ๆ สามีของเธอกลับมาพร้อมรถยนต์หลายคันจอดเทียบท่าอยู่หน้าบ้านตระกูลไป๋ อวี้หรานกลับมาจากที่ทำงานหัวใจของเธอเต้นแรงตึกตักดีใจไม่ได้เจอหน้าสามีมาแสนนานวันนี้ที่เธอรอคอยมาถึง สองเท้าก้าวเข้าไปในบ้านกลับต้องพังทลายไปทั้งหัวใจ เขายืนกอดอยู่กับหญิงสาวที่สง่างามไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่เธอใส่หรือแม้แต่การแต่งแต้มใบหน้า เมื่อเธอจ้องมองเสื้อผ้าตนเองราวกับสาวใช้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มกลายเป็นสลดและอับอาย
“อวี้หรานกลับมาแล้วสินะฉันรอเวลาที่เธอกลับมาเพื่อจะบอกว่าต่อจากนี้เธอไม่ต้องดูแลพ่อกับแม่ของฉันอีกต่อไป และลูกชายฉันจะพาเขาไปเรียนในเมืองมีอนาคตที่ดี ส่วนเธอกลับไปใช้ชีวิตของเธอเถอะขอบใจจริง ๆ ที่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ของฉันมาด้วยดีโดยตลอด อ่ะนี่คือค่าตอบแทนของเธอ” เขามองเธอด้วยสายตารังเกียจไม่มีความอบอุ่นที่เธอเคยถวิลหาเลยแม้แต่น้อย หัวใจของเธอแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ร่างเล็กสั่นเทาไปหมด
“ทำไมนายถึงพูดแบบนี้ ฉันเป็นภรรยาของนายนะเป็นแม่ของลูกของนายนะ เลิกล้อเล่นได้แล้ว”
“ฉันไม่ได้พูดเล่นและอีกไม่กี่วันฉันจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ยืนข้าง ๆ อย่าลืมว่าเธอกับฉันไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันดังนั้นเธอไม่ใช่ภรรยาของฉันตั้งแต่วันแรกที่เธอเหยียบเข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลไป๋แล้ว ”น้ำเสียงเย็นยาไร้ความรู้สึกจนคนฟังสั่นสะท้านไปถึงหัวใจ
“เหอะ ๆ นี่ฉันถูกหลอกใช้สินะ ฉันมันโง่จริง ๆ ที่หลงเชื่อคำพูดของนาย ไม่ว่ายังไงฉันไม่มีทางให้ลูกชายของฉันไปกับนายหรอก ฉู่อี้มาหาแม่เร็วเข้า” ตอนนี้อวี้หรานเริ่มรู้แล้วว่าตนเองโง่เขลาเพียงใดถูกครอบครัวนี้หลอกมาตั้ง 5 ปี
“เธอไม่มีสิทธิ์จะมาเลี้ยงดูหลานของฉัน ฉันไม่ต้องการให้หลานของฉันโง่เหมือนเธอ ” ไป๋ซินหย่าดึงตัวของฉู่อี้ออกไปไม่ให้สองแม่ลูกได้ร่ำลากันเด็กชายสะอึกสะอื้นไห้พยายามจะวิ่งมาหาแม่ เสียงร้องของเด็กชายช่างบีบหัวใจของผู้เป็นแม่เหลือเกิน เธอรีบวิ่งไปคว้าตัวลูกชายเข้ามากอดเธอไม่เสียดายเวลาเรื่องที่ผ่านมาแต่เธอจะไม่ยอมเสียลูกชายของเธอเด็ดขาด
“นายจะเอาอะไรก็เอาไปอย่าเอาลูกไปจากฉันเลยนะ ฉู่อี้คือดวงใจของฉัน” ร่างเล็กเริ่มสะอื้นไห้แต่ความใจดำของไป๋หงเทียนไม่ได้รู้สึกสะเทือนใจในคำพูดของอวี้หรานแม้แต่น้อย ตะโกนเรียกลูกน้องเข้ามาพาตัวของฉู่อี้ขึ้นรถ
“มาพาตัวฉู่อี้และออกรถเดินทางไปได้แล้ว”
“ไม่ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น คุณพ่ออย่าพรากผมจากคุณแม่เลยนะครับ”
“เด็กน้อยไปอยู่กับพวกเราเถอะ ฉันจะทำให้เธอลืมแม่ของเธอเอง เมื่อไหร่ที่ก้าวเท้าออกจากที่นี่มีเรื่องสนุก ๆ รออยู่อีกมากมายและต่อจากนี้คนที่จะเป็นแม่ของเธอคือฉัน ไปกันเถอะ” หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดึงตัวของเด็กชายผลักร่างของอวี้หรานล้มลงกับพื้นอย่างไร้ความปรานี
“ไม่ ! ผมจะอยู่กับแม่ คุณแม่ครับช่วยผมด้วย”
“ฉู่อี้ ฉู่อี้ลูกแม่ ปล่อยเขานะฉันขอร้องล่ะ” อวี้หรานกำลังจะลุกขึ้นแต่กลับถูกไป๋หงเทียนเตะข้าที่หน้าอกอย่างแรงเพื่อไม่ให้เธอมีแรงจะวิ่งตามไปที่รถก่อนจะโยนเงินจำนวนหนึ่งทิ้งไว้ข้าง ๆ กายของเธอ
“ฉันไม่ได้อยากใช้กำลังกับเธอหรอกนะ แต่ในเมื่อพูดไม่รู้เรื่องต้องเจอแบบนี้ เอานี่ไปซ่ะตอบแทนที่เธอเสียสละเวลาตลอด 5 ปี อย่าคิดแม้จะตามไปรังครานเพราะถึงคราวนั้นฉันอาจจะยิงเธอทิ้งอย่างไม่ใยดี” น้ำเสียงเย็นชาของคนที่เคยเอ่ยคำว่ารักทำให้ร่างเล็กสะสะท้านไปทั้งหัวใจ เธอเจ็บทั้งตัวและใจอยากจะลุกวิ่งตามไปยื้อแย่งลูกชายเท่าไหร่ก็มิอาจจะทำได้ เหมือนสวรรค์ไม่เป็นใจอาการที่เธอเป็นกำเริบเลือดค่อย ๆ ไหลออกมาจากรูจมูก เธอร่ำไห้จ้องมองแผ่นหลังของไป๋หงเทียนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นรถยนต์ เสียงร้องไห้ของเด็กชายก้องกังวาลในหูของเธอ เธอพยายามคลานออกไปยื่นมือไปด้านหน้าหาลูกชายตัวน้อย
“ฉู่อี้ลูกแม่ อย่าเอาเขาไปจากฉัน ฉู่อี้” ยิ่งครานไปเท่าไหร่เหมือนหนทางยิ่งไกลกว่าเดิม ร่างกายของเธอเริ่มทนไม่ไหวขยับกายไม่ได้อีกต่อไป ลมหายใจเริ่มโรยรินอย่างเชื่องช้า น้ำตาไหลรินออกมาเป็นสายเลือด หญิงสาวเฝ้าทำดีมาโดยตลอดนี่หรือคือการตอบแทนความจงรักภักดีของเธอ ก่อนที่ลมหายใจสุดท้าย เธอด่าทอสวรรค์ โชคชะตาและฝังความแค้นของคนตระกูลไป๋ในส่วนลึกของหัวใจหากมีโอกาสอีกครั้ง เธอจะไม่ยอมทำงานถวายหัวให้ใครอีก
“สวรรค์ไม่เคยเมตตาต่อฉัน ทำให้ฉันเป็นเด็กกำพร้าไม่พอยังมาพรากลูกชายให้กลายเป็นเด็กกำพร้าเหมือนฉัน นี่หรือผลการเป็นคนดีนี่คือผลการตอบแทนของสวรรค์หรือ? น่าเวทนาจริง ๆ ฉันหมดศรัทธา ความชั่วช้าของคนตระกูลไป๋ต้องได้รับกรรมที่ทำไว้กับฉัน ฉันขอสาปแช่งให้พบเจอแต่ความทุกข์ชีวิตพังทลายเหมือนที่ทำไว้กับฉัน แค่ก ๆ ” ร่างเล็กสติเลือนรางลงช้า ๆ พร้อมคำสาปแช่งความแค้นที่มีต่อครอบครัวตระกูลไป๋ ลมหายใจหยุดลงทว่าดวงตาของเธอยังเบิกโพลงจ้องมองไปเบื้องหน้าทั้งแค้นและเป็นห่วงลูกชาย
